ไลฟสไตล์

กิจกรรม & CSRกิน-เที่ยวมาร์เก็ตติ้งไลฟสไตล์ไลฟสไตล์

10 ปี “โตโยต้าปลูกป่านิเวศ”

บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด นำคณะผู้บริหารของบริษัทฯ พร้อมด้วย พนักงานโตโยต้าจิตอาสา สมาชิก Toyota CSR Facebook และ สมาชิก Toyota Group Environment Network กว่า 200 คน ร่วมกิจกรรมครบรอบ 10 ปี “โตโยต้าปลูกป่านิเวศ” (Eco-Forest) ภายใต้โครงการ “โตโยต้าเมืองสีเขียว..เพื่อธรรมชาติ เพื่อทุกชีวิต” ทำการปลูกต้นไม้ครบ 1,350,000 ต้น ในระหว่างวันที่ 3 – 4 สิงหาคม 2561 ที่ผ่านมา ณ โรงงานโตโยต้าบ้านโพธิ์ จังหวัดฉะเชิงเทรา จาก “พันธสัญญาด้านสิ่งแวดล้อมของโตโยต้า พ.ศ. 2593” ที่มีเจตนารมณ์ในการพัฒนาความเจริญก้าวหน้าทางเทคโนโลยีให้เติบโตควบคู่กันไปกับการพัฒนาสังคมและสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด จึงได้มุ่งมั่นในการดำเนินงานในทุกกระบวนการอย่างเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม รวมถึงการเผยแพร่องค์ความรู้ สร้างจิตสำนึกด้านสิ่งแวดล้อมแก่สังคมไทย ผ่านกิจกรรมต่างๆภายใต้โครงการ “โตโยต้า เมืองสีเขียว…เพื่อธรรมชาติ เพื่อทุกชีวิต” โดยมีวัตถุประสงค์ในการขับเคลื่อนประเทศไทยให้เป็น เมืองสีเขียว เพื่อสนับสนุนคุณภาพชีวิตที่ดีกว่าของชุมชนเมือง กิจกรรม “โตโยต้าปลูกป่านิเวศ” (Eco-Forest) ถือเป็นหนึ่งในกิจกรรมภายใต้โครงการ “โตโยต้าเมือง สีเขียว..เพื่อธรรมชาติ เพื่อทุกชีวิต” ที่ได้ดำเนินกิจกรรมอย่างต่อเนื่องมาเป็นเวลา 10 ปี ตั้งแต่ปี พ.ศ.2551 เริ่มต้นจากการปลูกป่าภายในบริเวณโรงงานบ้านโพธิ์ จำนวนกว่า 100,000 ต้น ครอบคลุมพื้นที่กว่า 30 ไร่ และมีการเจริญเติบโตเต็มที่ตามธรรมชาติ จนกลายเป็นผืนป่าที่อุดมสมบูรณ์ทางระบบนิเวศ เกิดเป็นความหลากหลายทางชีวภาพของทั้งพืชและสัตว์ ที่มาอาศัยอยู่ในพื้นที่ป่าของโรงงานโตโยต้าบ้านโพธิ์ และได้ยกระดับสู่การเป็น ศูนย์การเรียนรู้ความหลากหลายทางชีวภาพและความยั่งยืน “ชีวพนาเวศ” ที่ปัจจุบันได้เปิดให้บรรดานักเรียน นักศึกษา...
คมนาคมนวัตกรรมเศรษฐกิจไลฟสไตล์ไลฟสไตล์

