เศรษฐกิจ

อสังหาฯ

การเคหะฯ ย้ำ ! รื้อแฟลตดินแดงเก่าไร้ผลกระทบ

การเคหะแห่งชาติเร่งรื้อถอนอาคารเดิมเพื่อเตรียมพื้นที่ก่อสร้างโครงการฟื้นฟูเมืองชุมชนดินแดง ระยะที่ 2 ซึ่งอยู่ระหว่างการประกาศร่าง TOR คาดว่าจะได้ผู้รับจ้างดำเนินก่อสร้างโครงการฯ ในเร็วๆ นี้ นายธัชพล กาญจนกูล ผู้ว่าการการเคหะแห่งชาติ กล่าวว่า  ขณะนี้ความคืบหน้าการพัฒนาโครงการรองรับผู้อยู่อาศัยเดิม ระยะที่ 2 อยู่ระหว่างการดำเนินการรื้อถอนอาคารแฟลต 18 – 22 เพื่อเตรียมพื้นที่ก่อสร้างอาคารใหม่ ดำเนินการระหว่างเดือนธันวาคม 2561 ถึงเดือนกุมภาพันธ์ 2562 โดยบริษัท แก่นนคร คอนสตรัคชั่น เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด เพื่อเตรียมพื้นที่ก่อสร้างโครงการฟื้นฟูเมืองชุมชนดินแดง ระยะที่ 2 ปัจจุบันมีความคืบหน้าการรื้อถอน 15%โดยมีมาตรการป้องกันภัยเพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบกับประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่บริเวณใกล้เคียง โดยได้มีการติดป้ายเตือนเขตพื้นที่อันตรายและล้อมรั้วบริเวณรอบอาคารเพื่อไม่ให้ประชาชนหรือผู้สัญจรผ่านไปมาเข้ามาในบริเวณพื้นที่รื้อถอนอาคาร รวมทั้งมีการฉีดน้ำเป็นระยะๆ เพื่อไม่ให้ฝุ่นละอองฟุ้งกระจายไปในอากาศ และที่สำคัญการรื้อถอนอาคารไม่มีผลกระทบใดๆ กับอาคารบริเวณใกล้เคียงขอให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ในบริเวณใกล้เคียงไม่ต้องวิกังวลใดๆ นอกจากนี้ยังได้มอบหมายให้นักสังคมของการเคหะแห่งชาติลงพื้นที่ประชาสัมพันธ์โครงการฟื้นฟูเมืองชุมชนดินแดง ระยะที่ 2 เพื่อชี้แจงข้อมูลการดำเนินงานโครงการฯ เป็นรายห้อง (Knock Door) ให้กับผู้อยู่อาศัยอาคารแฟลตที่ 9 – 17, 23 – 32 และ 63 – 64 พร้อมทั้งตรวจสอบข้อมูลการอยู่อาศัยตามข้อมูลการสำรวจเดิมเมื่อปี 2559 จำนวน 1,160 หน่วย (เด็ก/ผู้สูงอายุ/คนพิการ และครอบครัวขยาย) พร้อมยืนยันสิทธิเช่า (เช่าอาคารใหม่/รับเงินชดเชย) เพื่อสรุปข้อมูลทั้งหมดให้เป็นปัจจุบัน ซึ่งหากกำหนดวันลงพื้นที่ได้แน่นอน การเคหะแห่งชาติจะประชาสัมพันธ์ให้ทราบทั่วกันอีกครั้ง...
เศรษฐกิจ

สภาอุตฯคาดยอดผลิตรถปีนี้วูบ 0.82 %จากเทรดวอร์

นายสุรพงษ์ ไพสิฐพัฒนพงษ์ รองประธานและโฆษกกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรม            แห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.)  เปิดเผยว่า ประมาณการการผลิตรถยนต์ในปี พ.ศ.2562 ประมาณ 2,150,000 คัน ลดลง  0.82 % เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านนมา โดยแบ่งเป็นการผลิตเพื่อการส่งออกประมาณ 1,100,000 คัน เท่ากับ 51% ของยอดการผลิตทั้งหมด ลดลง 3.74%  เพราะยังกังวลสงครามการค้า หรือเทรดวอร์ ที่เริ่มมีผลกระทบในหลายประเทศแล้ว   และผลิตเพื่อจำหน่ายในประเทศประมาณ 1,050,000 คัน เท่ากับ 49 %ของยอดการผลิตทั้งหมด เพิ่มขึ้น 2.44 %  ตามการเติบโตของเศรษฐกิจในประเทศที่คาดว่าจะอยู่ที่ 3.5-3.8 %ในปี 2562 ประมาณการการผลิตรถจักรยานยนต์ในปี พ.ศ.2562 ประมาณ 2,140,000 คัน เพิ่มขึ้น  3.73 %โดยแบ่งเป็นการผลิตเพื่อการส่งออกประมาณ 360,000 คัน เท่ากับ 17% ของยอดการผลิตทั้งหมด ลดลง 3.01% และผลิตเพื่อจำหน่ายในประเทศประมาณ 1,780,000 คัน เท่ากับ 83% ของยอดการผลิตทั้งหมด เพิ่มขึ้น 5.21% กลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์  สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ประมาณการการผลิตรถยนต์และรถจักรยานยนต์ เพื่อการส่งออก และเพื่อจำหน่ายในประเทศ  ปี พ.ศ. 2562 รถยนต์ พ.ศ.2562 (คาดการณ์) พ.ศ.2561 เปลี่ยนแปลง %เปลี่ยนแปลง ผลิตเพื่อส่งออก 1,100,000 1,142,733 -42,733 -3.74% ผลิตเพื่อจำหน่ายในประเทศ 1,050,000 1,024,961 25,039 2.44% รวมผลิตรถยนต์ 2,150,000 2,167,694...
เศรษฐกิจเศรษฐกิจมหาภาค

