the latest news

รถยนต์ต่างประเทศ

มิชลินซื้อกิจการ Multistrada ผู้ผลิตยางรถรายใหญ่ในอินโดนีเซีย

เพื่อให้สอดคล้องกับกลยุทธ์ของบริษัท ในวันนี้มิชลินประกาศว่าบริษัทได้ลงนามในข้อตกลงเพื่อเข้าซื้อกิจการ 80%  จาก PT Multistrada Arah Sarana (“Multistrada”) บริษัทผู้ผลิตยางรถยนต์ในประเทศอินโดนีเซีย ด้วยกำลังการผลิตมากกว่า 180,000 ตัน (ซึ่งประกอบด้วยยางสำหรับรถยนต์ส่วนบุคคล 11 ล้านเส้น ยางสำหรับยานพาหนะสองล้อ 9 ล้านเส้น และยางสำหรับรถบรรทุกจำนวน 250,000 เส้น) โดย Multistrada ได้สร้างยอดขายสุทธิเป็นมูลค่า 281 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในปี 2560 ในการเข้าซื้อกิจการครั้งนี้ มิชลินจะเสริมสร้างความแข็งแกร่งของบริษัทในตลาดอินโดนีเซียที่มีโอกาสประสบความสำเร็จสูงแต่เป็นตลาดที่ถือครองโดยผู้ผลิตในท้องถิ่น โดยจะทำการซื้อกิจการโรงงานในท้องถิ่นที่มีโอกาสในการแข่งขันสูงพร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกคุณภาพดีและกำลังในการผลิตที่พร้อมใช้งานทันที และด้วยความเชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านการลงทุนใหม่ที่มีข้อจำกัด มิชลินจะค่อยๆ เปลี่ยนการผลิตจากยางรถยนต์ส่วนบุคคลในระดับ 3 ไปเป็นแบรนด์กลุ่มมิชลินระดับ 2 ดังนั้นจะช่วยให้มีการผลิตในระดับ Tier3 ไปผลิตยางในระดับ Tier2 ของแบรนด์ต่างๆในกลุ่มมิชลิน และยังสามารถเอื้อให้โรงงานอื่นๆในเอเชียสามารถผลิตยาง Tier1 และรองรับความต้องการที่เติบโตขึ้นของยาง Tier2 ในยุโรป อเมริกาเหนือและเอเชียได้ นอกจากนี้ ในการซื้อกิจการดังกล่าว มิชลินร่วมกับ Indomobil และนักลงทุนเอกชนจะซื้อหุ้นค้าปลีกจำนวน 20 % จาก PT Penta Artha Impressi (“Penta”) ด้วย ซึ่งจะช่วยส่งเสริมการตลาดและการขายของแบรนด์กลุ่มมิชลินในอินโดนีเซียให้เพิ่มสูงขึ้น ช่วยให้มิชลินรักษาการเข้าถึงที่สำคัญๆ ในตลาดส่วนใหญ่ไว้ได้ และจะอยู่ในตำแหน่งที่ได้รับผลประโยชน์จากการเติบโตและการขยายตัวในอนาคตของตลาดได้เป็นอย่างดี Jean-Dominique Senard ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มมิชลินกล่าวว่า “การเข้าซื้อกิจการจาก Multistrada ถือเป็นโอกาสที่ดีเยี่ยมสำหรับมิชลินในการขยายการดำเนินงานในอินโดนีเซีย ซึ่งเป็นประเทศที่มีประชากรมากที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และมีกำลังการผลิตที่มีคุณภาพและแข่งขันได้ในทันทีโดยไม่ต้องสร้างโรงงานผลิตใหม่” Pieter Tanuri ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ Multistrada กล่าวว่า “เราภูมิใจในความสำเร็จของ Multistrada และมั่นใจว่ามิชลินจะเป็นพันธมิตรในอุดมคติที่จะนำ Multistrada ไปสู่การเติบโตและความสำเร็จยุคใหม่เพื่อประโยชน์ของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียและพนักงานทุกคน” ความร่วมมือด้านการผลิต การขาย และการจัดซื้อที่กำลังจะเกิดขึ้นนี้คาดว่าจะมีมูลค่าสูงถึง 70 ล้านเหรียญสหรัฐต่อปีภายใน 3...
ออโตโชว์

