กิจกรรม & CSRเทสต์ไดรฟ์

รีวิว ทดสอบ นิสสัน นาวารา ใหม่ แกร่ง ดุดัน ตะลุยทุกสภาพถนน  โดย สุรชัย มณีมหานนท์

60.6kviews

นิสสัน มอเตอร์(ประเทศไทย) จัดการทดสอบนิสสัน นาวารา ใหม่ ในสไตล์การผจญภัยสุดท้าทาย จากกรุงเทพฯ สู่ยอดเขาแด่น จังหวัดเพชรบุรี พร้อมบททดสอบความแข็งแกร่ง ทนทาน ของรถกระบะจากนิสสันในทุกสภาพถนน ที่มั่นหมายว่าจะสามารถสนองตอบความต้องการของลูกค้าได้อย่างครบครัน

ก่อนออกเดินทาง นิสสันได้ทำความสะอาดรถยนต์ทุกคันด้วยการพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อ ตามจุดสัมผัส เช่น พวงมาลัย เกียร์ เบาะ ที่จับประตู และคอนโซลหน้า ฯลฯ เพื่อให้มั่นใจว่าผู้ร่วมเดินทางทุกคนจะปลอดภัยในช่วงโควิด-19 นี้ โดยบริการเช่นนี้ ลูกค้านิสสัน รวมถึงลูกค้ารถยนต์ทุกยี่ห้อ ก็สามารถรับบริการได้ โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ผ่านโปรแกรม ‘CARE FOR YOU – New Normal Life’ ได้ที่ศูนย์บริการนิสสันทั่วประเทศ

การเดินทางเริ่มต้นจากใจกลางเมืองกรุงเทพฯ มุ่งหน้าสู่จังหวัดเพชรบุรี ผ่านเส้นทางการจราจรบนทางหลวงทั้งในเมือง และนอกเมือง นาวาร่า คันที่ได้ขับเป็นรุ่น VL 7 AT  DOUBLE  CAB 4WD  หน้าตาเหล่ท่อ คมเข้ม ด้วยการออกแบบ ภายใต้แนวคิด “Unbreakable” ที่เป็นเอกลักษณ์ของ นิสสัน นาวารา ใหม่ ด้วยกระจังหน้า แบบ ‘Interlock’ และไฟหน้าแอลอีดี 4 ดวง รูปทรงสี่เหลี่ยม (Ice-Cube) พร้อมไฟส่องสว่างในเวลากลางวัน หรือ Daytime Running Lights  รูปตัว C คว่ำและหงาย เสริมด้วยไฟท้ายแอลอีดีแบบชิ้นเดียวรูปตัว C ทำให้ได้ลุคที่ดุดันมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังคงพร้อมบรรทุกสัมภาระหนัก ด้วยโมโนเฟรมแชสซี ที่ทำจากเหล็กกล้าชิ้นเดียวตลอดคันแบบ Fully-Boxed Frame ที่มีชื่อเสียงของนิสสัน

พวงมาลัยของนาวาร่า ใหม่ ปรับขึ้น-ลงได้ 2 ทิศทาง เบาะที่ปรับไฟฟ้า 8 ทิศทางพร้อมดันหลังไฟฟ้า นั่งสบายตัวมาก สภาพเส้นทางเป็นทางหลวงจราจรหนาแน่น ถือเป็นทดสอบความแรงของเครื่องยนต์ดีเซลใหม่ YS23DDTT ขนาด 2.3 ลิตร ที่มาพร้อมเทอร์โบคู่ ที่ให้พละกำลังสูงสุด 190 แรงม้า  ให้แรงบิดสูงสุดถึง 450 นิวตัน-เมตร ถ่ายทอดกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ 7 สปีด ที่ให้กำลังในการขับเคลื่อนสูงในทุกรอบเครื่องยนต์  ในรอบต่ำการตอบสนองการเดินทางได้ดี  ในรอบเครื่องสูงก็ยิ่งดุดัน  แต่ยังให้การประหยัดน้ำมันได้เป็นอย่างดี