นิสสันไทยฉลองส่งออกรถยนต์ครบ 1 ล้านคัน

นิสสันเดินหน้าบันทึกประวัติศาสตร์ครั้งสำคัญ จากความสำเร็จในการผลิตรถยนต์เพื่อการส่งออกจากฐานการผลิตในประเทศไทยไปยังจุดหมายปลายทางทั่วโลกครบ 1 ล้านคัน  ซึ่งรถยนต์คันที่ 1 ล้าน คือ นิสสัน เทอร์ร่า ใหม่ รถยนต์อเนกประสงค์พรีเมียมเอสยูวีแบบตัวถังบนแชสซีส โดยเป็นรถยนต์ที่โรงงานนิสสัน ประเทศไทยดำเนินการผลิตเพื่อส่งออกไปยังทั่วโลก นิสสันประเทศไทย  เริ่มทำการส่งออกรถยนต์คุณภาพสูงที่ผลิตขึ้นในประเทศไทยไปสู่ลูกค้าทั่วโลก นับตั้งแต่ปีพ.ศ.2542โดยนิสสันฟรอนเทียร์คือรถยนต์รุ่นแรกที่ถูกส่งออกไปยังประเทศออสเตรเลีย    นับแต่นั้นเป็นต้นมาฐานการผลิตของนิสสัน ประเทศไทย ได้มีการขยายตัวเพื่อรองรับการเติบโตที่เพิ่มสูงขึ้นจนได้รับการยอมรับให้เป็นศูนย์กลางการผลิตสำคัญของนิสสันในภูมิภาคเอเชียและโอเชียเนีย ทำหน้าที่สำคัญในการผลิตรถยนต์คุณภาพส่งถึงมือลูกค้าผู้ขับขี่จากทั่วทุกมุมโลก ในปีที่ผ่านมาตลาดส่งออกสูงสุด 3 อันดับแรกของนิสสันประเทศไทยได้แก่ฟิลิปปินส์ ออสเตรเลีย และญี่ปุ่น  ตามด้วยอินโดนีเซียมาเลเซีย  แอฟริกาใต้ เวียดนาม นิวซีแลนด์ ดูไบและโอมาน ตั้งแต่พ.ศ.2542 นิสสันได้ขยายการส่งออกรถยนต์จากประเทศไทยไปยังกว่า 115 ประเทศทั่วโลก โดยปัจจุบันรถยนต์ที่นิสสันประเทศไทยผลิตเพื่อการส่งออกมีจำนวน 6 รุ่นได้แก่  นิสสัน อัลเมลร่า  มาร์ช  นาวารา ซิลฟี่  เทียน่าและเทอร์ร่า   นอกจากนี้นิสสันยังได้ทำงานร่วมกับ 250 กว่าบริษัทที่อยู่ภายใต้ซัพพลายเชนของอุตสาหกรรมยานยนต์ ซึ่งก่อให้เกิดการว่าจ้างแรงงานอีกกว่า 170,000 อัตรา  และในปีพ.ศ.2561 นิสสันยังมีปริมาณการส่งออกรถยนต์ของไทยสูงสุดเป็นอันดับ 5 โดยมีอัตราเพิ่มขึ้นจากปีพ.ศ. 2560ถึง 19 % นายยูตากะ ซานาดะ  รองประธานอาวุโสของนิสสันเอเชียและโอเชียเนีย  กล่าวว่า“ความสำเร็จของนิสสัน        ในครั้งนี้เป็นการตอกย้ำถึงบทบาทของประเทศไทยที่มีความสำคัญต่อการขับเคลื่อนวิสัยทัศน์แห่งนวัตกรรม นิสสัน อินเทลลิเจนท์ โมบิลิตี้   ที่เน้นสร้างสรรค์รูปแบบการขับขี่ที่ปลอดภัยฉลาดและยั่งยืนให้แก่ผู้คนผู้ใช้รถบนท้องถนนทั่วทุกมุมโลก นอกจากนี้  ผมรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้เห็น นิสสัน เทอร์ร่า   รถยนต์เพื่อการส่งออกคันที่ 1 ล้านได้เดินทางออกจากท่าเรือแหลมฉบังในวันนี้  โดยนิสสัน เทอร์ร่า ซึ่งผลิตขึ้นในไทย สำหรับตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้โดยเฉพาะนั้น ได้รับเสียงตอบรับจากลูกค้าทั่วทั่งภูมิภาคเป็นอย่างดี” โดยนายยูตากะซานาดะ    กล่าวเสริมว่า“เราจะยังคงเดินหน้าลงทุนในระบบนิเวศอุตสาหกรรมยานยนต์อย่างต่อเนื่องตลอดไปจนถึงการส่งเสริมให้เกิดสร้างงานและกระตุ้นให้เกิดการหมุนเวียนของระบบเศรษฐกิจภายในประเทศพร้อมนำเอาประโยชน์จากอุตสาหกรรม 4.0 มาประยุกต์ใช้ให้เกิดคุณค่ากับประเทศไทย” ส่วนนายอันตวน  บาร์เตส ประธาน  บริษัท นิสสัน มอเตอร์...
เศรษฐกิจ