นิสสันร่วมงาน Blognone Tomorrow

ในงาน Blognone Tomorrow ที่จัดขึ้นเป็นครั้งแรก นิสสันได้นำเสนอความก้าวหน้าด้านนวัตกรรมพลังงานขับเคลื่อน Nissan Intelligent Power นวัตกรรมการขับขี่ Intelligent Driving และนวัตกรรมการบูรณาการของยานยนต์สู่สังคม Intelligent Integration ซึ่งเป็นวิสัยทัศน์ของนิสสันในการเปลี่ยนรูปแบบชองการขับขี่และการใช้ชีวิตในอนาคต ด้านนายวินเซนต์ ไวจ์เนน รองประธานอาวุโส นิสสัน เอเชีย และโอเชียเนีย (Vincent Wijnen, senior vice president for Nissan Asia and Oceania) กล่าวว่า นิสสันมีความเข้าใจในกลุ่มคนยุคมิลเลนเนียนที่ต้องการ การเชื่อมต่อไม่ว่าจะเป็นขณะขับขี่หรือขณะเป็นผู้โดยสารในรถ "ในปี 2020 ผู้ซื้อรถใหม่ 40% จะเป็นคนยุคมิลเลนเนียลที่คุ้นเคยกับโลกดิจิตอล ต้องการเชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ตตลอด 24 ชั่วโมง ในทุกๆวัน รถยนต์จะเป็นมากกว่ายานพาหนะที่ช่วยให้เราย้ายจากจุด A ไปยังจุด B รถยนต์จะเป็นส่วนหนึ่งของไลฟ์สไตล์พวกเขา นิสสันมุ่งมั่นที่จะมอบประสบการณ์การขับขี่ที่มีความเพลิดเพลิน ปลอดภัย และยังยั่งยืน ผ่านแนวคิด Nissan Intelligent Mobility ของเรานี้ซึ่งเริ่มต้นด้วยการใช้รถยนต์พลังงานไฟฟ้า. จากการศึกษาของนิสสันร่วมกับบริษัทที่ปรึกษาอย่าง Frost & Sullivan พบว่าผู้บริโภคชาวไทยกว่า 40% เปิดใจพร้อมซื้อรถยนต์ไฟฟ้าเป็นรถยนต์คันถัดไป และ นิสสันลีฟ (LEAF) ซึ่งเป็นรถยนต์ไฟฟ้าที่ขายดีที่สุดในโลกจะเปิดตัวในประเทศไทยภายในปีงบประมาณ 2561 ของบริษัทฯ นับเป็นผู้นำในรถยนต์พลังงานไฟฟ้า (EV) ที่มีส่วนสร้างความยั่งยืนทั้งในด้านขับเคลื่อนและสิ่งแวดล้อม นาย ไวจ์เนน ยังอธิบายเพิ่มเติมว่า "เทคโนโลยี อี-พาวเวอร์ ของนิสสันให้ประสบการณ์การขับขี่แบบเดียวกับรถไฟฟ้าแต่ไม่ต้องใช้การชาร์จไฟด้วยการเสียบปลั๊กกับตัวรถ อี-พาวเวอร์จะใช้เครื่องยนต์เบนซินขนาดเล็กผลิตไฟเพื่อชาร์จสู่แบตเตอรี่แทน ในการอภิปรายเกี่ยวกับการขับขี่แบบอัตโนมัติ นายไวจ์เนน ได้ยกประเด็นผู้บริโภคในอนาคตจะใช้เวลาในการติดต่อกับเพื่อนหรือเข้าสังคมออนไลน์มากกว่าให้ความสนใจกับการจราจรติดขัด "ที่นิสสัน เราเชื่อมั่นในการสร้างทางเลือกแก่ผู้คน และเรามีทางเลือกในการขับขี่ให้กับลูกค้าของเรามากขึ้น เทคโนโลยี ProPILOT ซึ่งปัจจุบันมีวางจำหน่ายแล้วในประเทศญี่ปุ่นและสหรัฐอเมริกา ถือเป็นเทคโนโลยีที่ช่วยให้เราได้รับการขับขี่อัตโนมัติเต็มรูปแบบ ด้วยเทคโนโลยีของนิสสันชนิดนี้...
กิจกรรม & CSRกิน-เที่ยวเศรษฐกิจไลฟสไตล์ไลฟสไตล์