เผยโฉมเชฟวี่ ซิลเวอร์ราโด จากตัวต่อเลโก้

เชฟโรเลต และนักเรียนจากโครงการแข่งขันหุ่นยนต์FIRST LEGO Leagueโรงเรียนออกซฟอร์ดคอมมูนิตี้ร่วมกับนักเรียนจากโครงการ A World in Motion Program ของโรงเรียนมัธยม ราล์ฟ วอลโด เอเมอร์สัน ในดีทรอยต์เปิดตัวรถกระบะขนาดใหญ่เชฟโรเลต ซิลเวอร์ราโดที่ถูกสร้างจากชิ้นส่วนเลโก้®ขนาดเท่ารถของจริงเป็นครั้งแรกในงานนอร์ทอเมริกาอินเตอร์เนชั่นแนลออโต้โชว์(North American International Auto Show) ซึ่งเพิ่งจะเปิดให้สาธารณชนเข้าชมงาน แบบจำลองนี้ถูกสร้างเป็นรถกระบะซิลเวอร์ราโด ใหม่รุ่นปี 2019 1500 LT เทรลบอสส์ขนาดเท่ารถของจริง และเป็นรถกระบะเชฟโรเลตคันแรกที่สร้างจากตัวต่อเลโก้ทั้งหมด รถกระบะซิลเวอร์ราโดที่ต่อจากเลโก้นี้เป็นความร่วมมือระหว่างเชฟโรเลตและวอร์เนอร์บราเธอส์ พิคเจอร์สที่มีมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ภาพยนตร์เรื่อง "เลโก้แบทแมน" และ “เลโก้ แบทโมบิลจากเชฟวี่” ในปี 2560 โดยความร่วมมือล่าสุดนี้เกิดขึ้นจากความพยายามที่จะสร้างกิจกรรมทางการตลาดให้กับรถกระบะซิลเวอร์ราโดที่เปิดตัวไปเมื่อช่วงต้นเดือนมกราคมนี้ Chevrolet unveils an exact life-size LEGO replica of the all-new 2019 Silverado 1500 LT Trail Boss Saturday, January 19, 2019, just prior to the pubic opening of the North American International Auto Show in Detroit, Michigan. Eighteen LEGO Master Builders spent more than 2,000 hours putting the 334,544 piece LEGO Silverado together. The LEGO...
นวัตกรรม

