Uncategorized

รีวิว ALL-NEW MAZDA3 งานศิลป์เนียนหรู เฉียบคมเต็มสปอร์ต

1.2kviews

มาสด้า เซลส์ ประเทศไทย ได้เปิดตัวแนะนำ ALL-NEW MAZDA3 มาพร้อมแนวคิด “A New Era Begins” รถยนต์เจเนอเรชั่นใหม่ล่าสุด ที่ได้รับการออกแบบและพัฒนาใหม่ทั้งคัน ภายใต้คอนเซ็ปต์ “Less is More” มีให้เลือก 2 สไตล์ ทั้งแบบซีดาน 4 ประตู และฟาสท์แบค 5 ประตู ราคาจำหน่าย เริ่มต้น 969,000 บาท จนถึง รุ่นท็อปสุด ราคา 1.198 ล้านบาท ซึ่งครั้งนี้มาแปลกตรงที่ตั้งราคาทั้งรุ่นซีดานและฟาสท์แบคเท่ากัน

ปะหน้ากับ ALL-NEW MAZDA3  ครั้งแรกก็ต้องชื่นชมการออกแบบของทีมวิศวกรที่ดีไซน์รูปโฉมออกมาได้ล้ำสมัย โดดเด่น ในรุ่นฟาสท์แบคจะเน้นความเป็นสปอร์ต ปราดเปรียว และในรุ่นซีดานกลับเน้นความหรูหรา สง่างาม บางมุมมองคล้ายๆกับรถยุโรปชั้นดี  เส้นสายกล้ามเนื้อของตัวถังที่เคยปรากฏชัดเจนก็ลบเหลี่ยมคมเป็นไหลลื่นขึ้นกว่าเดิม มิติตัวถัง ฐานล้อยาว 2,725 มม.ยาวกว่ารุ่นเดิม 25 มม. เพื่อเพิ่มพื้นที่ในห้องโดยสาร ความกว้างเท่าเดิม 1,795 มม. ส่วนความยาวตัวถัง รุ่นซีดาน ยาว 4,660 มม.หรือยาวกว่ารุ่นเดิม 80 มม.เมื่อมองจากภายนอกจะรู้สึกถึงความภูมิฐานมากยิ่งขึ้น  ส่วนรุ่นฟาสท์แบค ตัวถังยาว 4,460มม.สั้นกว่าเดิม  10 มม. เน้นความเป็นสปอร์ต ทรงพลัง

ทีมงานของ Buzzbiz24.com  มีโอกาสไปทดสอบ ALL-NEW MAZDA3  ในรอบพรีวิวก่อนหน้านี้ ในระยะทางสั้นๆ เพื่อลองทดสอบเปรียบเทียบสมรรถนะที่โดดเด่นในแต่ละจุด กับมาสด้า 3 รุ่นปัจจุบัน คราวนี้ ทีมงานมาสด้าจึงจัดการทดสอบในระยาวไกลๆกันบ้าง ขับขี่บนถนนที่ใช้สัญจรตามปกติ เส้นทาง สนามบินภูเก็ต มุ่งหน้าไปยังพังงา ผ่านอำเภอท้ายเหมือง ตะกั่วป่า กะปง อำเภอเมือง และวกกลับมาที่ภูเก็ตอีกรอบนึง ผ่านการจราจรทุกรูปแบบ ตั้งแต่ทางหลวงหลัก 4 เลน จนถึงสภาพถนนในเมืองที่คับคั่ง ติดขัด ซึ่งสมรรถนะที่โดดเด่นของ ALL-NEW MAZDA3 ทำให้ยิ่งขับยิ่งประทับใจ    เครื่องยนต์สกายแอคทีฟเบนซิน SKYACTIV-G ขนาด 2.0 ลิตร ถูกพัฒนาให้สมรรถนะความแรง และประหยัดน้ำมัน ด้วยเทคโนโลยีที่ฉีดเชื้อเพลิงเข้าสู่ห้องเผาไหม้โดยตรง ส่งผลให้มีอัตราส่วนกำลังอัดสูง แรงบิดเพิ่มขึ้น ประหยัดน้ำมันมากขึ้น และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ด้วยอัตราส่วนกำลังอัด 13.0:1 ถ่ายทอดกำลังผ่านเกียร์สกายแอคทีฟ 6 จังหวะ ให้กำลังสูงสุด 165 แรงม้า ที่ 6,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 213 นิวตัน-เมตร ที่ 4,000 รอบต่อนาที ประหยัดน้ำมันสูงสุด 15.9 กิโลเมตรต่อลิตร ให้อัตราเร่งแซงที่ประทับใจ