“บีเอฟกู๊ดริช’ ขยายฐานการผลิตมาไทย

‘บีเอฟกู๊ดริช’ (BFGoodrich) แบรนด์ยางรถยนต์ชั้นนำสายพันธุ์แกร่งซึ่งผลิตภายใต้การควบคุมคุณภาพจากโรงงานของมิชลิน ขยายฐานการผลิตเพิ่มจากเดิมที่อยู่ในสหรัฐอเมริกามาไทยตามกลยุทธ์ระดับโลกที่มุ่งทำการผลิตใกล้ตลาดจัดจำหน่าย พร้อมรุกตลาดยางรถยนต์ในไทยเต็มสูบตั้งแต่ต้นปี 2562 ด้วยศักยภาพความพร้อมของสายการผลิตมาตรฐานสากล ณ โรงงานแหลมฉบัง และเครือข่ายร้านค้าตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการกว่า 280 แห่งทั่วประเทศ นายเอกชัย คหการบำรุง ผู้อานวยการกลุ่มธุรกิจ B2C บริษัท สยามมิชลิน จำกัด ซึ่งเป็นผู้ดูแลการจัดจำหน่ายยาง ‘บีเอฟกู๊ดริช’ เปิดเผยว่า “ตั้งแต่เดือนมกราคม 2562 เป็นต้นไป โรงงานแหลมฉบังจะมีบทบาทสำคัญในการผลิตยาง ‘บีเอฟกู๊ดริช’ โดยเฉพาะอย่างยิ่งยางรุ่นยอดนิยมอย่าง ‘ออล เทอร์เรน ที/เอ เคโอ2’ สำหรับจัดจำหน่ายในประเทศไทย ตลอดจนส่งออกไปยังตลาดใกล้เคียง ทั้งในทวีปแอฟริกา ตะวันออกกลาง รวมถึงเอเชียและโอเชียเนีย โดยยังรองรับการผลิตยางอะไหล่แท้ป้อนโรงงานผลิตรถยนต์ชั้นนำ อาทิ ฟอร์ด, จีเอ็ม, อีซูซุ, มาสด้า และโตโยต้า ทั่วเอเชียด้วย” ทั้งนี้ ผลิตภัณฑ์ยาง ‘บีเอฟกู๊ดริช’ จากโรงงานแหลมฉบัง ไม่เพียงผ่านกระบวนการผลิต ควบคุมคุณภาพ และทดสอบสมรรถนะที่ได้มาตรฐานสากล แต่ยังผ่านกระบวนการทดสอบเพื่อยืนยันว่าผลิตภัณฑ์สอดคล้องกับกฎระเบียบ สภาพภูมิประเทศ และสภาพภูมิอากาศของท้องถิ่นอย่างแท้จริง (Homologation) เพื่อการใช้งานอย่างปลอดภัย ทั้งยังมีการรับประกันคุณภาพที่เชื่อถือได้นานถึง 6 ปีเต็มนับจากวันที่ซื้อหรือตลอดอายุการใช้งานของดอกยาง ภายใต้เงื่อนไขที่กำหนด “ในการรุกตลาดครั้งนี้ เรามีเครือข่ายพันธมิตรตัวแทนจำหน่ายที่แข็งแกร่งกระจายอยู่ทั่วประเทศ ทั้งศูนย์บริการรถยนต์ไทร์พลัส 124 แห่ง และร้านค้าตัวแทนจำหน่ายที่ได้รับการแต่งตั้งอย่างเป็นทางการของมิชลินอีก 158 แห่ง เพื่อให้ลูกค้าสามารถเข้าถึงผลิตภัณฑ์ ‘บีเอฟกู๊ดริช’ ได้สะดวกยิ่งขึ้น ตลอดจนได้รับบริการทั้งก่อนและหลังการขายที่ดีที่สุด” นายเอกชัย กล่าวเสริม ผู้สนใจสามารถเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ยาง ‘บีเอฟกู๊ดริช’ ทุกรุ่น รวมถึงรุ่นเรือธงอย่าง ‘ออล เทอร์เรน ที/เอ เคโอ2’ (All Terrain T/A KO2) ซึ่งจะมีวางจำหน่ายในระยะแรกรวมทั้งสิ้น 10 ขนาด...
อสังหาฯเศรษฐกิจ