คาราวานเงาะนาสารส่งตรงถึงเหนือและอีสาน

สหกรณ์การเกษตรเมืองสุราษฎร์ธานี จำกัด เร่งระบายเงาะโรงเรียนนาสารออกสู่ตลาด หวั่นผลผลิตกระจุกตัวในพื้นที่ ปล่อยคาราวานรถขนเงาะส่งขายให้เครือข่ายสหกรณ์ในเขตกรุงเทพฯ ภาคเหนือและอีสานว 7 แห่ง รวม 28.3 ตัน  ขณะที่สิงค์โปรสั่งซื้อเงาะจากสหกรณ์วันละ6 ตัน มั่นใจเงาะคุณภาพตลาดต้องการพร้อมติดป้ายสร้างความมั่นใจให้ลูกค้าตรวจสอบย้อนกลับได้หากไม่พอใจสินค้า ไร้กังวลเงาะราคาตกต่ำ ส่งขายเองไม่ผ่านคนกลาง คาดระบายเงาะหมดภายในเดือนกันยายน.นี้ นายเชิดชัย พรหมแก้ว รองอธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ เป็นประธานปล่อยคาราวานเงาะโรงเรียนนาสารซึ่งเป็นเงาะจากพื้นทีเกษตรแปลงใหญ่ จำนวน 10 คันปริมาณ 28.3 ตัน  เพื่อส่งไปยังจังหวัดต่าง ๆ ในภาคอีสาน และภาคเหนือ จำนวน 7 สหกรณ์  ได้แก่ 1.สหกรณ์การเกษตรเกษตรวิสัย จำกัด จ.ร้อยเอ็ด 14.8 ตัน 2.สหกรณ์การเกษตรเมืองลับแล จำกัด จ.อุตรดิตถ์  2.7 ตัน 3.สหกรณ์การเกษตรปราสาท จำกัด จ.สุรินทร์ 2.7 ตัน 4.ชุมนุมสหกรณ์การเกษตรจังหวัดบุรีรัมย์ จ.บุรีรัมย์ 2.7 ตัน 5.สหกรณ์การเกษตรพิมาย จำกัด จ.นครราชสีมา 4.7 ตัน 6.สหกรณ์การเกษตรประตูป่า จำกัด จ.ลำพูน 2.7 ตัน แลกกับลำใยของจังหวัดลำพูน 3 ตัน  7.ชุมนุมสหกรณ์แห่งประเทศไทย จำกัด 3 ตัน ซึ่งเป็นการดำเนินโครงการกระจายผลไม้ผ่านขบวนการสหกรณ์ ซึ่งโครงการดังกล่าวเป็นการกระจายผลผลิตเงาะออกสู่ตลาดปลายทางเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของเกษตรกรจากปัญหาราคาเงาะตกต่ำโดยเฉพาะในช่วงเดือนก.ค. - ก.ย. นี้ เนื่องจากผลผลิตออกพร้อมกันจำนวนมาก ซึ่งสหกรณ์การเกษตรเมืองสุราษฎร์ธานี จำกัด เป็นผู้รวบรวมเงาะคุณภาพจากสหกรณ์ฯ และกลุ่มวิสาหกิจชุมชนพัฒนาไม้ผลเพิ่มพูลทรัพย์ ตำบลลาพูน อำเภอบ้านนาสาร จังหวัดสุราษฎร์ธานี เพื่อนำมาจัดส่งกระจายไปยังผู้บริโภคทั่วประเทศ ด้านนายธวัชชัย เทพเลื่อน ผู้จัดการสหกรณ์การเกษตรเมืองสุราษฎร์ธานี จำกัด กล่าวว่า สหกรณ์ได้ปล่อยเงาะโรงเรียนออกสู่ตลาดและส่งจำหน่ายให้เครือข่ายสหกรณ์จังหวัดต่างๆทั่วประเทศแล้วจำนวน ...
มาร์เก็ตติ้งเศรษฐกิจเศรษฐกิจมหาภาคไลฟสไตล์ไลฟสไตล์

