เศรษฐกิจ

คมนาคมนวัตกรรมไลฟสไตล์

กฟน.จับมือนิสสันติดตั้งเครื่องชาร์จรถไฟฟ้าในบ้านลูกค้า

การไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) และนิสสัน มอเตอร์ ประเทศไทย ได้ร่วมลงนามข้อตกลงเพื่อดำเนินการติดตั้งเครื่องอัดประจุไฟฟ้าสำหรับยานยนต์ไฟฟ้าสำหรับที่พักอาศัย  เตรียมความพร้อมสำหรับ นิสสัน ลีฟ ซึ่งจะเปิดตัวในประเทศไทยในปีงบประมาณนี้ ข้อตกลงนี้ได้มีการลงนามที่ การไฟฟ้านครหลวง สำนักงานใหญ่ เพลินจิต กรุงเทพฯ ข้อตกลงดังกล่าวเน้นถึงความมุ่งมั่นที่จะทำให้ผู้ขับขี่รถยนต์พลังงานไฟฟ้าสามารถเข้าถึงสถานีชาร์จที่บ้าน ที่ทำงาน และบนท้องถนนเพื่อสร้างทางเลือกใหม่ในการเดินทางที่จะขับเคลื่อนการใช้พลังงานไฟฟ้าของประเทศไทย โดย กฟน. และนิสสัน จะทำงานร่วมกันในด้านการให้บริการรูปแบบใหม่ๆ คู่มือการใช้และบริการสำหรับระบบชาร์จ การฝึกอบรมทักษะทางเทคนิค การพัฒนาอุปกรณ์ชาร์จ รวมไปถึงระบบการชำระค่าไฟฟ้า นอกจากนี้ยังแสดงให้เห็นถึงความร่วมมืออย่างต่อเนื่องของภาครัฐบาล รัฐวิสาหกิจ และภาคเอกชน นายชัยยงค์ พัวพงศกร ผู้ว่าการการไฟฟ้านครหลวง  กล่าวว่า เนื่องในโอกาสที่ครบวาระ 60 ปีกฟน. ในปีนี้กฟน. จึงมุ่งเป็นผู้นำเทคโนโลยีสำหรับยานยนต์ไฟฟ้าที่ทันสมัยได้เตรียมความพร้อมรองรับการใช้รถยนต์ไฟฟ้าทดแทนรถยนต์น้ำมันในอนาคตเนื่องจากเป็นพลังงานที่สะอาดและประหยัดโดยกฟน. ได้ร่วมสนับสนุนและให้ความร่วมมือกับหน่วยงานต่างๆทั้งภาครัฐและภาคเอกชนในการลงนามบันทึกความเข้าใจกับผู้ประกอบการอย่างต่อเนื่องหลายรายซึ่งการลงนามกับนิสสันมอเตอร์ประเทศไทยในครั้งนี้ถือเป็นโอกาสสำคัญในการรุกตลาดรถยนต์ไฟฟ้า  และขยายสถานีอัดประจุไฟฟ้าในประเทศไทยให้มีเพิ่มมากขึ้น โดยกฟน. จะเป็นผู้ดำเนินการให้บริการด้านระบบไฟฟ้าและอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องกับการอัดประจุไฟฟ้าเพื่อสร้างความมั่นใจและสร้างความปลอดภัยในระบบไฟฟ้าให้แก่ลูกค้าของนิสสันและเป็นผู้ดำเนินการฝึกอบรมให้ความรู้ด้านระบบไฟฟ้าที่เกี่ยวข้องกับยานยนต์ไฟฟ้าให้แก่บุคลากรของบริษัทนิสสันมอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด  เช่นตัวแทนจำหน่ายส่วนงานบริการลูกค้าช่างประจำศูนย์บริการเป็นต้นซึ่งความร่วมมือดังกล่าวยังเป็นการตอบสนองต่อแผนอนุรักษ์พลังงาน (EEP 2015) ซึ่งมีเป้าหมายในการส่งเสริมเพื่อให้เกิดการใช้งานรถยนต์ไฟฟ้าประเภทไฮบริดปลั๊กอิน (Plug-in hybrid electric vehicle : PHEV) และยานยนต์ไฟฟ้าประเภทแบตเตอรี่ (Battery electric vehicle : BEV) รวมทั้งสิ้น 1.2 ล้านคันภายในปีพ.ศ. 2579 ถือเป็นความร่วมมือกับองค์กรภาคธุรกิจในการขับเคลื่อนการใช้งานรถยนต์ไฟฟ้าให้เกิดขึ้นจริงในประเทศ นอกจากนี้กฟน. ยังได้มีการจัดทำ“MEA EV Application” ที่สามารถใช้งานได้อย่างสะดวกสบายบนสมาร์ทโฟน เวอร์ชันล่าสุด 2.0 รองรับการใช้งานทั้งระบบIOS และAndroid สำหรับการค้นหาสถานีอัดประจุไฟฟ้าการจองหัวชาร์จยานยนต์ไฟฟ้าแบบเรียลไทม์ มีระบบนำทางไปยังสถานีชาร์จพร้อมควบคุมการชาร์จยานยนต์ไฟฟ้าผ่านระบบรีโมทด้วยแอปพลิเคชันทันที การแจ้งข้อมูลประวัติการชาร์จการคำนวณอัตราการประหยัดพลังงานรวมถึงฟังก์ชันอื่น ๆที่จะจัดทำเพิ่มเติมเพื่ออำนวยความสะดวกในอนาคต นายอันตวน บาร์เตส ประธาน นิสสัน มอเตอร์ ประเทศไทย  กล่าวว่า นิสสัน ลีฟ ใหม่ เป็นรถยนต์พลังงานไฟฟ้าที่ทันสมัยและขายดีที่สุดในโลก "รถยนต์พลังงานไฟฟ้าของเราได้รับการพัฒนา...
งานแสดงรถยนต์มาร์เก็ตติ้งเศรษฐกิจ