ทุ่มกว่า 4หมื่นล้านผุด“ตฤณ นครา”เมดิคัล รีสอร์ทที่เชียงราย

ตฤณ นครา ทุ่มงบ 4หมื่นล้าน นำธงนักลงทุนนานาชาติผุดโปรเจ็คยักษ์ “ตฤณ นครา โกลเด้น ไทรแองเกิ้ล” เนรมิตพื้นที่ กว่า 3,139ไร่ พัฒนาโครงการเขตเศรษฐกิจพิเศษเชียงแสนจ.เชียงราย ภายใต้แนวคิด “เมืองแห่งความสุข”เล็งผุดเมดิคัล รีสอร์ท  พร้อมแลนด์มาร์ก เสาธงชาติไทยสูงที่สุดในโลก นายตฤณ นิลประเสริฐ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ตฤณ อินโนเวชั่น กรุ๊ป จำกัดเปิดเผยว่าเชียงแสนเป็นพื้นที่ที่มีศักยภาพทางยุทธศาสตร์สูงในหลากหลายมิติ จากที่รัฐบาลได้กําหนดให้จังหวัดเชียงรายคือหนึ่งในเขตเศรษฐกิจพิเศษ ระยะที่ 2 ประกอบกับแผนพัฒนาจังหวัดเชียงราย ภายใต้แนวคิด “นวัตกรรมการท่องเที่ยวประเทศไทย 4.0”หรือ Tourism Innovation Thailand 4.0 ที่มุ่งสนับสนุนให้เชียงรายเป็น “เมืองแห่งการค้าการลงทุน การเกษตรและการท่องเที่ยว รุ่งเรืองด้วยวัฒนธรรมล้านนาประชาชนอยู่เย็นเป็นสุข”บริษัทฯ เล็งเห็นถึงโอกาสเพราะการเปิดเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษเชียงแสนเป็นการขยายโอกาสให้เด่นชัดขึ้น เนื่องจากเชียงแสนมีที่ตั้ง ณ จุดยุทธศาสตร์ของแนวรอยต่อพรมแดน3 ประเทศ ทั้งตั้งอยู่ ณ จุดศูนย์กลางของแนวเขตระเบียงเศรษฐกิจอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขงแนวเหนือ-ใต้ (North-South Economic Corridor) ซึ่งมีการพัฒนาโครงการต่างๆโดยเฉพาะอย่างยิ่งการเชื่อมโยงด้านการคมนาคมเพื่อความสะดวกด้านการค้าระหว่างประเทศจากประเทศจีนทางตอนใต้สู่ประเทศไทยผ่านเมียนมา และสปป.ลาวดังนั้น การยกระดับทั้งสามอำเภอของเชียงรายเป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษภาครัฐฯ ก็มีการเตรียมความพร้อมรองรับการขยายตัว(Infrastructure & facilities) ไว้หลายด้านทั้งด้านการคมนาคมเพื่อให้เกิดการเชื่อมต่อด้านการขนส่งนานาชาติในระดับภูมิภาค ด้านสิทธิประโยชน์ในด้านการลงทุน การเงิน และศุลกากร” ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของตฤณ นคราฯ ได้เผยเพิ่มเติมถึงศักยภาพด้านอื่นๆของเชียงแสนว่า “เชียงแสนตั้งอยู่ในแนวรอยต่อดินแดนของ 3 อารยธรรมที่มีการสืบทอดกันมายาวนาน ได้แก่ ประเทศไทย เมียนมา และสปป.ลาวนอกจากนี้ยังมีอารยธรรมชนเผ่าที่หลากหลายที่สุดของภูมิภาคนี้อีกทั้งยังมีธรรมชาติและภูมิประเทศที่สวยงาม มีศิลปวัฒนธรรมและประเพณีอันดีงาม ผู้คนเป็นมิตร อีกทั้งมีแม่นํ้าโขงไหลผ่านอำเภอเชียงแสนแล้ว และเนื่องจากเคยเป็นที่ตั้งของอาณาจักรโยนกซึ่งเป็นยุคแรกของประวัติศาตร์ที่เก่าแก่ที่สุดของไทย เชียงแสนจึงยังมีความโดดเด่นในด้านประวัติศาสตร์ มีมรดกทางโบราณสถานและวัฒนธรรมที่งดงาม ทำให้เชียงแสนวันนี้เป็นเมืองท่องเที่ยวที่ยังบริสุทธิ์ ซึ่งทั้งหมดนี้ทำให้นักลงทุนชาวต่างชาติมองเห็นความโดดเด่นและดึงดูดความสนใจด้านการลงทุน” “ตฤณ นครา โกลเด้น ไทรแองเกิ้ล” ได้รับความสนใจจากนักลงทุนจากหลากหลายประเทศ อาทิ มาเลเซียสิงคโปร์ญี่ปุน ฮ่องกง-จีน สหรัฐอเมริกาเป็นต้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งนักลงทุนในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้(ASEAN)โดยโครงการฯ...
เศรษฐกิจมหาภาค