“เจอร์ไฮ” จับมือ “ดองวอน”บุกขายในเกาหลีใต้  

เจอร์ไฮ เล็งขยายช่องทางจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์อาหารสุนัขในเอเชีย ลงนามความร่วมมือกับยักษ์ใหญ่ธุรกิจอาหารชั้นนำในระดับ Top5 ของเกาหลีใต้ Dongwon F&B Co., Ltd.  พร้อมนำเข้าวัตถุดิบอาหารสำเร็จรูปจากดองวอน นายสุธา ด่านเสริมสุข รองกรรมการผู้จัดการ ด้านการค้าต่างประเทศ บริษัท ซีพีเอฟ ฟู้ด แอนด์ เบฟเวอร์เรจ จำกัด เปิดเผยว่า  การลงนามความร่วมมือในครั้งนี้ดำเนินการในนาม บริษัท อินเตอร์เนชั่นแนลเพ็ทฟู้ด จำกัด และ บริษัท ซีพีเอฟ ฟู้ด แอนด์ เบฟเวอเรจ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทลูกของซีพีเอฟ ขณะที่ บริษัท ดองวอน เอฟ แอนด์ บี จำกัด เป็นผู้ผลิตอาหาร-เครื่องดื่มแถวหน้าของเกาหลีใต้ ที่มีช่องทางการจำหน่ายครอบคลุมทั่วประเทศ ทั้งโมเดิร์นเทรด ร้านสะดวกซื้อ รวมถึงการจัดจำหน่ายสินค้าออนไลน์  จึงนับเป็นโอกาสอันดีที่จะช่วยให้ผลิตภัณฑ์ของบริษัท สามารถเข้าถึงผู้บริโภคชาวเกาหลีใต้ได้มากยิ่งขึ้น โดยบริษัทจะนำร่องด้วยการส่งผลิตภัณฑ์อาหารสุนัข “เจอร์ไฮ” เข้าไปจำหน่ายยังตลาดกลุ่มผู้รักการเลี้ยงสัตว์ซึ่งกำลังขยายตัวอย่างมากในเกาหลีใต้  นอกจากนี้ยังครอบคลุมถึงความร่วมมือด้านนวัตกรรมและเทคโนโลนีการผลิตด้วย ขณะเดียวกัน บริษัท ซีพีเอฟ ฟู้ด แอนด์ เบฟเวอเรจ จำกัด จะนำเข้าวัตถุดิบในการปรุงอาหารอันมีชื่อเสียงจากดองวอน อาทิ ชีส สาหร่าย และแผ่นปลาทะเล เพื่อใช้เป็นส่วนผสมสำหรับการสร้างสรรค์เมนูอาหารใหม่ๆ ตอบสนองผู้บริโภคชาวไทยทุกเพศทุกวัย รวมถึงคัดเลือกผลิตภัณฑ์อาหารอื่นๆของดองวอนเข้ามาทดลองตลาดในประเทศไทยด้วย ทั้งนี้ Dongwon F&B Co., Ltd. เป็นผู้ผลิตและจัดจำหน่ายอาหารที่หลากหลาย ทั้งกลุ่มอาหารกระป๋อง เช่น ทูน่ากระป๋อง อาหารว่างเช่นไส้กรอก สาหร่าย ตลอดจน ผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มและอาหารเสริม โดยมีช่องทางการจัดจำหน่ายที่แข็งแกร่ง จัดเป็นธุรกิจอาหารยักษ์ใหญ่ระดับ Top5 ของเกาหลีใต้...
กิน-เที่ยวมาร์เก็ตติ้งเศรษฐกิจเศรษฐกิจมหาภาคไลฟสไตล์ไลฟสไตล์

พาณิชย์ชูแฟรนไชส์สร้างงานผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ

พาณิชย์ นำแฟรนไชส์ 50 แบรนด์ สร้างงาน สร้างอาชีพ กระจายรายได้ ให้ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ผู้ว่างงาน และผู้สนใจ เลือกซื้อแฟรนไชส์ที่เหมาะสม คาดจบโครงการฯ 20 จังหวัด สร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจได้กว่า 100 ล้านบาท กระจายรายได้ให้ส่วนภูมิภาคอย่างทั่วถึง นางกุลณี อิศดิศัย อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า จากนโยบายของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ (นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์) ที่ต้องการสร้างงาน สร้างอาชีพ สร้างรายได้ให้แก่ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ผู้มีรายได้น้อย และผู้ว่างงาน ภายใต้โครงการ “แฟรนไชส์สร้างอาชีพ” เพื่อสร้างอาชีพสร้างรายได้อย่างยั่งยืนและลดการพึ่งพาสวัสดิการของรัฐในอนาคต โดยกรมพัฒนาธุรกิจการค้าได้นำแฟรนไชส์ที่มีเงินลงทุนไม่สูงลงพื้นที่ในส่วนภูมิภาค เป็นจังหวัดที่มีผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐเป็นจำนวนมาก และเป็นจังหวัดท่องเที่ยวเมืองรองจำนวน 20 จังหวัด ให้ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐและผู้ที่สนใจเลือกนำไปประกอบเป็นอาชีพ “ตั้งแต่เดือนมิถุนายนที่ผ่านมา กรมฯ ได้นำธุรกิจแฟรนไชส์ จำนวน 100 แบรนด์ ลงพื้นที่มาแล้ว 6 จังหวัด ได้แก่ นครราชสีมา ลำปาง อุดรธานี เชียงราย นครศรีธรรมราช และกำแพงเพชร โดยแฟรนไชส์ที่ได้รับความนิยมมากที่สุด คือ ประเภทอาหารและเครื่องดื่ม เนื่องจากเป็นธุรกิจที่สามารถบริหารจัดการและจำหน่ายได้ง่าย รองลงมา คือ ธุรกิจเกี่ยวกับความงาม และบริการ ซึ่งจากการนำธุรกิจแฟรนไชส์ลงพื้นที่ทั้ง 6 จังหวัด สามารถสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจได้กว่า 20 ล้านบาท คาดว่าเมื่อจบทั้งโครงการ (20 จังหวัด) จะสามารถสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจได้ไม่ต่ำกว่า 100 ล้านบาท และระหว่างวันที่ 9 - 12 สิงหาคม 2561 นี้ กรมฯ จะนำธุรกิจแฟรนไชส์ลงพื้นที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ซึ่งเป็นจังหวัดที่ 7 เพื่อให้ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ผู้มีรายได้น้อย และผู้ว่างงานได้เลือกซื้อเพื่อนำไปประกอบเป็นอาชีพต่อไป”...
กิน-เที่ยวมาร์เก็ตติ้งเศรษฐกิจไลฟสไตล์ไลฟสไตล์