ค่ายรถคาดตลาดรถปีนี้ทะลุล้านคัน

ค่ายรถมั่นใจตลาดปีนี้แตะหลักล้านคัน ระบุปัจจัยเอื้อ ทั้งจีดีพี ลงทุนภาครัฐ เอกชน ส่งออก ท่องเที่ยวขยายตัว ชี้เก๋งเล็ก อีโค คาร์ เอสยูวี ตัวขับเคลื่อนหลัก ด้านส่งออกเผยราคาน้ำมันเพิ่ม ดันตลาดตะวันออกกลางส่งสัญญาณฟื้นตัว สมาคมผู้สื่อข่าวรถยนต์และรถจักรยานยนต์ไทย จัดเสวนาหัวข้อ “ตลาดรถขาขึ้น...? ซื้อให้ได้ ขายให้ดี” โดยมีนักการตลาดจากบริษัทรถยนต์และนักวิชาการมาร่วมแสดงความคิดเห็นต่อสถานการณ์เศรษฐกิจ ตลาดรถยนต์ กำลังซื้อผู้บริโภค นายธีร์ เพิ่มพงศ์พันธ์ รองประธานบริหาร ฝ่ายการตลาดและรัฐกิจสัมพันธ์ บริษัท มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า มาสด้ามองว่าตลาดรถยนต์ไทยมีขนาดเฉลี่ยประมาณ 1 ล้านคัน/ปี แต่จะมากกว่าหรือน้อยกว่าขึ้นอยู่กับปัจจัยต่างๆ ที่จะส่งผลกระทบ เช่นปีนี้เห็นว่าภาพรวมต่างๆ อยู่ในเกณฑ์ที่ดี ส่งผลให้ตลาดมีทิศทางที่สดใส และมีความเป็นไปได้ที่ยอดขายโดยรวมจะสูงกว่า 1 ล้านคัน ซึ่งถือเป็นเรื่องที่ท้าทายสำหรับบริษัทรถยนต์ ตลาดหลักรถยนต์ไทยยังคงเป็นรถปิกอัพ แต่ตลาดที่โดดเด่นและเป็นตัวขับเคลื่อนในช่วงนี้ คือ กลุ่มรถยนต์นั่งขนาดเล็ก ประกอบไปด้วย อีโค คาร์ และบี คาร์ ซึ่งมีอัตราการเติบโตที่สูง “รถเอสยูวี และพีพีวี ก็เป็นอีกกลุ่มหนึ่งที่ขยายตัวอย่างโดดเด่น แต่เป็นตลาดสำหรับกลุ่มที่มีกำลังซื้อสูงขึ้น ส่วนอีโค คาร์ และบีคาร์ เป็นกลุ่มที่ลูกค้าเข้าถึงได้ง่าย” ด้านนายยอดชาย ซื่อวัฒนากุล ผู้อำนวยการใหญ่ สำนักสื่อสารการตลาด บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า อีโค คาร์ เพิ่มบทบาทความสำคัญเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ โดยช่วงไตรมาส 2 ปีนี้ มียอดขายที่สูงกว่าไตรมาสแรก 56% ส่วนรถกลุ่มพีพีวีก็ขยายตัวเช่นกัน ประมาณ 5% ทั้งนี้ หากมองในภาพรวม พบว่าตลาดรถยนต์มีทิศทางการเติบโตที่ดี โดยได้แรงหนุนจากปัจจัยบวกหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นการใช้จ่ายภาครัฐที่เพิ่มขึ้น การลงทุนจากทั้งภาครัฐและเอกชนเพิ่มขึ้น การส่งออกที่เติบโตต่อเนื่อง...
กิน-เที่ยวเศรษฐกิจ