ยอดขายรถ เดือน พ.ย.โกย 94,643 คัน เพิ่มขึ้น 21.2%

  นายสุรภูมิ อุดมวงศ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด รายงานสถิติการขายรถยนต์ประจำเดือนพฤศจิกายน 2561 มียอดการขายรวมทั้งสิ้น 94,643 คัน  เพิ่มขึ้น 21.2%  ประกอบด้วย รถยนต์นั่ง 35,446 คัน เพิ่มขึ้น 12.8% รถยนต์เพื่อการพาณิชย์ 59,197 คัน เพิ่มขึ้น26.9% ขณะที่ รถกระบะขนาด 1 ตัน ในเซกเมนท์นี้ มีจำนวน 48,612 คัน เพิ่มขึ้น 27.5%            ประเด็นสำคัญ 1) ตลาดรถยนต์เดือนพฤศจิกายนปริมาณการขาย 94,643 คัน เพิ่มขึ้น 21.2% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา โดยตลาดรถยนต์นั่งมีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้น 12.8% และตลาดรถยนต์เพื่อการพาณิชย์มีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้น 26.9% ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากความนิยมในรถยนต์รุ่นใหม่และความต้องการของผู้บริโภคที่เพิ่มขึ้น ตลอดจนกิจกรรมส่งเสริมการขายจากค่ายรถต่างๆที่ยังคงมีอยู่อย่างต่อเนื่อง 2) ตลาดรถยนต์สะสม 11 เดือน มีปริมาณการขาย 928,158 คัน เพิ่มขึ้น 21% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา โดยตลาดรถยนต์นั่งมีปริมาณการขายเติบโตเพิ่มขึ้น 17.9% ตลาดรถยนต์เพื่อการพาณิชย์มีปริมาณการขายเติบโตเพิ่มขึ้น 23% สะท้อนให้เห็นว่ามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลที่มีมาอย่างต่อเนื่องทั้งปี ไม่ว่าจะเป็นในด้านการลงทุนและการใช้จ่ายส่งผลให้ยอดขายสะสมตั้งแต่ต้นปีเติบโตขึ้นอย่างเห็นได้ชัด 3) ตลาดรถยนต์ในเดือนธันวาคม มีแนวโน้มเติบโต เนื่องจากเสถียรภาพทางเศรษฐกิจและการเมืองในประเทศมีสัญญาณดีขึ้น รวมถึงแผนการลงทุนของภาครัฐมีความชัดเจนมากขึ้น ประกอบกับการจัดงานThailand International Motor Expo 2018 ในช่วงต้นเดือนธันวาคม และความต่อเนื่องของกิจกรรมส่งเสริมการขาย ซึ่งจะส่งผลในเชิงบวกต่อตลาดรถยนต์ แต่อย่างไรก็ตามความกังวลต่อสถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างสหรัฐฯกับจีนยังคงมีอยู่ แต่ยังไม่ส่งผลต่อตลาดรถยนต์มากนัก...
เศรษฐกิจ