“เวิรค์พ้อยท์”ถ่ายทอดสดเอเชี่ยนเกมส์ผ่านเอไอเอสเพลย์

"เวิรค์พ้อยท์”จับมือ “เอไอเอส” ถ่ายทอดสดเอเชี่ยนเกมส์ผ่านกล่องเอไอเอส และถ่ายทอดผ่านมือถือ เอไอเอสเพลย์" นายปรัธนา ลีลพนัง หัวหน้าคณะผู้บริหาร กลุ่มลูกค้าทั่วไป พร้อมด้วย              นายสุวิทย์ อารยะวิไลพงศ์ หัวหน้างานบริหารผลิตภัณฑ์ กลุ่มลูกค้าทั่วไป บริษัท แอดวานซ์                อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด(มหาชน) หรือเอไอเอส  ร่วมมือกับ นางวิชนี ศรีสวัสดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายงานการตลาด บริษัท เวิร์คพอยท์ เอ็นเทอร์เทนเมนท์ จำกัด (มหาชน) ให้คนไทยได้ส่งใจเชียร์นักกีฬาไทย พร้อมชมการแข่งขันกีฬาในมหกรรมการแข่งขันกีฬาเอเชียนเกมส์ ครั้งที่ 18 ณ ประเทศอินโดนีเซียผ่านมือถือ และทีวี นายปรัธนา กล่าวว่า “การแข่งขันกีฬาเอเชียนเกมส์ ที่จะเกิดขึ้นในระหว่างวันที่ 18 ส.ค. - 2 ก.ย.นี้             ณ ประเทศอินโดนีเซีย ถือเป็นมหกรรมกีฬานานาชาติครั้งสำคัญที่สุดในทวีปเอเชีย โดยจะมีนักกีฬาจากทั่วเอเชียเข้าร่วมทั้งสิ้น จาก 45 ประเทศ ในกีฬาทั้งหมด 40 ชนิดกีฬา รวมทั้งหมด 463 เกมการแข่งขัน และประเทศไทยเองก็เป็น 1 ในประเทศที่ส่งนักกีฬาเข้าแข่งขันในประเภทกีฬาต่างๆ มากถึงเกือบ 1 พันคน นี่คือความยิ่งใหญ่ของมหกรรมกีฬาเอเชียนเกมส์ ที่คนไทยไม่ควรพลาดติดตามแม้แต่แมตช์เดียว” “ดังนั้นเพื่อให้ชาวไทยได้ส่งกำลังใจ เชียร์นักกีฬาไทย รวมถึงกลุ่มคนกีฬา ทั้งเยาวชนและผู้ใหญ่ ที่จะสามารถติดตามชมเทคนิคการเล่น รวมถึงได้รับแรงบันดาลใจเกี่ยวกับกีฬาประเภทใหม่ๆ ได้อย่างสะดวกสบาย ตลอดเวลา แบบติดขอบจอมือถือและทีวี  เอไอเอสจึงร่วมมือกับ บริษัท เวิร์คพอยท์ เอ็นเทอร์เทนเมนท์ จำกัด (มหาชน) ถ่ายทอดสดการแข่งขันมหกรรมกีฬาเอเชียนเกมส์ ผ่านแอปพลิเคชั่น AIS PLAY และกล่อง AIS PLAY BOX...
กิจกรรม & CSRรถยนต์ในประเทศไลฟสไตล์