รัสเซียปลื้มผลไม้ไทย

กรมส่งเสริมสหกรณ์ ขนสินค้าสหกรณ์การเกษตร ทั้งมะพร้าวน้ำหอม-สับปะรดห้วยมุ่นออกบูธเปิดตัวในงานเทศกาลแสดงสินค้าเกษตรไทย ที่กรุงมอสโก ประเทศรัสเซีย เผยประสบผลสำเร็จเป็นอย่างดี ได้รับความสนใจ ลูกค้ารัสเซียแห่ซื้อเพียบ ชี้เป็นโอกาสดีของสหกรณ์ไทยที่จะทำขยายช่องทางส่งออกผลไม้เพิ่ม เตรียมผลักดันสหกรณ์ขยายแปลงปลูกส่งออกสินค้าคุณภาพป้อนตลาดรัสเซีย นายเชิดชัย พรหมแก้ว รองอธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ เปิดเผยภายหลังจากนำผู้แทนสหกรณ์การเกษตรบ้านรางสีหมอก จำกัด จังหวัดราชบุรี และสหกรณ์การเกษตรน้ำปาด จำกัด จังหวัดอุตรดิตถ์ จำกัด เดินทางไปร่วมแสดงสินค้าเกษตร ในงานเทศกาลไทย ณ กรุงมอสโก ประเทศรัสเซีย ประจำปี 2561 ว่า การไปร่วมงานครั้งนี้เพื่อเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ สร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับสินค้าของสหกรณ์ไทย และขยายโอกาสทางการค้า พร้อมกับได้สำรวจตลาดผลไม้ในรัสเซียด้วย เนื่องจากเล็งว่าจะขยายตลาดผลไม้ไทยสู่ประเทศรัสเซีย ทั้งนี้  ผลไม้ไทยที่นำไปแสดงในงานมี 2 ชนิดคือ มะพร้าวน้ำหอม และมะพร้าวแก้วแปรรูป ของสหกรณ์การเกษตรบ้านรางสีหมอก จำกัด จังหวัดราชบุรี รวมถึงสับปะรดห้วยมุ่นและสับปะรดอบแห้ง ของสหกรณ์การเกษตรน้ำปาด จำกัด จังหวัดอุตรดิตถ์ โดยได้ทดลองขายและเปิดโอกาสให้ลูกค้าชาวรัสเซียได้ชิมรสชาติผลไม้ไทย ซึ่งได้รับการตอบรับและความสนใจจากลูกค้ารัสเซียที่ชื่นชอบประทับใจในรสชาติและซื้อผลไม้ที่นำไปจัดแสดงจนหมด เพราะคนรัสเซียชอบผลไม้ที่ไม่หวานมาก ดังนั้น ผลไม้ของไทยน่าจะสามารถเพิ่มมูลค่าในการซื้อขายได้ เพราะรัสเซียเป็นประเทศใหญ่ หากสหกรณ์สามารถส่งผลไม้ไปเปิดตลาดที่นั้นได้โอกาสที่จะขยายไปยังสินค้าชนิดอื่น ๆ  ก็จะตามมา ซึ่งนับว่าเป็นการเริ่มต้นที่ดี และยังได้สร้างความสัมพันธ์กับเครือข่ายผู้นำเข้าสินค้าของรัสเซีย เพื่อเจรจาขยายตลาดการนำเข้าสินค้าของสหกรณ์ไปยังประเทศรัสเซียเพิ่มขึ้นด้วย “คนรัสเซียจะชอบสเต็ก ผักและผลไม้เป็นหลัก ซึ่งการที่เราไปร่วมงานครั้งนี้ เนื่องจากสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงมอสโก ได้เชิญไปร่วมงานและอยากจะให้นำผลไม้ของสหกรณ์ ทั้งมะพร้าวน้ำหอมและสับปะรดไปเปิดตัวที่นั่น ซึ่หลังจากที่นำสินค้าไปจัดแสดงในครั้งนี้ ทำให้เห็นช่องทางในการเปิดตลาดใหม่ให้กับผลไม้ของสหกรณ์ โดยจะส่งผลไม้ที่รัสเซียไม่มีไปจำหน่ายที่นั่น แต่ปัญหาอุปสรรคคือกระบวนการนำเข้าของรัสเซียจำเป็นต้องใช้เวลาพอสมควร ซึ่งได้ขอความอนุเคราะห์ให้ทางสถานทูตรัสเซียช่วยเหลือประสานงานในเรื่องนี้แล้ว คิดว่าประมาณ 3 เดือนน่าจะมีความคืบหน้าในการติดต่อประสานงานมากขึ้น”นายเชิดชัย กล่าว             นายเชิดชัย กล่าวเพิ่มเติมว่า สาเหตุที่ได้คัดเลือกมะพร้าวน้ำหอมจากจังหวัดราชบุรีไปโชว์ เนื่องจากเป็นแหล่งผลิตหลักและสวนมะพร้าวของสมาชิกสหกรณ์ได้มาตรฐาน GAP ส่วนสับปะรดจากสหกรณ์ของอุตรดิตถ์ก็ได้มาตรฐาน GI ซึ่งเป็นสินค้าที่มีข้อมูลบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์และมีรสชาติโดดเด่นไม่กัดลิ้น จึงนับว่าเป็นโอกาสดีที่กรมส่งเสริมสหกรณ์จะผลักดันให้สหกรณ์เป็นผู้ส่งออกสินค้าผลไม้สดและผลไม้แปรรูปไปยังประเทศรัสเซีย แต่สิ่งที่สหกรณ์จะต้องทำให้ได้คือการรักษาคุณภาพผลผลิตให้ได้ตามมาตรฐาน ซึ่งกรมฯจะประสานกับหน่วยงานต่าง  ๆ ช่วยผลักดันสหกรณ์ให้สามารถส่งออกสินค้าไปให้ได้ รวมถึงจะส่งเสริมเกษตรกรให้ขยายแปลงปลูกเพิ่มเพื่อส่งเสริมอาชีพและสร้างรายได้ให้กับเกษตรกร สอดคล้องกับนโยบายของการตลาดนำการผลิตได้เป็นอย่างดี...
คมนาคมเศรษฐกิจ