พ.ย.ผลิตรถขายในประเทศ เพิ่มกว่า  21 % แต่ส่งออกวูบ 9 %

นายสุรพงษ์  ไพสิฐพัฒนพงษ์  รองประธานและโฆษกกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า  จำนวนรถยนต์ทั้งหมดที่ผลิตได้ในเดือนพฤศจิกายน 2561 มีทั้งสิ้น 197,020 คัน เพิ่มขึ้น 3.49 %  เนื่องจากการผลิตรถยนต์นั่งและรถกระบะเพื่อจำหน่ายในประเทศ โดยมีความต้องการจากการแนะนำรถยนต์รุ่นใหม่และรองรับยอดจองรถยนต์ในงานมหกรรมยานยนต์เดือนธันวาคม จำนวนรถยนต์ที่ผลิตได้ในเดือนมกราคม - พฤศจิกายน 2561 มีจำนวนทั้งสิ้น 1,998,339 คัน เพิ่มขึ้น 9.1%แบ่งออกเป๋นรถยนต์นั่ง 817,158 คัน เท่ากับ 40.89 % ของยอดการผลิตทั้งหมด เพิ่มขึ้น 7.23 %               รถยนต์โดยสารขนาดต่ำกว่า 10 ตัน และมากกว่า 10 ตัน ขึ้นไป ผลิตได้ 495 คัน เพิ่มขึ้น 94.88 % รถกระบะขนาด 1 ตัน ผลิตได้ทั้งสิ้น 1,151,188 คัน เท่ากับ 57.6 %           ของยอดการผลิตทั้งหมด เพิ่มขึ้น 10.67  %                รถบรรทุกขนาดต่ำกว่า 5 ตัน - มากกว่า 10 ตัน ผลิตได้ 29,498 คัน เพิ่มขึ้น 1.42 % การส่งออก รถยนต์สำเร็จรูป เดือนพฤศจิกายน 2561 ส่งออกได้ 93,108 คัน ลดลง 9.64  % ลดลงจากเศรษฐกิจของประเทศคู่ค้าชะลอตัวที่ตลาดตะวันออกกลาง ตลาดออสเตรเลียและโอเชียเนียยังมีปัญหาเรื่องภาษี ตลาดอเมริกาเหนือยังคงลดลง และตลาดยุโรปที่ประเทศไทยถูกตัด GSP มูลค่าการส่งออก 48,092.72...
มาร์เก็ตติ้งเศรษฐกิจ

6 เหตุการณ์เด่นเขย่าไทยปี 2018

“บุพเพสันนิวาส”ฟีเวอร์ เริ่มต้นปี ด้วยกระแสความดังของละคร “บุพเพสันนิวาส” ที่อออกอากาศทางไทยทีวีสีช่อง 3 เพียงไม่นาน ก็สามารถสร้างกระแสฟีเวอร์ได้อย่างรวดเร็ว ด้วยเนื้อหานิยายที่แฝงประวัติศาสตร์ชาติไทยสมัยพระนารายณ์มหาราช บวกกับเรื่องราวความรักของสองพระนาง ส่งผลให้”ออเจ้า”กลับมาติดตามหาซื้อนิยายเรื่องนี้เกลี้ยงงานหนังสือแห่งชาติ  และส่งผลให้หนังวือเกี่ยวข้องกับประวัติศาสตร์ไทยพลอยขายดิบขายดีตามไปด้วยปลุกให้วงการหนังสือฟื้นคืนชีพมาอีกครั้ง นอกจากนี้ ยังเกิดกระแส “ออเจ้า”แต่งชุดไทยออกเที่ยวอุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยาและลพบุรีอย่างล้นหลาม ยิ่งไปกว่านั้น  สองพระนางคู่จิ้นอย่าง “เบลล่า ราณี” กับโป๊ป ธนวรรธน์”รับทรัพย์กันถ้วนหน้า คว้างานเป็นพรีเซ็นเตอร์สินค้าแบรนด์ใหญ่ๆแบบหัวกระไดไม่แห้ง  และงานโฆษณายังส่งผลถึงนักแสดงรายอื่นๆไม่ว่าจะเป็นพระรองนางรอง เพื่อนพระเอก เพื่อนนางเอก ไม่เว้นแม้แต่นางบ่าวก็พร้อมได้งานโฆษณาตามไปด้วย สำหรับช่อง 3 ที่กำลังย่ำแย่ก็เหมือนถูกหวย ช่วงละครออนแอร์ โฆษณาเข้าจนเต็มโควต้า  จนละครอวสาน เอเยนต์ซี่จึงขอให้ฉายตอนพิเศษแบบมาราธอน โฆษณาก็เข้าเต็มอีก ช่อง 3 ไม่รอช้า รีรันฉาย บุพเพสันวาสช่วงตอนเย็นติดต่อกัน ฟันค่าโฆษณาเต็มๆอีกครั้ง ศึก โมโตจีพี ครั้งแรกในไทย ประสบความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่ สำหรับการจัดแข่งขันรถจักรยานยนต์ทางเรียบ “โมโต จีพี”  รายการ พีทีที ไทยแลนด์ กรังด์ปรีซ์ ครั้งแรกในประเทศไทย ที่สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จังหวัดบุรีรัมย์ ด้วยจำนวนผู้ชมทะลุ 2.22 แสนคน และได้รับคำชมว่า จัดการแข่งขันได้อย่างราบรื่นแม้จะเป็นการจัดครั้งแรกก็ตาม การแข่งขัน”โมโต จีพี”เป็นการแข่งขันรถจักรยานยนต์ทางเรียบที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก โดยรัฐบาลไทยได้ตกลงเซ็นสัญญากับ “ดอร์น่า สปอร์ต “เจ้าของลิขสิทธิ์ เพื่อจัดการแข่งขันเป็นเวลา  3 ปี  ระหว่าง ปี  2018-2020 ซึ่งเป็นตามนโยบายกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ที่ผลักดันให้เป็นประเทศไทยเป็น “สปอร์ต ทัวริซึม”โดยก่อนการแข่งขันอย่างเป็นทางการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สร้างความฮือฮาด้วยการนำ”มาร์ค มาร์เกซ” แชมป์โลกชาวสแปนิชจาก เรปโซล ฮอนด้า  บิดรถตุ๊กๆ วิ่งโชว์รอบกรุงเทพฯเพื่อถ่ายทำภาพยนตร์โฆษณาส่งเสริมการท่องเที่ยว ภารกิจ ช่วย 13 หมูป่าติดถ้ำสะท้านโลก เข้าสู่ฤดูฝน...
เศรษฐกิจ