โตโยต้า เปิด “ศูนย์พัฒนาศักยภาพผู้ขับขี่รถยนต์”

นายวุฒิกร สุริยะฉันทนานนท์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด พร้อมด้วยนายวิทยา ยาม่วง ที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจการขนส่งทางน้ำ กระทรวงคมนาคม นายวัลลภ งามสอน ผู้อำนวยการสำนักสวัสดิภาพการขนส่งทางบก กรมการขนส่งทางบก นายแพทย์วิวัฒน์ ศีตมโนชญ์ รองประธานแผนงานสนับสนุนการป้องกันอุบัติเหตุจราจรระดับจังหวัด ผู้บริหารเครือข่ายความปลอดภัยทางถนน นายคาร์ล ออพเพนบอร์น ประธานชมรมผู้แทนจำหน่ายโตโยต้า และผู้บริหารผู้แทนจำหน่ายโตโยต้า ร่วมงานครบรอบ 30 ปี โตโยต้า ถนนสีขาว พร้อมก้าวเข้าสู่สังคมคนขับรถดี และพิธีเปิดศูนย์พัฒนาศักยภาพผู้ขับขี่รถยนต์โตโยต้า ในวันที่ 8 สิงหาคม 2561 ณ ศูนย์ขับทดสอบรถยนต์โตโยต้า Toyota Driving Experience Park ถนนบางนา - ตราด กิโลเมตรที่ 3 กรุงเทพมหานคร และเพื่อเป็นการแสดงเจตนารมณ์ที่มุ่งมั่นกับการก้าวสู่การสร้างสังคมคนขับรถดี โดยให้ความ สำคัญกับผู้ใช้รถใช้ถนน เพื่อช่วยลดจำนวนอุบัติเหตุบนท้องถนนอย่างแท้จริง โตโยต้าได้กำหนดนโยบายร่วมกับผู้แทนจำหน่ายโตโยต้าทั่วประเทศ สอดรับกับแผนงานของ สอจร. ในการดำเนินงานมาตรการองค์กรเพื่อความปลอดภัยทางถนนจากภายในสู่ชุมชน ผ่าน 1)     นโยบายการขับขี่ยานพาหนะอย่างปลอดภัยสำหรับพนักงานภายในองค์กร 2)     กิจกรรมการจัดการอบรม “ขับขี่ปลอดภัย ประหยัดพลังงาน และรักษาสิ่งแวดล้อม” ให้แก่ลูกค้า โตโยต้าและประชาชนทั่วไป 3)     กิจกรรมรณรงค์ความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนนในช่วงเทศกาลสำคัญ โดยผู้แทนจำหน่ายฯในแต่ละจังหวัด ร่วมกับกรมทางหลวง กรมขนส่งทางบกในพื้นที่ สถานีตำรวจในพื้นที่ และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น จัดตั้งศูนย์อำนวยความสะดวกแก่ประชาชน โดยสนับสนุนเจ้าหน้าที่ตรวจเช็คสภาพรถยนต์เบื้องต้น 4)     การจัดทำป้ายเตือนการใช้รถใช้ถนนในจุดเสี่ยง เพื่อช่วยลดการเกิดอุบัติเหตุในพื้นที่ นอกจากนี้ โตโยต้ายังได้ร่วมมือกับกรมการขนส่งทางบก เปิดศูนย์พัฒนาศักยภาพผู้ขับขี่รถยนต์โตโยต้า เพื่อพัฒนาและเพิ่มทักษะการขับขี่รถยนต์อย่างปลอดภัย ผ่านหลักสูตรการอบรมความรู้ด้านการขับขี่ทั้งภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติ ซึ่งประกอบด้วย 3 หลักสูตร คือ 1.หลักสูตรการสอนขับรถยนต์ สำหรับมือใหม่หัดขับ เป็นการจัดอบรมขับขี่ปลอดภัยสำหรับผู้ที่ไม่มีพื้นฐานการขับรถยนต์และมีความต้องการเรียนรู้ทักษะการขับรถที่ถูกต้อง โดยจะนำความรู้และทักษะการขับรถเพื่อขอสอบใบขับขี่รถยนต์...
รถจักรยานยนต์ไลฟสไตล์