พวงมาลัยของรุ่น VL น้ำหนักกำลังดี ให้ความรู้สึกที่มั่นคง ควบคุมได้ดังใจ ทั้งการขับขี่ในเมืองและในย่านความเร็วสูง  และยังลดความกังวลจากการขับขี่ด้วยเทคโนโลยีความปลอดภัยมากมายจาก “Nissan Intelligent Mobility” อาทิ ระบบเตือนเมื่อเหนื่อยล้าจากการขับขี่ (Intelligent Driver Alertness), ระบบเทคโนโลยีเตือนเมื่อรถออกนอกเส้นทาง (Lane Departure Warning), เทคโนโลยีควบคุมรถเมื่อออกนอกช่องทางอัจฉริยะ (Intelligent Lane Intervention), เทคโนโลยีเตือนจุดอับสายตา (Blind Spot Warning) ที่จะช่วยให้การเดินทางปลอดภัยในทุกเส้นทาง

ระหว่างทางขึ้นเขาจะเป็นเส้นทางแบบออฟโรด ที่ทั้งสูงและชัน นิสสัน นาวารา ใหม่ ก็สามารถแสดงสมรรถนะได้อย่างเต็มที่ ด้วยเทคโนโลยีขับเคลื่อนสี่ล้อแบบ 4×4 (4WD) ที่สามารถเปลี่ยนจากการขับขี่แบบสองล้อ หรือ Two-wheel drive (2H) เป็นระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ หรือ Four-wheel drive ผ่าน Rotor Switch ที่บริเวณแผงคอนโซลกลาง พร้อมฟังก์ชัน shift-on-the-fly ที่สามารถปรับเปลี่ยนได้ทันทีขณะขับขี่ (จาก 2H เป็น 4H) ขณะที่โหมดการขับเคลื่อน 4 ล้อแบบความเร็วต่ำ Low range four-wheel drive หรือ 4LO ได้เพิ่มระบบ Off-Road Mode ช่วยเพิ่มมุมมองขณะขับขี่ไปข้างหน้าในโหมด พร้อมทำงานร่วมกับเทคโนโลยีเตือนวัตถุเคลื่อนไหวรอบคัน Moving Object Detection (MOD) ซึ่งทำหน้าที่ตรวจจับและส่งสัญญาณเตือนเมื่อตรวจพบบุคคลหรือวัตถุที่กล้องรอบคันจับการเคลื่อนไหวได้ โดยจะปรากฏบนหน้าจอกลาง

นอกจากนี้ ยังเสริมเทคโนโลยีที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพเพื่อการขับขี่อีกมากมาย อาทิ ระบบป้องกันการลื่นไถล Brake Limited Slip Differential (B-LSD), ระบบล็อกเฟืองท้ายแบบไฟฟ้า Electronic Rear Locking Differential,เทคโนโลยีช่วยออกตัวบนทางลาดชัน Hill Start Assist (HSA) และเทคโนโลยีควบคุมความเร็วขณะลงทางลาดชัน Hill Descent Control (HDC) ช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถลุยขึ้นและลงเขาผ่านอุปสรรคต่าง ๆ ได้อย่างง่ายดายระบบช่วงล่าง และระบบกันสะเทือนที่ปรับจูนใหม่ให้ดีขึ้น ช่วยเสริมสมรรถนะและการทรงตัวรถขณะขับเข้าโค้งได้ในทุกเส้นทางโดยเฉพาะเส้นทางที่คดเคี้ยวบนภูเขา