นิสสันเปลี่ยนชื่อ U CARS เป็น “อินเทลลิเจ้นท์ ช้อยส์”

นิสสันเปลี่ยนชื่อธุรกิจรถยนต์ใช้แล้วจากNISSAN U CARS มาเป็น นิสสัน อินเทลลิเจ้นท์ ช้อยส์ รถใช้แล้วรับรองคุณภาพ(Nissan Intelligent Choice Certified Used Car)พร้อมยกระดับมาตรฐานการให้บริการของการตรวจเช็คสภาพรถตามมาตรฐานสากล167 จุด รวมถึงการตรวจสอบระบบไฮบริดและแบตเตอรี่อีกทั้งเพิ่มระยะทางอายุการใช้งานของรถที่รับรองคุณภาพจาก 5 ปี เป็น 6 ปี หรือระยะทาง130,000 กิโลเมตรนอกจากนี้ รถยนต์ใช้แล้วมีการรับประกันคุณภาพเป็นเวลา 1 ปี เช่นเดิมแต่เพิ่มระยะทางการรับประกันจาก25,000 กิโลเมตร เป็น30,000 กิโลเมตรรวมถึงบริการช่วยเหลือฉุกเฉินตลอด 24 ชั่วโมง บริษัทยังได้ปรับปรุงภาพลักษณ์โชว์รูมของรถยนต์ใช้แล้วให้สอดคล้องกับ NissanRetail Conceptโดยมีพื้นที่ให้ลูกค้าสามารถเข้าถึงส่วนของการให้บริการได้ทั้งหมด ไม่ว่าจะมาซื้อรถยนต์ หรือเข้ามารับการให้บริการอื่นๆ ทำให้ได้สัมผัสบรรยากาศที่เป็นกันเอง และรู้สึกสะดวกสบายมากยิ่งขึ้นเพื่อให้ผู้จำหน่าย     ของนิสสันสามารถให้บริการที่ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพที่สุด “เราเชื่อว่านิสสัน อินเทลลิเจ้นท์ ช้อยส์ รถใช้แล้วรับรองคุณภาพ จะทำให้ลูกค้าไม่เพียงแต่คัดสรรรถใช้แล้วที่มีคุณภาพแต่ยังมอบความพอใจที่เหนือความคาดหมายอีกด้วย" นายอันตวน บาร์เตส ประธาน นิสสัน มอเตอร์ ประเทศไทยกล่าว  พร้อมเผยต่อไปว่า  "ลูกค้าคือหัวใจในการดำเนินงานของนิสสัน และนิสสัน อินเทลลิเจ้นท์ ช้อยส์ รถใช้แล้วรับรองคุณภาพ จะเป็นอีกทางเลือกที่ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าได้เป็นอย่างดี” นิสสัน อินเทลลิเจ้นท์ ช้อยส์ รถใช้แล้วรับรองคุณภาพคือรูปแบบการดำเนินธุรกิจรถยนต์ใช้แล้ว โดยมีมาตรฐานเดียวกันทั่วโลก ประสบความสำเร็จมาแล้ว 10 ประเทศ คือ สหรัฐอเมริกาแคนาดาเม็กซิโกบราซิลสหราชอาณาจักรแอฟริกาใต้อินเดียจีนฟิลิปปินส์และญี่ปุ่น สำหรับการปรับเปลี่ยนรูปโฉมโชว์รูมในประเทศไทยคาดว่าจะพร้อมให้บริการจำนวน 21 แห่ง ภายในเดือนมีนาคม 2562 ครอบคลุมทุกภูมิภาคของประเทศไทย...
เศรษฐกิจ