ฮอนด้า เปิดตัว All New Wave 125i ดีไซน์ใหม่ทั้งคัน

เอ.พี. ฮอนด้า ตอกย้ำผู้นำตลาดรถจักรยานยนต์อันดับ 1 ต่อเนื่องเป็นปีที่ 30 เดินหน้า “WHAT STOPS YOU? มุ่งไป อย่าให้อะไรมาหยุด” จัดงานแถลงข่าวเปิดตัวรถจักรยานยนต์รุ่นใหม่ท็อปคลาสในกลุ่มรถครอบครัว All New Wave 125i ครั้งแรกกับการปรับโฉมเพิ่มเสน่ห์ ด้วยไฟหน้าแบบ LED ภายใต้ดีไซน์ใหม่ทั้งคัน ราคาเริ่มที่  5.28 หมื่นบาท นายสุชาติ อรุณแสงโรจน์ รองประธานกรรมการบริหาร บริษัท เอ.พี. ฮอนด้า จำกัด ผู้จัดจำหน่ายรถจักรยานยนต์ฮอนด้าในประเทศไทย เปิดเผยว่า “ภาพรวมตลาดรถจักรยานยนต์ในประเทศไทยในครึ่งปีแรก (ม.ค.-มิ.ย. 2561) มีตัวเลขรวมอยู่ที่ 935,025 คัน ฮอนด้ามียอดจำหน่ายทั้งสิ้น 730,116 คัน ส่วนแบ่งการตลาดที่ 78% โดยเราตั้งเป้าการขายรวมในปีนี้ อยู่ที่ 1.48 ล้านคัน สำหรับตัวเลขในช่วงครึ่งปีแรกของรถจักรยานยนต์กลุ่มรถประเภทครอบครัวมีการขยายตัวเพิ่มขึ้น มีสัดส่วนอยู่ที่ 50.1% ของตลาด ฮอนด้าถือว่ามีอัตราการเติบโตที่ดีมียอดขายอยู่ที่ 435,337 คัน เป็นส่วนแบ่งการตลาดที่ 91% และหากเทียบจากปีที่ผ่านมาในช่วงเวลาเดียวกันเติบโตขึ้น 2% จะเห็นได้ว่ารถกลุ่มครอบครัวได้รับความนิยมเพิ่มสูงขึ้น “และเพื่อสร้างความคึกคัดให้กับตลาด ตลอดจนเปิดมิติใหม่ให้กับกลุ่มรถครอบครัว  ที่ก้าวเข้าสู่ยุคแห่งความล้ำหน้าไปอีกระดับ ด้วยการนำเสนอรถจักรยานยนต์รุ่นใหม่ “All New Wave 125i” ที่เรียกได้ว่าเป็นระดับท็อปคลาสในกลุ่มรถจักรยานยนต์ประเภทครอบครัว และเป็นหนึ่งในรุ่นเรือธงยอดนิยมของคนไทย การปรับ  โฉมใหม่ทั้งคันในครั้งนี้เรียกได้ว่าเป็นครั้งแรกของ Wave 125i  โดยเราได้เพิ่มเสน่ห์และคุณค่าด้วยไฟหน้าแบบ LED รวมทั้งพัฒนาระบบหัวฉีด PGM-FI ให้เป็นระดับ 5.5 เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการประหยัดน้ำมันให้ดียิ่งขึ้นจาก 63.3 กม./ลิตร เป็น 64 กม./ลิตร และสมรรถนะการขับขี่เพื่อรองรับตามกฎหมาย EURO4 (Emission7) ซึ่งถือเป็นรุ่นแรกของรถครอบครัวที่รองรับกฎหมายนี้...
รถจักรยานยนต์ไลฟสไตล์