กลุ่มดวงฤทธิ์คว้างานออกแบบสุวรรณภูมิ เทอร์มินัล 2

ทอท.ไฟเขียวกลุ่มดวงฤทธิ์ ชนะงานออกแบบอาคารผู้โดยสารหลังที่ 2 สนามบินสุวรรณภูมิ วงเงิน 329.5 ล้านบาท แจงละเอียดยิบ ปัดกลุ่มที่ปรึกษาSA ที่ได้คะแนนเทคนิคสูงสุด ตกรอบ เหตุจากผิดทีโออาร์ คาดเริ่มก่อสร้างได้ในปลายปี 2562 และแล้วเสร็จในปลายปี2564  รองรับผู้โดยสารเพิ่มอีก 30 ล้านคนต่อปี ในการประชุมบอร์ดบริษัทท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือทอท. เมื่อวันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2561 ได้อนุมัติให้ทอท.ดำเนินการจัดหาผู้รับจ้างงานสำรวจออกแบบโครงการก่อสร้างอาคารผู้โดยสารหลังที่ 2 สนามบินสุวรรณภูมิ โดยมีผู้ยื่นซองประมูลจำนวนรวม 4 ราย โดย กลุ่มบริษัทที่ปรึกษาเอสเอ กรุ๊ป ได้คะแนนสูงสุด แต่ไม่ได้ยื่นต้นฉบับใบเสนอราคา ตามที่ทอท.กำหนดในTOR  จึงได้เชิญกลุ่มนิติบุคคลร่วมทำงาน ดีบีเอแอลพี-นิเคนเซกเก ซึ่งได้คะแนนเทคนิคสูงอันดับถัดไปมาต่อรองราคาตามเงื่อนไข โดยเสนอราคาค่าออกแบบเป็นจำนวนเงินทั้งสิ้น 349 ล้านบาท และคณะกรรมการจัดหาพัสดุได้ดำเนินการต่อรอง รวมเป็นค่าจ้างออกแบบทั้งสิ้น 329.5 ล้านบาท โดยแบบอาคารผู้โดยสาร ที่นำเสนอเป็นคอนเซ็ปต์ Forest Airport Terminal มีการจัดพื้นที่บางส่วนสร้างระบบนิเวศน์ป่า สร้างความร่มรื่น ส่วนการออกแบบกลุ่มบริษัทที่ปรึกษากลุ่มบริษัทร่วมทำงานเอส เอ เป็นคอนเซ็ปต์ดอกบัว สำหรับโครงการก่อสร้างอาคารผู้โดยสารหลังที่ 2 สนามบินสุวรรณภูมิ ประกอบไปด้วย 1. งานก่อสร้างอาคารผู้โดยสารหลังที่2 บริเวณด้านทิศเหนือของอาคารเทียบเครื่องบินA มีพื้นที่ประมาณ348 แสนตารางเมตร เป็นอาคารแบบมัลติ-เทอร์มินัล สามารถรองรับผู้โดยสารได้ 30 ล้านคนต่อปี แบ่งเป็นผู้โดยสารภายในประเทศ 12 ล้านคนต่อปี และผู้โดยสารระหว่างประเทศ 18 ล้านคนต่อปี พร้อมทั้งปรับปรุงลานจอดอากาศยานให้สอดคล้องกับอาคารผู้โดยสาร โดยมีหลุมจอดประมาณ 14 หลุมจอด 2. งานก่อสร้างปรับปรุงอาคารเทียบเครื่องบิน A,B และ C 3.งานก่อสร้างอาคารบริการท่าอากาศยานครบวงจร (Airport Multiplex Building...
มาร์เก็ตติ้งรถจักรยานยนต์เศรษฐกิจไลฟสไตล์

ยามาฮ่าหนุน  “RoV Pro League Season 2”

ยามาฮ่าบุกตลาด eSports จับมือ GeranaRoVสนับสนุนการแข่งขัน “RoV Pro League Season 2”สุดยอดลีคเกมที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของเมืองไทย  ชิงยามาฮ่า AEROX RoV Limited Edition นางสรวงสุดา มนัสบุญเพิ่มพูล (คนซ้าย) ผู้จัดการทั่วไปอาวุโส ฝ่ายการตลาดกลุ่มรถออโตเมติก และตราสินค้า บริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด ถ่ายภาพร่วมกับ มร.อัลเลน ชู (คนที่ 2 จากซ้าย) หัวหน้าฝ่ายด้านกลยุทธ์ด้านพันธมิตร ประจำประเทศไทย บริษัท การีนา ออนไลน์ (ประเทศไทย) จำกัด ในงานแถลงข่าวการจัดการแข่งขัน “RoV Pro League Season 2” กีฬา eSports เทรนด์ใหม่ระดับโลกที่กำลังได้รับความนิยม และเปิดโอกาสให้ผู้เข้าแข่งขันได้โชว์ Passion ของตนเองอย่างเต็มรูปแบบ โดยมี 8 ทีมชั้นนำที่ผ่านรอบคัดเลือกมากว่า 2,800 ทีม เข้าร่วมชิงรางวัลรวมมูลค่ากว่า 6 ล้านบาท โดยผู้ชนะเลิศจะได้รับรถจักรยานยนต์ ยามาฮ่า AEROX RoV Limited Edition ไปครอง สำหรับการแข่งขันจะมีขึ้นในวันที่ 20 สิงหาคม 2561 เวลา 17.30 น. เป็นต้นไป สามารถรับชมการถ่ายทอดสดการแข่งขันได้ที่  Facebook: http://www.facebook.com/ROVTH, Garena Live : http://garena.live/ROVTH หรือที่ Youtube : https://goo.gl/fAsj9t...
รถยนต์ในประเทศเศรษฐกิจ