มิตซูบิชิ ไทรทัน ใหม่ปลอดภัยรอบคัน

มิตซูบิชิ มอเตอร์ส มุ่งมั่นออกแบบ พัฒนาและผลิตรถกระบะชั้นนำที่เพียบพร้อมด้วยสมรรถนะ เทคโนโลยีและความแกร่งทนทาน มาตลอดระยะเวลากว่า 40 ปี ทั้งนี้มิตซูบิชิ มอเตอร์สให้ความสำคัญกับความสะดวกสบายและความปลอดภัยมาตั้งแต่ยุคแรกเริ่มของการผลิตรถกระบะ แม้ในยุคนั้นการใช้งานรถกระบะจะเน้นไปในเชิงพาณิชย์ และอีกกว่า 20 ปีต่อมาการใช้รถกระบะแบบรถยนต์นั่งส่วนบุคคลจึงกลายเป็นที่นิยม ด้วยเหตุนี้ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส จึงเป็นหนึ่งในผู้นำด้านเทคโนโลยีระบบความปลอดภัยและความสะดวกสบายสำหรับรถกระบะนอกเหนือจากด้านสมรรถนะในระดับแชมป์จากการแข่งขัน “สาเหตุที่ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ให้ความสำคัญกับความสะดวกสบายมาตั้งแต่ยุคที่รถกระบะนิยมนำไปใช้ในเชิงพาณิชย์ เป็นเพราะทีมวิศวกรของเราเข้าใจดีว่าความสะดวกสบายช่วยส่งเสริมการขับขี่ที่ปลอดภัยยิ่งขึ้น” นายโมริคาซุ ชกกิ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด กล่าว “ความสะดวกสบายที่เพิ่มขึ้น ช่วยลดความตึงเครียด ความกดดันและสร้างสมาธิให้แก่ผู้ขับขี่ พร้อมตอบสนองต่อทุกสถานการณ์และสภาพเส้นทางขณะขับขี่ได้ดียิ่งขึ้น ความสะดวกสบายยังช่วยทำให้ผู้โดยสารรู้สึกเพลิดเพลินตลอดการเดินทางสู่ทุกจุดหมาย” นายชกกิ กล่าว มิตซูบิชิ ไทรทัน ใหม่ ยังคงได้รับการพัฒนาขึ้นตามแนวคิดดังกล่าว นับเป็นหนึ่งในรถกระบะที่มีอุปกรณ์ครบครันมากที่สุดเมื่อเทียบกับรถในระดับเดียวกัน ทั้งในด้านระบบความปลอดภัย ความสะดวกสบายและเทคโนโลยี หัวใจของความปลอดภัยและความสะดวกสบายในมิตซูบิชิ ไทรทัน ใหม่คือโครงสร้างตัวถังนิรภัย RISE (Reinforced Impact Safety Evolution)ประกอบกับแชสซีส์ที่แกร่งทนทานพร้อมคุณสมบัติยืดหยุ่น ผ่านการทดสอบในภูมิประเทศสุดทุรกันดารทั่วโลก ได้รับการพิสูจน์แล้วว่าสามารถดูดซับแรงกระแทกและต้านทานการเสียรูปทรงเพื่อการปกป้องผู้โดยสารอย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งนี้ตัวถังที่ทนทานแข็งแกร่งนี้ยังเสริมด้วยเหล็กกล้าที่ทนทาน ช่วยลดน้ำหนักแต่เพิ่มความแข็งแกร่งให้กับโครงสร้างตัวถังนิรภัย ด้วยคุณสมบัติแข็งแกร่งและทนต่อแรงบิดตัวสูง โครงสร้างรถในภาพรวมจึงมีความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น และแชสซีส์ที่แข็งแกร่งส่งผลให้ทีมวิศวกรสามารถทำการปรับแต่งระบบกันสะเทือนเพื่อยกระดับสมรรถนะการขับขี่ที่เหนือชั้นได้อย่างเต็มที่ โครงสร้างที่มั่นคงยังลดเสียงจากการสั่นสะเทือนและการเสียดสี เพื่อลดเสียงรบกวน แรงสั่นสะเทือน และความกระด้าง มิตซูบิชิ ไทรทัน ใหม่ จึงมอบสัมผัสที่หรูหราและสะดวกสบายยิ่งขึ้นให้กับภายในห้องโดยสาร รวมถึงการติดตั้งวัสดุป้องกันเสียงรบกวนและลดแรงสั่นสะเทือนในตำแหน่งสำคัญรอบตัวรถ เทคโนโลยีระบบความปลอดภัยเชิงป้องกันอันทันสมัยที่มีในมิตซูบิชิ ไทรทัน ใหม่ ได้แก่ ระบบเตือนการชนด้านหน้าตรงพร้อมระบบช่วยชะลอความเร็ว โดยอาศัยกล้องและระบบเรดาร์เลเซอร์ตรวจจับรถยนต์และคนเดินถนนข้างหน้า ระบบสัญญาณเตือนจุดอับสายตาพร้อมระบบเตือนขณะเปลี่ยนเลน เพื่อเตือนผู้ขับขี่เมื่อมีรถอยู่ด้านข้างขณะเปลี่ยนเลน ระบบเตือนด้านหลังขณะถอยออกจากช่องจอด ตรวจจับว่ามีรถยนต์กีดขวางขณะถอยหลังหรือไม่และ ระบบตัดกำลังเครื่องยนต์ชั่วขณะเมื่อเหยียบคันเร่งอย่างรุนแรงและรวดเร็ว เพื่อลดความเสี่ยงการเกิดอุบัติเหตุเมื่อเหยียบคันเร่งไปข้างหน้าหรือถอยหลังโดยไม่ตั้งใจ ระบบความปลอดภัยอันทันสมัยยังเพียบพร้อมด้วย กล้องมองภาพรอบคันที่ใช้กล้อง 4 ตัวจับภาพรอบคัน พร้อมภาพมุมสูงที่แสดงสิ่งกีดขวางรอบคัน และ เซ็นเซอร์กะระยะจอด เพื่ออำนวยความสะดวกในการจอดรถ...
ไลฟสไตล์