ลัมโบร์กินี เปิดตัว อูรุส ซูเปอร์เอสยูวี คันแรกของโลกในไทย

อูรุสคือรถลัมโบร์กินีสายพันธุ์ใหม่ที่ลงตัวสมบูรณ์แบบที่สุดสำหรับครอบครัว ที่คงคาแรกเตอร์ของลัมโบร์กินีทั้งภายนอกและภายในไว้อย่างชัดเจน ดีไซน์ภายในสปอร์ตหรู มาพร้อมเครื่องยนต์ V8 ขนาด 4.0 ลิตร ทวิน-เทอร์โบ สามารถทำความเร็วได้สูงสุดถึง 305 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ขณะที่ยังสามารถควบคุมและขับขี่ได้ง่าย คล่องตัว ให้ความสะดวกสบายแก่ผู้โดยสารตลอดการเดินทางบนทุกสภาพถนน ผ่าน Tamburo – Lamborghini driving dynamics control อูรุสจึงเป็นซูเปอร์เอสยูวีตัวจริงที่ก้าวข้ามขีดจำกัด และทำสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ให้เป็นไปได้ เพื่อตอบโจทย์ความต้องการสูงสุดของลูกค้าทั่วโลก นายดาวิเด ซเฟรโคลา ผู้จัดการฝ่ายขายประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ออโตโมบิลี ลัมโบร์กินี กล่าว “ลัมโบร์กินี อูรุส คือวิสัยทัศน์ที่ก้าวล้ำในการผนวกดีเอ็นเอของลัมโบร์กินี เข้ากับยนตรกรรมอเนกประสงค์หรือรถยนต์เอสยูวี อูรุสจึงยกระดับเอสยูวีให้ก้าวล้ำเกินกว่าสิ่งที่เคยเป็นไปได้ในวงการที่เรียกว่าเป็นซูเปอร์เอสยูวี ซึ่งเราเป็นแบรนด์ลัคชัวรี่ที่ไม่เหมือนใครพร้อมจะเปลี่ยนอนาคตและสร้างสรรค์ประสบการณ์ใหม่ ๆ อยู่ตลอดเวลา เพราะเราอยากให้ลูกค้าของเราได้สัมผัสประสบการณ์ความเป็นที่สุดในโลก ที่ลัมโบร์กินีเท่านั้นจะมอบประสบการณ์นี้ให้กับคุณได้” หม่อมหลวงณัฐสิทธิ์ ดิศกุล กรรมการ บริษัท เรนาสโซ มอเตอร์ จำกัด หรือ ลัมโบร์กินี กรุงเทพฯ กล่าวว่า “ลัมโบร์กินี กรุงเทพฯมีความภาคภูมิใจที่จะนำเสนอ “ลัมโบร์กินี อูรุส” ซูเปอร์เอสยูวีคันแรกของโลกให้แก่ลูกค้าในเมืองไทย ซึ่งเป็นรุ่นที่ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากทั่วโลก ผมเชื่อมั่นว่า อูรุส ที่ถ่ายทอดดีเอ็นเอของแบรนด์ลัมโบร์กินีมาอย่างเต็มเปี่ยม พร้อมมอบประสบการณ์ของรถซูเปอร์สปอร์ตลักซูรี จะยกระดับมาตรฐานรถซูเปอร์สปอร์ตให้ก้าวล้ำไปอีกขั้น กลายเป็นขวัญใจหนึ่งเดียวของคนรักรถซูเปอร์เอสยูวี และครองใจผู้บริโภคไทยในทันทีที่เปิดตัว” “ลัมโบร์กินี อูรุส มีราคาเริ่มต้นที่ 23.42 ล้านบาท พร้อมบริการหลังการขายระดับท็อปคลาสและบริการซ่อมบำรุงครบวงจรเป็นเวลา 5 ปี โดยทีมงานที่มีประสบการณ์ในการดูแลรถซูเปอร์คาร์หรูมากว่า 20 ปี ผมมั่นใจว่า อูรุส จะสามารถตอบโจทย์ความต้องการของทุกท่าน โดยเฉพาะกลุ่มครอบครัวคนรุ่นใหม่ ในฐานะซูเปอร์เอสยูวีหนึ่งเดียวในตลาดรถยนต์ลักซูรีของไทย ทำให้เกิดมาตรฐานใหม่ในเซกเมนต์ และตอกย้ำความสำเร็จของ อูรุส ในตลาดโลก” ลัมโบร์กินี อูรุส” รถซูเปอร์เอสยูวี 5 ที่นั่งที่มาพร้อมกับความหรูหราและทรงพลังที่สุดในรถเอสยูวีระดับเดียวกันและยังให้ประสบการณ์การขับขี่ที่โดดเด่นไม่เหมือนใคร...
1 43 44 45 46 47 50
Page 45 of 50