ตลาดรถยนต์ 7 เดือน โกยยอดขาย 571,064 คัน เพิ่มขึ้น 20.2%

ตลาดรถยนต์เดือนกรกฎาคม ยอดขายรวม 81,946 คัน เพิ่มขึ้น 25.7%ตลาดรถยนต์สะสม 7 เดือน มีปริมาณการขาย 571,064 คัน เพิ่มขึ้น 20.2% นายสุรภูมิ อุดมวงศ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด เปิดเผยว่า สถิติการขายรถยนต์ประจำเดือนกรกฎาคม 2561 มียอดการขายรวมทั้งสิ้น 81,946 คัน  เพิ่มขึ้น 25.7%  ประกอบด้วย รถยนต์นั่ง 32,531 คัน เพิ่มขึ้น 21.4%  รถยนต์เพื่อการพาณิชย์ 49,415 คัน เพิ่มขึ้น 28.8% ขณะที่ รถกระบะขนาด 1 ตัน ในเซกเมนท์นี้ มีจำนวน 38,565 คัน เพิ่มขึ้น 25.5% ตลาดรถยนต์เดือนกรกฎาคมปริมาณการขาย 81,946 คัน เพิ่มขึ้น 25.7% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา โดยตลาดรถยนต์นั่งมีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้น 21.4% และตลาดรถยนต์เพื่อการพาณิชย์มีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้น 28.8% ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากกิจกรรมส่งเสริมการขายและกิจกรรมการตลาดจากค่ายรถยนต์ต่างๆ ซึ่งเป็นแรงจูงใจในการตัดสินใจซื้อรถใหม่ของผู้บริโภค ตลาดรถยนต์สะสม 7 เดือน มีปริมาณการขาย 571,064 คัน เพิ่มขึ้น 20.2% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา โดยตลาดรถยนต์นั่งมีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้น 18.4% ตลาดรถยนต์เพื่อการพาณิชย์มีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้น 21.4% เป็นผลจากความต้องการในตลาดรถยนต์ที่มีอยู่สูงตั้งแต่ต้นปี สืบเนื่องจากเศรษฐกิจที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยมีแรงส่งมาจากการส่งออกสินค้า และการท่องเที่ยวที่ขยายตัวได้ดีในระดับสูง ตลาดรถยนต์ในเดือนสิงหาคม มีแนวโน้มเติบโต เนื่องจากความเชื่อมั่นต่อสภาพเศรษฐกิจในอนาคตที่ปรับตัวดีขึ้น ตลอดจนสินค้าการเกษตรที่ปรับตัวดีขึ้นหลายรายการ ล้วนเป็นส่วนช่วยกระตุ้นตลาดรถยนต์ไทยในอนาคต ถึงแม้ว่าผู้บริโภคบางส่วนมีความกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์การเมืองของไทย และความขัดแย้งทางการค้าระหว่างประเทศ แต่ก็จะไม่ส่งผลกระทบต่อตลาดรถยนต์มากนัก สถิติการจำหน่ายรถยนต์ เดือนมกราคม –...
รถยนต์ในประเทศเศรษฐกิจ