มาสด้าแนะใช้รถมลพิษต่ำสู้ฝุ่น PM2.5

ประเทศไทยยังคงได้รับผลจากฝุ่นละอองที่ปกคลุมพื้นที่กรุงเทพมหานครและจังหวัดรอบๆ ส่งผลให้หลายๆ คนเกิดความกังวลต่อระบบทางเดินหายใจและการใช้ชีวิตประจำวัน ในขณะที่หลายฝ่ายพยายามระดมทุกวิถีทางเพื่อลดปัญหาที่เกิดขึ้น ทั้งนี้เพื่อความชัดเจนกับสิ่งที่เกิดขึ้น เรามาดูว่าแหล่งกำเนิดของฝุ่นละอองในบรรยากาศเกิดขึ้นได้อย่างไร และมีวิธีการที่จะดูแลสุขภาพอย่างไร ในเมื่อหลายฝ่ายมองไปในทิศทางเดียวกันว่าสาเหตุหลักเกิดจากยานพาหนะ โดยเฉพาะรถยนต์ที่ใช้เครื่องยนต์ดีเซล ฝุ่นละอองที่เกิดจากกิจกรรมที่มนุษย์สร้างขึ้น ได้แก่ ฝุ่นจากการคมนาคมขนส่งและการจราจร เช่น ฝุ่นดิน ทราย ที่ฟุ้งกระจายขณะรถวิ่ง และเขม่าจากการเผาไหมของเครื่องยนต์ดีเซล เป็นต้น ฝุ่นจากการก่อสร้าง เช่น ก่อสร้างอาคาร ถนน และการรื้อถอน เป็นต้น ฝุ่นจากการประกอบการอุตสาหกรรม เช่น การทาปูนซีเมนต์การโม่บดหรือย่อยหิน และอื่นเป็นต้น ความหมายของฝุ่นละอองในบรรยากาศ                 PM10 ตามนิยามของ U.S. EPA หมายถึง ฝุ่นหยาบ (Course Particle) เป็นอนุภาคที่มีเส้นผ่านศูนย์กลางขนาด 2.5 – 10 ไมครอน มีแหล่งกำเนิดมาจากการจราจรบนท้องถนนที่ไม่ได้ลาดยาง จากการขนส่งวัสดุ หรือฝุ่นจากกิจกรรมบด ย่อย หิน                 PM2.5 ตามนิยามของ U.S. EPA หมายถึง ฝุ่นละเอียด (Fine Particle) เป็นอนุภาคที่มีเส้นผ่านศูนย์กลางเล็กกว่า 2.5 ไมครอน มีแหล่งกำเนิดจากควันเสียของรถยนต์ โรงไฟฟ้า โรงงานอุตสาหกรรม ควันที่เกิดจากหุงต้มอาหารโดยการใช้ฟืน นอกจากนี้ ก๊าซ SO2 NOX และสารประกอบอินทรีย์ระเหยง่าย (Volatile Organic Compound – VOC) ยังสามารถจะทำปฏิกิริยากับสารอื่นในอากาศทำให้เกิดเป็นฝุ่นละเอียดได้ ค่ามาตรฐานของฝุ่นละอองในบรรยากาศโดยทั่วไปของประเทศไทย วัดค่าเฉลี่ยของฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 2.5 ไมครอน (PM2.5) สะสมในเวลา 24 ชั่วโมง จะต้องไม่เกิน 0.05 มิลลิกรัมต่อลูกบาศก์เมตร และในระยะเวลา 1 ปี จะต้องไม่เกิน...
อสังหาฯ