ช่วงบ่าย เปลี่ยนมาขับ บาวาร่า รุ่น Pro 4X ที่ได้รับการตกแต่งพิเศษ ให้มีเอกลักษณ์เฉพะตัว สไตล์แฟชั่น กระจังหน้ารมดำ เสริมด้วยโลโก้นิสสันสีแดงพิเศษ  เสริมสมรรถนะด้วยยาง All Terrain ในล้ออัลลอยขนาด 17 นิ้ว และที่ให้ผู้ขับขี่มั่นใจในการเดินทางทุกสถานการณ์มากยิ่งขึ้น เบาะที่นั่งปรับ 6 ทิศทาง รู้สึกว่า พวงมาลัยของรุ่นนี้ปรับใหม่ให้เบาแรงมากขึ้น คาดว่า ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากการใช้ยาง All Terrain ด้วย  ด้านการตกแต่งภายในได้เสริมความสะดวกสบายด้วยเบาะนั่งคู่หน้าที่ออกแบบด้วยนวัตกรรม Zero Gravity ทำให้สามารถรองรับกับแนวกระดูกสันหลัง ตามหลักสรีรศาสตร์ และที่นั่งตอนหลังที่ดูทันสมัย เสริมความนุ่มสบาย พร้อมเพิ่มความสะดวกด้วยที่วางแขนและแก้วน้ำด้านหลัง รวมถึงกระจกตอนหน้าแบบ Noise-Reducing Acoustic Glass ที่ทำให้ห้องโดยสารเงียบ และให้ความรู้สึกผ่อนคลายในทุกการขับขี่

นิสสัน นาวารา ใหม่ ยังสามารถเชื่อมต่อทุกแพลตฟอร์มความบันเทิงตลอดการเดินทาง ด้วย NissanConnect ระบบที่สามารถเชื่อมต่อสมาร์ทโฟน ผ่านระบบ Apple CarPlay และ Android Auto เข้ากับระบบสื่อสาร ระบบนำทาง และระบบเครื่องเสียง ซึ่งสามารถควบคุมผ่านหน้าจอระบบสัมผัสขนาด 8 นิ้ว หรือผ่านระบบจดจำและสั่งการด้วยเสียง (Voice Recognition System) รวมถึงยังเพิ่มเติมความปลอดภัยให้อุ่นใจตลอดการเดินทาง ผ่านบริการ Connected Car Services ที่เป็นการทำงานร่วมกันระหว่างอุปกรณ์ TCU (Telematics Control Unit) ที่ติดตั้งภายในรถยนต์ และฟังก์ชันสำคัญต่าง ๆ อาทิ การแสดงพิกัดรถยนต์ สถานะรถยนต์ การช่วยเหลือฉุกเฉิน รวมถึงยังสามารถชาร์จแบตเตอรี่อุปกรณ์ไฟฟ้าผ่าน USB Port (Type C) ในแผงควบคุมด้านหน้าได้อีกด้วย

หากจะเปรียบเทียบกับปิกอัพรุ่นอื่นๆในตลาด นิสสัน นาวาร่า ใหม่ หล่อ เท่ ดุดันในลำดับต้นๆเหมือนกัน เทคโนโลยีเครื่องยนต์และระบบถ่ายทอดกำลังจัดเต็มมาก  เครื่องยนต์ดีเซลใหม่ขนาด 2.3 ลิตร ที่มาพร้อมเทอร์โบ 2 ตัว ตอบสนองทั้งในรอบเครื่องยนต์ต่ำและรอบเครื่องสูง  ให้พละกำลังไม่เป็นรองใคร 190 แรงม้า  แรงบิดสูงสุดถึง 450 นิวตัน-เมตร ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อก็ใช้งานได้ง่ายดายมาก เทคโนโลยีด้นความปลอดภัยก็ใส่มาให้ครบเครื่อง ใช้ประโยชน์ได้คล่องตัว รุ่น VL นั่งสบายกว่า PRO 4X ด้วยเบาะปรับไฟฟ้า 8 ทิศทาง แต่รุ่น PRO 4X  ก็ดูเท่ มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวน่าเหลียวมองอยู่ตลอดเวลา ขึ้นอยู่กับความชอบของแต่ละคนครับ