เบนซ์ เผยโฉม S-Class Coupé และ S-Class Cabriolet

เบนซ์ เผยโฉม Mercedes-Benz S-Class Coupé และ Mercedes-Benz S-Class Cabriolet สองสุดยอดยนตรกรรมสปอร์ตหรูเหนือระดับรุ่นใหม่ล่าสุด บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดตัวสองยนตรกรรมสปอร์ตสุดหรูอย่าง Mercedes-Benz S-Class Coupé และ Mercedes-Benz S-Class Cabriolet ที่รวบรวมความเป็นที่สุดของสมรรถนะเหนือชั้นกับประสิทธิภาพในทุกๆ ด้านไว้อย่างครบครัน ทั้งดีไซน์  อันเป็นเอกลักษณ์ที่ยกระดับมาตรฐานการออกแบบของรถยนต์สปอร์ตขึ้นไปอีกขั้น รวมถึงระบบเทคโนโลยี ความปลอดภัย และนวัตกรรมอันล้ำสมัยที่จะเติมเต็มประสบการณ์แห่งการขับขี่ให้สมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น โดยรถยนต์ Mercedes-Benz S 560 Coupé AMG Premium นำเสนอในราคา 15.99 ล้านบาท และ Mercedes-Benz S 560 Cabriolet AMG Premium นำเสนอในราคา 16.72 ล้านบาท ผู้ที่สนใจสามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ผู้จำหน่ายเมอร์เซเดส-เบนซ์อย่างเป็นทางการทั้ง 32 แห่งทั่วประเทศ นายไมเคิล เกรเว่ ประธานบริหาร บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “รถยนต์ตระกูล S-Class ถือเป็นหนึ่งในรถยนต์รุ่นที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดของเมอร์เซเดส-เบนซ์  ซึ่งนับตั้งแต่ได้มีการเปิดตัวสู่สาธารณชนเป็นครั้งแรกในปีพ.ศ. 2515 รถยนต์ตระกูลนี้ได้สร้างยอดขายให้กับเมอร์เซเดส-เบนซ์รวมแล้วกว่า 4,000,000 คัน ดังนั้นเพื่อเป็นการสานต่อเจตนารมณ์ในการมอบ “สิ่งที่ดีที่สุด” ให้แก่ลูกค้าอย่างต่อเนื่อง พร้อมสะท้อนคุณค่าของแบรนด์ ทั้งในด้านความหลงใหล (Fascination) และความสมบูรณ์แบบ (Perfection) ทางบริษัทฯ จึงได้นำเสนอสมาชิกรุ่นใหม่ล่าสุดของรถยนต์ตระกูล S-Class ในกลุ่ม Dream Car อย่าง        Mercedes-Benz S-Class Coupé และ Mercedes-Benz S-Class Cabriolet...
คมนาคมนวัตกรรมรถเพื่อการพาณิชย์

รออีกนิด !! 9 ก.ย. เปิดใช้แท็กซี่ไฟฟ้า วีไอพี

ไรเซน เอนเนอร์จี ส่งมอบยานยนต์ไฟฟ้า “บีวายดี อีซิกส์” (BYD e6) จำนวน 101 คัน ให้แก่บริษัท อีวี โซไซตี้ จำกัด ผู้บริหารกิจการแท็กซี่ในสนามบินสุวรรณภูมิ ซึ่งสานความร่วมมือกับกรมการขนส่งทางบก ผลักดันการใช้ยานยนต์ไฟฟ้าในภาคขนส่งสาธารณะครั้งแรกของประเทศไทย ในโครงการ “อีวี แท็กซี่ วีไอพี” (EV Taxi VIP) เพื่อยกระดับคุณภาพรถและบริการของแท็กซี่ไทย โดยจะเริ่มประจำการที่สนามบินสุวรรณภูมิตั้งแต่วันที่  9 กันยายน 2561 เป็นต้นไป สามารถเรียกใช้บริการผ่านแอปพลิเคชั่น Taxi Ok ของกรมการขนส่งทางบก หรือผ่านคอลล์เซ็นเตอร์ นายสมศักดิ์ ห่มม่วง รองปลัดกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า กระทรวงคมนาคมยังได้เร่งผลักดันให้เกิดการใช้ยานยนต์ไฟฟ้าในระบบขนส่งสาธารณะ ทำให้การเปิดตัว EV Taxi VIP ภายใต้การยกระดับมาตรฐานแท็กซี่ไทยโครงการ Taxi VIP ของกรมการขนส่งทางบก จะเป็นส่วนหนึ่งที่สำคัญในการสร้างระบบการคมนาคมขนส่งที่มีคุณภาพในทุกด้าน  เนื่องจากรถที่นำมาใช้ให้บริการเป็น EV Taxi VIP เป็นรถที่ใช้พลังงานจากไฟฟ้า 100% ในการขับเคลื่อน เพิ่มจำนวน Taxi VIP ซึ่งเป็นการให้บริการรถหรูระดับพรีเมี่ยม ที่มีมาตรฐานครอบคลุมในทุกมิติตามที่กรมการขนส่งทางบกกำหนด โดยมีสถานีอัดประจุไฟ Charging station ให้บริการทั้งหมด 30 แห่งทั่วกรุงเทพ เพียงพอกับความต้องการใช้งานของรถ EV Taxi VIP นอกจากนี้ รองรับการเติบโตของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว โดยท่าอากาศยานสุวรรณภูมิได้จัดพื้นที่จอดรถบริเวณชั้น 1 ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิให้กับรถ EV Taxi VIP ส่งเสริมความเป็น Smart Airport ให้กับท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ และสร้างเป็นภาพลักษณ์ที่ดีต่อการท่องเที่ยวของประเทศ นายสนิท พรหมวงษ์ อธิบดีกรมการขนส่งทางบก เปิดเผยว่า ในส่วนของความร่วมมือของภาคเอกชนครั้งนี้ บริษัท...
อสังหาฯเศรษฐกิจไลฟสไตล์

