กิจกรรม & CSRรถยนต์ต่างประเทศ

มิตซูบิชิ เอาท์แลนเดอร์ขึ้นแท้่น SUV PHEV ที่ขายดีที่สุดในยุโรป

1.2kviews

มิตซูบิชิ มอเตอร์ส คอร์ปอเรชั่นแถลงอย่างเป็นทางการว่า มิตซูบิชิ เอาท์แลนเดอร์ปลั๊กอินไฮบริด (พีเอชอีวี)ยังคงตอกย้ำการเป็นผู้นำรถเอสยูวีแบบปลั๊กอินไฮบริดที่มียอดจำหน่ายสูงที่สุดในยุโรปด้วยยอดจำหน่ายมากถึง 26,673คันในปี 2563 ที่ผ่านมา

มิตซูบิชิ เอาท์แลนเดอร์ พีเอชอีวีถือเป็นรถยนต์รุ่นแฟล็กชิพที่สำคัญและแสดงถึงความเชี่ยวชาญของ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ทั้งในด้านเทคโนโลยีนวัตกรรมด้านพลังงานไฟฟ้า ยานยนต์อเนกประสงค์และเทคโนโลยีระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ ที่ส่งผลให้มิตซูบิชิ เอาท์แลนเดอร์ พีเอชอีวีมอบประสบการณ์การขับขี่ที่นุ่มนวล มีความต่อเนื่องและเงียบพร้อมอัตราการเร่งแซงที่ยอดเยี่ยมและทรงพลัง ซึ่งถือเป็นเอกลักษณ์ของรถยนต์พลังงานไฟฟ้า (EV) และโดดเด่นด้วยเทคโนโลยีที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม มิตซูบิชิ เอาท์แลนเดอร์ พีเอชอีวี มีจำหน่ายแล้วกว่า 60 ประเทศทั่วโลก และมียอดจำหน่ายสะสมทั่วโลกมากถึง 270,000 คัน เมื่อสิ้นสุดเดือนธันวาคมปี 2563 ที่ผ่านมา

“เรารู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ มิตซูบิชิ เอาท์แลนเดอร์ พีเอชอีวี ได้รับการตอบรับอย่างดีเยี่ยมจากลูกค้าจำนวนมากในยุโรป ซึ่งลูกค้าต่างให้ความสำคัญและใส่ใจกับสิ่งแวดล้อมเป็นอย่างมาก ควบคู่กับความนิยมของยานยนต์พลังงานไฟฟ้าที่เพิ่มมากขึ้นอย่างรวดเร็ว” มร. ทาคาโอะ คาโตะประธานเจ้าหน้าที่บริหารมิตซูบิชิ มอเตอร์ส คอร์ปอเรชั่นกล่าว “ทั้งนี้ภารกิจของเรา คือ การคิดค้นยานยนต์ที่น่าตื่นเต้นและมีความปลอดภัยเพื่อส่งมอบให้แก่ลูกค้าทั่วโลก ครบครันด้วยเทคโนโลยีที่ใส่ใจกับสิ่งแวดล้อมและเทคโนโลยีระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ พร้อมมุ่งมั่นและมีส่วนร่วมในการพัฒนาสังคมอย่างยั่งยืน โดยเราได้ตั้งเป้าหมายไว้ในปี 2573ที่ต้องการเพิ่มสัดส่วนยอดจำหน่ายของยานยนต์พลังงานไฟฟ้าที่ 50 เปอร์เซ็นต์จากยอดจำหน่ายรวมทั้งหมด ซึ่งรวมทั้งรถยนต์แบบปลั๊กอินไฮบริด (PHEV) รถยนต์พลังงานไฟฟ้า (EV)และ รถยนต์แบบไฮบริด (HEV) อีกด้วย”

โดยเมื่อเร็วๆนี้ มิตซูบิชิ เอาท์แลนเดอร์ พีเอชอีวีถูกผลิตขึ้นในต่างประเทศเป็นครั้งแรกที่ประเทศไทย ณ ศูนย์การผลิตรถยนต์ มิตซูบิชิ แหลมฉบัง จังหวัดชลบุรีโดยมิตซูบิชิ เอาท์แลนเดอร์ พีเอชอีวี ที่ผลิตขึ้นภายในประเทศไทยนี้ ได้เปิดตัวอย่างเป็นทางการไปเมื่อวันที่1  ธันวาคม 2563 ที่งานมหกรรมยานยนต์ครั้งที่ 37 หรือ ไทยแลนด์ อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์เอ็กซ์โป 2020พร้อมทั้งยังได้จัดพิธีฉลองการผลิตรถยนต์ มิตซูบิชิ เอาท์แลนเดอร์พีเอชอีวีคันแรกในประเทศไทย ซึ่งจัดขึ้นในวันที่21 ธันวาคม 2563 ณ สนามทดสอบรถยนต์ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี

มิตซูบิชิ เอาท์แลนเดอร์ พีเอชอีวี สามารถขับขี่ได้ทั้งในโหมดไฟฟ้า (EV) สำหรับใช้ในชีวิตประจำวันและยังสามารถเป็นรถยนต์แบบไฮบริด (HEV) สำหรับการเดินทางระยะไกล พร้อมสร้างความเพลิดเพลินให้แก่ผู้ขับขี่โดยไม่ต้องกังวลเรื่องการหาสถานีชาร์จไฟฟ้ามั่นใจยิ่งขึ้นด้วยสมรรถนะอันยอดเยี่ยมของเทคโนโลยีมอเตอร์ไฟฟ้าคู่ ที่ทำงานร่วมกับระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ ซูเปอร์-ออลวิลล์คอนโทรล(S-AWC)ที่ช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถควบคุมรถยนต์ได้อย่างมั่นใจในทุกสภาพอากาศและทุกสภาพถนน

มิตซูบิชิ เอาท์แลนเดอร์ พีเอชอีวี สามารถจ่ายกระแสไฟฟ้าจากตัวรถมาใช้กับเครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆ ที่มีขนาดไม่เกิน 1,500 วัตต์ ด้วยการเสียบปลั๊กเข้ากับช่องจ่ายกระแสไฟฟ้าภายในตัวรถที่มีอยู่ 2 จุด เพื่อให้สามารถสัมผัสกับไลฟ์สไตล์กลางแจ้งรูปแบบใหม่ และยังสามารถเป็นแหล่งพลังงานไฟฟ้าฉุกเฉินเพราะมิตซูบิชิ เอาท์แลนเดอร์ พีเอชอีวี สามารถผลิตกระแสไฟฟ้าได้เอง และยังสามารถจ่ายกระแสไฟฟ้าให้แก่ที่พักอาศัยด้วยเทคโนโลยีระบบพลังงานแบบVehicle-to-Home(V2H) ได้นานถึง 10 วัน(1)สำหรับครัวเรือนทั่วไป โดยแบตเตอรี่ต้องถูกชาร์จไฟเต็มและมีน้ำมันเต็มถัง

หลังประสบความสำเร็จจากการเปิดตัว มิตซูบิชิ เอาท์แลนเดอร์ พีเอชอีวี พร้อมเสียงตอบรับอย่างดีเยี่ยมทั้งจากลูกค้าและผู้สื่อข่าวสายรถยนต์ ต้องขอขอบคุณเทคโนโลยีอันล้ำสมัยของ มอเตอร์ไฟฟ้าคู่ ที่ทำงานร่วมกับระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ ซูเปอร์-ออลวิลล์คอนโทรล(S-AWC)ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส เพื่อมอบสมรรถนะการขับขี่ที่มีเสถียรภาพ ประสิทธิภาพ และการควบคุมที่ยอดเยี่ยมในทุกสถานการณ์โดยปัจจุบัน มิตซูบิชิ เอาท์แลนเดอร์ พีเอชอีวี มียอดจองแล้วมากกว่า 200 คันโดยบริษัทฯ ได้เริ่มดำเนินการส่งมอบมิตซูบิชิ เอาท์แลนเดอร์ พีเอชอีวี ให้แก่ลูกค้าตั้งแต่เดือนมกราคม ที่ผ่านมา

มิตซูบิชิ เอาท์แลนเดอร์ พีเอชอีวี มีทั้งหมด 2 รุ่นและมีสีให้เลือก3 สี ได้แก่ สีขาว White Diamond(2), สีเงิน Sterling Silver และสีดำ Jet Black Mica โดยรุ่นเริ่มต้น จีทีมีราคาจำหน่ายที่ 1,640,000 บาท และรุ่นจีที พรีเมียมมีราคาจำหน่ายที่1,749,000 บาท โดยทั้ง 2 รุ่น ลูกค้าสามารถมั่นใจและหมดความกังวลในด้านค่าบำรุงรักษาด้วยแพ็กเกจวอรี่ ฟรี(worry-free) ประกอบด้วย ฟรี รับประกันแบตเตอรี่ 10 ปีหรือ 160,000 กิโลเมตร(3) ฟรี มิตซูบิชิ เซอร์วิส แพ็กเกจ5 ปี, ฟรีช่วยเหลือฉุกเฉินตลอด 24 ชม. นาน 5 ปี, ฟรี ประกันภัยชั้นหนึ่ง 1 ปี, ฟรี รับประกันคุณภาพพร้อมค่าแรงเช็คระยะ 5 ปี และพิเศษสำหรับลูกค้าที่จองรถภายในวันที่ 31 มีนาคม 2564 และรับรถภายในวันที่ 30 เมษายน 2564 รับทันที  ค่าสนับสนุนการติดตั้งเครื่องชาร์จไฟฟ้าที่บ้านรวมมูลค่าสูงสุด 20,000 บาท(4)