การเคหะฯ ย้ำ ! รื้อแฟลตดินแดงเก่าไร้ผลกระทบ

การเคหะแห่งชาติเร่งรื้อถอนอาคารเดิมเพื่อเตรียมพื้นที่ก่อสร้างโครงการฟื้นฟูเมืองชุมชนดินแดง ระยะที่ 2 ซึ่งอยู่ระหว่างการประกาศร่าง TOR คาดว่าจะได้ผู้รับจ้างดำเนินก่อสร้างโครงการฯ ในเร็วๆ นี้ นายธัชพล กาญจนกูล ผู้ว่าการการเคหะแห่งชาติ กล่าวว่า  ขณะนี้ความคืบหน้าการพัฒนาโครงการรองรับผู้อยู่อาศัยเดิม ระยะที่ 2 อยู่ระหว่างการดำเนินการรื้อถอนอาคารแฟลต 18 – 22 เพื่อเตรียมพื้นที่ก่อสร้างอาคารใหม่ ดำเนินการระหว่างเดือนธันวาคม 2561 ถึงเดือนกุมภาพันธ์ 2562 โดยบริษัท แก่นนคร คอนสตรัคชั่น เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด เพื่อเตรียมพื้นที่ก่อสร้างโครงการฟื้นฟูเมืองชุมชนดินแดง ระยะที่ 2 ปัจจุบันมีความคืบหน้าการรื้อถอน 15%โดยมีมาตรการป้องกันภัยเพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบกับประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่บริเวณใกล้เคียง โดยได้มีการติดป้ายเตือนเขตพื้นที่อันตรายและล้อมรั้วบริเวณรอบอาคารเพื่อไม่ให้ประชาชนหรือผู้สัญจรผ่านไปมาเข้ามาในบริเวณพื้นที่รื้อถอนอาคาร รวมทั้งมีการฉีดน้ำเป็นระยะๆ เพื่อไม่ให้ฝุ่นละอองฟุ้งกระจายไปในอากาศ และที่สำคัญการรื้อถอนอาคารไม่มีผลกระทบใดๆ กับอาคารบริเวณใกล้เคียงขอให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ในบริเวณใกล้เคียงไม่ต้องวิกังวลใดๆ นอกจากนี้ยังได้มอบหมายให้นักสังคมของการเคหะแห่งชาติลงพื้นที่ประชาสัมพันธ์โครงการฟื้นฟูเมืองชุมชนดินแดง ระยะที่ 2 เพื่อชี้แจงข้อมูลการดำเนินงานโครงการฯ เป็นรายห้อง (Knock Door) ให้กับผู้อยู่อาศัยอาคารแฟลตที่ 9 – 17, 23 – 32 และ 63 – 64 พร้อมทั้งตรวจสอบข้อมูลการอยู่อาศัยตามข้อมูลการสำรวจเดิมเมื่อปี 2559 จำนวน 1,160 หน่วย (เด็ก/ผู้สูงอายุ/คนพิการ และครอบครัวขยาย) พร้อมยืนยันสิทธิเช่า (เช่าอาคารใหม่/รับเงินชดเชย) เพื่อสรุปข้อมูลทั้งหมดให้เป็นปัจจุบัน ซึ่งหากกำหนดวันลงพื้นที่ได้แน่นอน การเคหะแห่งชาติจะประชาสัมพันธ์ให้ทราบทั่วกันอีกครั้ง...
รถยนต์ต่างประเทศ