 เปิดตัวโรงแรม ซิกส์เซ้นส์ แห่งแรกในกรุงเทพฯ

MQDC และ ซิกส์เซ้นส์ โฮเทลส์ รีสอร์ทส์ สปาส์ เปิดตัวโรงแรม ซิกส์เซ้นส์ แห่งแรกในกรุงเทพฯ พร้อมด้วยที่พักอาศัยจำนวน 36 หลัง ภายใต้แบรนด์ ซิกส์เซ้นส์ ภายในเดอะ ฟอร์เรสเทียส์ โครงการมิกซ์ยูสที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อม ตั้งอยู่ในพื้นที่บางนากว่า 119 เอเคอร์ ซิกส์เซ้นส์ โฮเทลส์ รีสอร์ทส์ สปาส์ เปิดตัวโรงแรมภายใต้แบรนด์ ซิกส์เซ้นส์ ครั้งแรกในกรุงเทพฯ ซึ่งตั้งอยู่ในเดอะ ฟอร์เรสเทียส์ โครงการมิกซ์ยูสที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อม ภายใต้ความร่วมมือกับบริษัทแมกโนเลีย ควอลิตี้ ดีเวล็อปเม้นต์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (MQDC) ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ระดับสากล  ความร่วมมือกันอย่างเป็นทางการในครั้งนี้ ครอบคลุมถึงที่อยู่อาศัยแบรนด์ ซิกส์เซ้นส์ ด้วย โดยได้มีพิธีลงนามสัญญาร่วมกัน ณ ศูนย์ RISC ชั้น 4 แมกโนเลีย ราชดำริ บูเลอวาร์ด นายวิสิษฐ์ มาลัยศิริรัตน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร MQDC และมร.คริส โอ ประธานผู้อำนวยการงานโรงแรม  MQDC เป็นตัวแทนในการเซ็นสัญญา พร้อมด้วย นายนีล เจค็อบส์  ตัวแทนจากซิกส์เซ้นส์ “การร่วมมือกันในครั้งนี้เกิดการแบ่งปันความปรารถนาดีในการมอบประสบการณ์การใช้ชีวิตอย่างมีคุณภาพที่ดีที่สุดแก่ผู้อยู่อาศัยและแขกที่เข้าพัก เพื่อสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดี ในขณะที่ยังคงให้ความสำคัญต่อความกลมเกลียวระหว่างมนุษย์และธรรมชาติ ซึ่งเป็นแนวทางการดำเนินงานของ MQDC ที่เราเรียกว่า “for all well-being” นายวิสิษฐ์กล่าว “ซิกส์เซ้นส์ ได้อุทิศการทำงานอย่างหนักเพื่อเอาชนะใจลูกค้า ตามวิสัยทัศน์ขององค์กรที่ว่าด้วย Intelligent Luxury MQDC รู้สึกเป็นเกียรติที่จะเป็นเจ้าบ้านในการต้อนรับแบรนด์ระดับโลกอย่าง ซิกส์เซ้นส์ เข้ามาอยู่ในเดอะ ฟอร์เรสเทียส์ โครงการมิกซ์ยูสที่พัฒนาภายใต้แนวคิด “Sustainnovation” ที่คำนึงถึงทุกองค์ประกอบของสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดีอย่างยั่งยืน รวมถึงการขยายพื้นที่ป่าและพื้นที่สีเขียวที่ช่วยทำให้เกิดประสบการณ์ที่มีคุณค่าและความทรงจำที่ดี” นายนีล เจค็อบส์  ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัทซิกส์เซ้นส์...
กิจกรรม & CSRเศรษฐกิจไลฟสไตล์

