
บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด ปลื้มแคมเปญ “Shine for Tomorrow” ประสบความสำเร็จอย่างสวยงาหลังจากเมื่อวันที่ 28 เมษายน -31 พฤษภาคมที่ผ่านมาได้ออกมาจัดกิจกรรมเชิญชวนผู้ใช้รถเมอร์เซเดส-เบนซ์ โพสต์ภาพถ่ายคู่กับรถยนต์พร้อมเปิดไฟหน้าเพื่อระดมทุนช่วยเหลือ 4 โรงพยาบาลที่เป็นศูนย์กลางหลักในการดูแลรักษาผู้ป่วยโควิด-19 ในประเทศไทย อีกทั้งยังเป็นกิจกรรมเชิงสัญลักษณ์เพื่อส่งกำลังใจแก่บุคลากรทางการแพทย์ให้ก้าวผ่านช่วงเวลาที่ยากลำบากไปด้วยกันโดยแคมเปญฯ ได้ผลตอบรับจากผู้มีจิตสาธารณะอย่างท่วมท้นและสามารถรวบรวมเงินบริจาคได้เป็นจำนวนทั้งสิ้นถึง2,000,000 บาท
นายโรลันด์ โฟล์เกอร์ ประธานบริหาร บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “เมอร์เซเดส-เบนซ์ ได้จัดแคมเปญ ‘Shine for Tomorrow’ ขึ้นมาเพื่อเชิญชวนให้ผู้ใช้รถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์ ร่วมกันโพสต์ภาพแทนคำขอบคุณต่อความเสียสละและทุ่มเทของบุคลากรทางการแพทย์ที่ปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มกำลังเพื่อรับมือกับสถานการณ์โรคโควิด-19 โดยทุกหนึ่งโพสต์ของคุณมีค่าเท่ากับเงินสมทบทุนช่วยเหลือจากเมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) เป็นจำนวน 500 บาท”
ตลอดระยะเวลาของแคมเปญ “Shine for Tomorrow”มีผู้ใช้รถเมอร์เซเดส-เบนซ์เข้าร่วมกิจกรรมรวมกว่าหลายพันคน ซึ่งรวมไปถึงบรรดาศิลปินและนักแสดงชื่อดัง เช่น เจ-เจตริน วรรธนะสิน ที่ช่วยกันเป็นกระบอกเสียงให้กับกิจกรรมดีๆ ในครั้งนี้ โดยผู้เข้าร่วมกิจกรรมแต่ละคนต่างก็ได้โพสต์ภาพของตัวเองคู่กับรถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์ที่เปิดไฟหน้าส่องสว่างลงบนโซเชียลมีเดีย เช่น เฟซบุ๊คและอินสตาแกรม พร้อมกับเขียนข้อความให้กำลังใจและติดแฮชแท็ก#ShineForTomorrow #MercedesForTomorrow#MercedesBenzThailand
นายโรลันด์กล่าวเสริมว่า “หลังจากเสร็จสิ้นแคมเปญฯ เราสามารถรวบรวมเงินบริจาคได้ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้เป็นจำนวนเงินทั้งสิ้น 2,000,000 บาทเพื่อนำไปมอบให้แก่4 โรงพยาบาล โรงพยาบาลละ 500,000 บาทที่เป็นศูนย์กลางการดูแลรักษาผู้ติดเชื้อโควิด-19ได้แก่ โรงพยาบาลศิริราช โรงพยาบาลรามาธิบดี โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย และสถาบันบำราศนราดูรสำหรับนำไปใช้ค้นคว้าและวิจัยวัคซีนเพื่อรักษาโรคโควิด-19 ในอนาคต”
“ในนามของเมอร์เซเดส-เบนซ์ ผมขอขอบคุณทุกท่านที่ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการแสดงพลังเพื่อให้กำลังใจแก่เหล่าฮีโร่เสื้อกาวน์ที่คอยปกป้องและช่วยชีวิตผู้คนท่ามกลางสถานการณ์โรคระบาดครั้งนี้เราภูมิใจที่ได้เป็นสื่อกลางในการส่งต่อความช่วยเหลือด้วยการนำเอาเงินบริจาคจากการร่วมแรงร่วมใจของทุกคนไปต่อยอดให้เกิดประโยชน์ต่อสังคมกิจกรรมครั้งนี้คือบทพิสูจน์ว่ากำลังใจเล็กๆ ของทุกคนล้วนแล้วแต่เป็นสิ่งมีค่า และเมื่อไรก็ตามที่โลกของเราเกิดวิกฤต ความช่วยเหลือเกื้อกูลกันของเพื่อนมนุษย์นั้นจะยังคงเป็นแสงที่ส่องสว่างให้เรามองเห็นความหวังอยู่เสมอ” นายโรลันด์กล่าวปิดท้าย