ปอร์เช่สร้างสถิติยอดส่งมอบรถยนต์ใหม่สูงสุด

ตลอดปี 2018 Porsche AG สามารถดำเนินการส่งมอบรถยนต์ใหม่ถึงมือลูกค้าผู้หลงใหลในยนตรกรรมสปอร์ตสมรรถนะสูงทั่วทุกมุมโลกได้เป็นจำนวนถึง 256,255 คันนับเป็นตัวเลขที่มากที่สุดในประวัติศาสตร์ของปอร์เช่อัตราการเติบโตคิดเป็นสัดส่วนเพิ่มขึ้นถึง 4เ  % เมื่อเปรียบเทียบกับสถิติที่ดีเยี่ยมของปีก่อนหน้า ผลสำเร็จในด้านยอดขายเกิดขึ้นจากการตอบรับที่เป็นไปในทิศทางบวกต่อรถสปอร์ตหลากหลายรุ่น  ปอร์เช่ พานาเมร่า (Porsche Panamera) ทุบสถิติอัตราการเติบโตสูงที่สุด โดยเพิ่มขึ้นในสัดส่วนถึง 38 % หรือคิดเป็นตัวเลขยอดส่งมอบกว่า 38,443 คัน สำหรับปอร์เช่ 911 (Porsche 911)ยังคงรักษาอัตราการเติบโตที่เพิ่มขึ้นด้วยตัวเลขสองหลักเอาไว้ได้อย่างเหนียวแน่น  ถึงแม้ว่า 911 เจเนอเรชั่นล่าสุดเพิ่งจะเปิดตัวในช่วงปลายปีก็ตามตัวเลขยอดส่งมอบของยนตรกรรมสปอร์ตเรือธง เพิ่มขึ้นเป็นสัดส่วนถึง10 % หรือ 35,573 คัน “ปอร์เช่ 911 (Porsche 911)คือยนตรกรรมที่เต็มไปด้วยศักยภาพอันแข็งแกร่งกว่าที่เคยเป็นมาโดยตลอด” ข้างต้นคือความคิดเห็นจาก Detlev von Platen, สมาชิกคณะกรรมการบริหาร ผู้ดูแลรับผิดชอบส่วนงานขายและการตลาดของ Porsche AG “เราเพิ่งผ่านการเฉลิมฉลองการเปิดตัวครั้งแรกของโลก สำหรับปอร์เช่ 911 รุ่นใหม่ (The new Porsche 911)เมื่อช่วงปลายปีที่ผ่านมา ภายในงานมหกรรมยานยนต์นานาชาติ Los Angeles Autoshow,  แต่ถึงกระนั้นในปี  2018  รถสปอร์ตอันเป็นตำนานของเราคันนี้ ยังคงมีเสน่ห์ดึงดูดและสร้างความประทับใจให้แก่ลูกค้าผู้หลงใหลความแรงได้มากกว่าปีก่อนหน้า” ในส่วนของปอร์เช่ มาคันน์(Porsche Macan)สามารถรักษาสถิติรถยนต์ปอร์เช่ที่มียอดจำหน่ายสูงที่สุดด้วยตัวเลข 86,031 คันและตามติดด้วยความสำเร็จของปอร์เช่คาเยนน์ (Porsche Cayenne)จากยอดส่งมอบ 71,458 คัน ประเทศจีนยังคงรักษาสถานะผู้นำอันดับหนึ่งด้านยอดส่งมอบรถยนต์ใหม่ได้อีกครั้งในปี 2018 อัตราการเติบโตพุ่งขึ้นสูงถึง12%  หรือคิดเป็นจำนวนรวมที่ 80,108 คัน  อันดับ 2 คือประเทศสหรัฐอเมริกาซึ่งมีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้นที่ 3  %หรือ 57,202 คันในส่วนของยอดส่งมอบในยุโรปลดลงจากปีก่อนหน้าเล็กน้อย “เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงวิธีการทดสอบ WLTP test cycleแบบใหม่ รวมทั้งการบังคับใช้ระบบ gasoline...
1 435 436 437 438 439 481
Page 437 of 481