บทความพิเศษ เรื่อง: ป่าต้นน้ำกับปัญหาการจัดการน้ำของไทย

ข่าวเขื่อนเซเปียน-เซน้ำน้อย ในแขวงอัตตะปือ ทางตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศลาวแตก สาเหตุจากการก่อสร้างไม่ได้มาตรฐาน ทำให้เกิดความเดือดร้อนเกิดอุทกภัยและโศกนาฏกรรมแก่ประชาชนคนในพื้นที่ ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าเศร้าและไม่น่าเกิดขึ้นเพียงเพราะการดูแลแก้ไขปัญหาไม่ทันท่วงทีหรืออาจจะเกิดจากความประมาทเลินเล่อของเจ้าหน้าที่ก็ไม่ทราบ จะอย่างไรก็ตามต้องขอแสดงความเสียใจพร้อมส่งกำลังใจไปยังประสบภัยและผู้สูญเสียในครั้งนี้ด้วย ล่าสุดข่าวที่เกี่ยวกับเขื่อนและน้ำที่เกิดขึ้นในประเทศไทยก็มีข่าวทำนองเดียวกันคือ น้ำในเขื่อนจังหวัดเพชรบุรี ที่สูงเกินระดับมาตรฐานซึ่งไม่เข้าใจเช่นเดียวกันว่าทำไมผู้มีหน้าที่เกี่ยวข้องจึงปล่อยให้มาถึงจุดนี้ได้ทำไมจึงไม่มีการเฝ้าระวังและระบายน้ำไปก่อนที่จะเกิดเหตุการณ์นี้ ท้ายที่สุดก็ต้องปล่อยน้ำระบายออกมาทางสปิลเวย์ จนก่อให้เกิดปัญหาน้ำท่วมสร้างความเดือดร้อนไปตามเส้นทางน้ำที่ผ่าน ท่วมหมู่บ้าน ท่วมตลาด ท่วมถนนที่ชาวบ้านเคยสัญจรไปมาจังหวัดเพชรบุรีนั้นมีเขื่อนอยู่ทั้งหมด 3 เขื่อน คือเขื่อนแก่งกระจาน  เขื่อนแม่ประจัน และเขื่อนเพชร ซึ่งเขื่อนที่มีปัญหาน้ำล้นอยู่ในขณะนี้ก็คือเขื่อนแก่งกระจานที่มีอาณาเขตติดกับชายแดนเมียนมาทางฝั่งมะริด ทะวาย วิธีการระบายน้ำผ่านทางสปิลเวย์อย่างเดียวคงจะไม่พอ ล่าสุดเห็นว่าจะมีการเปิดประตูเขื่อนให้น้ำระบายออกมาทีละน้อยด้วยอีกทางหนึ่ง จะอย่างไรก็ตามน้ำส่วนเกินนี้ก็กำลังมุ่งพุ่งตรงมายังตัวเมืองเพชรบุรีและพื้นที่ใกล้เคียง ไม่ว่าจะเป็นอำเภอท่ายาง อำเภอบ้านแหลม โดยไปตามเส้นคู คลองชลประทานต่าง ๆ ส่วนหนึ่งก็จะต้องผ่านเขื่อนเพชรซึ่งอยู่ใกล้กับอำเภอท่ายาง ถ้าระดับน้ำยังล้นเกินก็จะมีปัญหากับชาวบ้านพื้นที่แถบนี้อย่างแน่นอน จากข่าวที่นำเสนอผ่านทางทีวี ดูแล้วก็บรรยากาศคล้ายๆกับกรุงเทพมหานครในปี 2554 คือชาวบ้านร้านตลาดเริ่มก่ออิฐ ถือปูน วางกระสอบทราย กั้นผ้าใบหวังว่าจะป้องกันน้ำที่หลากไหลลงมาได้ แอบคิดในใจว่า “ไม่น่าจะมีอะไรที่จะสู้กับพลังของธรรมชาติได้” เพราะเคยมีประสบการณ์ตรงมาแล้ว ทำทุกวิถีทางทั้งใช้ดินน้ำมันใส่ถุงก๊อปแก๊ปยัดใส่โถส้วมกันน้ำมาจากทางนี้ การปิดยาแนวด้วยปูนชั้นดี การก่ออิฐ ซ้อนด้วยกระสอบทรายทับด้วยผ้าใบ ฯลฯ แต่ไม่ว่าจะอย่างไรก็ “เอาไม่อยู่” แต่ก็เข้าใจพี่น้องชาวเพชรบุรี เพราะจะต้องแก้ไขตามสถานการณ์...ดีกว่าไม่ทำอะไรเลย  ไม่ว่าจะอย่างไรก็ขอเอาใจช่วยและเป็นกำลังใจให้อีกทางนะครับ ถ้าจะวิเคราะห์เจาะลึกกันจริงๆ สาเหตุส่วนหนึ่งน่าจะมาจากการบริหารจัดการน้ำที่ประเทศของเรายังทำได้ไม่ดีพอ ซึ่งไม่ว่าจะด้วยสาเหตุใดก็ตามเพราะบ้านเราประสบพบเจอปัญหา “น้ำท่วม ฝนแล้ง ซ้ำซาก” มาหลายสิบปีโดยไม่เปลี่ยนแปลงเลย สาเหตุหลักอีกหนึ่งของปัญหาที่น่าจะเกี่ยวข้องก็คือการที่รัฐยังปล่อยให้มีการตัดไม้ทำลายป่าอย่างต่อเนื่อง จนทำให้พื้นที่ป่าดิบสมบูรณ์กลายเป็นป่าพืชไร่เลื่อนลอย เนื่องด้วยปล่อยชาวบ้านหักร้างถางพงปลูกข้าวโพด ข้าวฟ่าง ข้าวไร่และพืชผักต่างๆ จนระบบนิเวศน์ของดินและผืนป่าเปลี่ยนแปลงไป เพราะระบบรากของพืชไร่และพืชผักต่างๆ ที่มนุษย์ปลูกนั้นมีความแตกต่างจากป่าไม้ยืนต้นธรรมชาติที่หยั่งรากลึกแผ่ขยายไปได้กว้างไกล ทำให้พื้นที่หน้าดินมีความสามารถสูงกว่ามากในการดูดซับกักเก็บน้ำฝน ปริมาณน้ำฝนของประเทศไทยปีหนึ่งสูงเกือบ 800,000 ล้านลูกบาศก์เมตร ในอดีตป่าไม้ยืนต้นทำหน้าที่ในการกักเก็บน้ำฝนได้มากถึง 70% และอีก 30 % ที่เหลือไหลลงสู่ห้วย หนอง คลอง บึง และมุ่งไปยังเขื่อนต่างๆ ทำให้ป่าในอดีตทำหน้าที่เป็นแก้มลิงซับน้ำให้ไหลลงสู่เขื่อนอย่างพอเหมาะพอดีแบบค่อยเป็นค่อยไป แต่เมื่อ “ป่าเขาลำเนาไพร” ส่วนใหญ่กลายเป็น “ป่าเขาหัวโล้น” จึงทำให้ไม่มีความสามารถในการกักเก็บซับน้ำ จึงทำหน้าที่กักเก็บน้ำได้เพียง 30% และอีก...
1 45 46 47 48 49 50
Page 47 of 50