รอยัล เอนฟิลด์ เปิดสโตร์ที่เชียงใหม่

  รอยัล เอนฟิลด์ เปิด “รอยัล เอนฟิลด์ สโตร์ เชียงใหม่”แห่งแรกในภาคเหนือและเป็นแห่งที่ 3 ในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ พร้อมให้บริการลูกค้าชาวเหนืออย่างเต็มรูปแบบ ครอบคลุมตั้งแต่การจำหน่ายรถ บริการหลังการขาย อะไหล่ และการบริการอื่นๆแล้ววันนี้ นายอรุณ โกปาล ประธานฝ่ายธุรกิจต่างประเทศ รอยัลเอนฟิลด์ เปิดเผยว่า  เรามีความยินดีเป็นอย่างยิ่งและมีความพึงพอใจต่อผลการดำเนินงาน ตลอดจนการเติบโตของเราตลอดระยะเวลา 30 เดือนของการดำเนินธุรกิจในประเทศไทย เรามุ่งมั่นจะสร้างแบรนด์ของเราให้เติบโตอย่างมั่นคงผ่านปรัชญาในการมอบประสบการณ์การขับขี่มอเตอร์ไซค์ที่แท้จริงหรือ Pure Motorcycleแก่ผู้ขับขี่ชาวไทยซึ่งปรัชญาดังกล่าวได้ช่วยให้เราเติบโตอย่างต่อเนื่องในประเทศไทย การเปิดสโตร์ที่เชียงใหม่วันนี้ นับเป็นก้าวสำคัญในการดำเนินธุรกิจในประเทศไทย เนื่องจากเป็นครั้งแรกที่เราได้ขยายการให้บริการลูกค้านอกเขตพื้นที่กรุงเทพฯ ตอบโจทย์การให้บริการครอบคลุมคอมมูนิตี้ผู้ขับขี่รอยัล เอนฟิลด์ ในเขตภาคเหนือ “รอยัล เอนฟิลด์ สโตร์ เชียงใหม่” ตั้งอยู่เลขที่ 62 ถนนโชตนาตำบลช้างเผือกอำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่50300 มีพื้นที่ให้บริการรวมทั้งหมด 220ตารางเมตร พร้อมจำหน่ายและมีบริการทดสอบรถมอเตอร์ไซค์รอยัล เอนฟิลด์ ครบทุกรุ่น รวมถึงจำหน่ายสินค้าและอุปกรณ์ในการขับขี่ต่างๆ สำหรับลูกค้าที่เป็นเจ้าของรถมอเตอร์ไซค์รอยัลเอนฟิลด์อยู่แล้ว สโตร์แห่งใหม่ยังให้บริการเช็คระยะเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง โดยสามารถรองรับรถลูกค้าที่จะมาใช้บริการได้สูงสุดถึง 150 คันต่อเดือน” นางสาวณฐพร จิรมหาโภคา ผู้จัดการ  รอยัล เอนฟิลด์ประจำประเทศไทยกล่าวว่า “รอยัล เอนฟิลด์ สโตร์ เชียงใหม่ นับเป็นก้าวสำคัญในการดำเนินธุรกิจของรอยัล เอนฟิลด์ในประเทศไทย สอดคล้องกับแผนการขยายการบริการให้ครอบคลุมทั่วประเทศเพื่อมอบการบริการที่ดีที่สุดแก่ลูกค้า โดยสโตร์แห่งนี้ นับเป็นสโตร์แห่งที่ 3 ถัดจากทองหล่อและวิภาวดี ซึ่งนอกจากการขยายสโตร์ที่ให้บริการครบวงจรแล้ว เรายังมุ่งขยายศูนย์บริการทั่วประเทศ โดยเปิดให้บริการถึง 8 แห่งแล้วในปีนี้ และมีแผนที่จะขยายศูนย์บริการเพิ่มอีกให้ครอบคลุมการบริการทั่วประเทศ รองรับการเติบโตของคอมมูนิตี้คนรักรอยัล เอนฟิลด์ในประเทศไทยดิฉันหวังเป็นอย่างยิ่งว่าการเปิดสโตร์ที่เชียงใหม่ในวันนี้จะช่วยให้ลูกค้าชาวเชียงใหม่และจังหวัดใกล้เคียงจะได้รับความสะดวกสบายจากสโตร์แห่งใหม่ของเราอย่างเต็มรูปแบบ”...
1 2 3 4
Page 4 of 4