อย่างไรก็ตาม ช่วงล่างและระบบกันสะเทิอนที่โดดเด่นมีการปรับเปลี่ยนเล็กน้อย โดยล้อคู่หน้ายังเป็นแบบอิสระ แมคเฟอร์สันสตรัท แต่ที่ล้อคู่หลังเปลี่ยนมาใช้แบบกึ่งอิสระ ทอร์ชั่นบีม ซึ่งช่วยลดน้ำหนักได้กว่า 10 กก.แต่ยังให้สมรรถนะในการเกาะถนนได้อย่างหนึบแน่นในทุกๆโค้ง  อีกสิ่งที่ต้องพูดถึงคือเทคโนโลยีใหม่ ใน ALL-NEW MAZDA3  นั่นคือ ระบบควบคุมสมรรถนะการขับขี่อัจฉริยะขั้นสูง หรือ G-Vectoring Control Plus (GVC Plus) โดยระบบจะปรับแรงบิดของเครื่องยนต์ตามการหักเลี้ยวพวงมาลัยของผู้ขับขี่ ควบคู่ไปกับการเบรกที่เหมาะสม เพื่อให้รถสามารถขับเคลื่อนไปอย่างนุ่มนวล มีเสถียรภาพ เพิ่มประสิทธิภาพการยึดเกาะถนนของล้อทั้ง 4 ให้ดียิ่งขึ้น ผู้ขับขี่แก้พวงมาลัยน้อยลง ควบคุมรถง่าย และแม่นยำยิ่งขึ้น สามารถเข้าโค้งและออกจากโค้งได้นุ่มนวล ลดอาการเมื่อยล้าสะสมจากการขับรถทางไกลของผู้ขับขี่ และการโคลงตัวไปมาของผู้โดยสารทำให้ลดอาการเวียนศีรษะหรืออาการเมารถได้เป็นอย่างดี

ระหว่างการขับรถทดสอบก็ได้สำรวจห้องโดยสารพร้อมกันไปด้วย โดยมาสด้านำเสนอเทคโนโลยีใหม่ของการขับขี่โดยใช้ปรัชญามนุษย์เป็นศูนย์กลาง ALL-NEW MAZDA3 มาพร้อมแพลตฟอร์ม     เจเนอเรชั่นใหม่ SKYACTIV-VEHICLE ARCHITECTURE ที่ได้รับการพัฒนาจากท่วงท่าการเดินของมนุษย์ที่เกิดขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติและมีสมดุล ต่อยอดไปสู่การพัฒนาตัวรถในหลายจุด เพื่อสร้างความเป็นหนึ่งเดียวระหว่างคนกับรถที่สมบูรณ์แบบมากยิ่งขึ้น ทำให้การควบคุมการขับขี่ทำได้ง่ายและเป็นธรรมชาติเสมือนการเคลื่อนไหวของร่างกาย โดยพัฒนาตั้งแต่ยางรถยนต์ที่ซับแรงกระแทกจากพื้นถนน ขึ้นมาสู่ระบบช่วงล่างที่ได้รับการออกแบบใหม่ให้สามารถตอบสนองต่อแรงกระทำจากพื้นถนนได้อย่างรวดเร็ว ก่อนจะกระจายแรงออกไปสู่โครงสร้างตัวถังอย่างมีประสิทธิภาพ และต่อเนื่องไปถึงผู้ขับขี่และผู้โดยสารผ่านเบาะนั่งที่ได้รับการออกแบบใหม่ เพื่อรักษาความสมดุลให้ใกล้เคียงกับท่วงท่าการเดินของมนุษย์ และช่วยลดความอ่อนล้าจากการขับขี่

ส่วนการตกแต่งภายในห้องโดยสารฉีกแนวไปเลย เน้นความเรียบง่ายหรือ Less is More ห้องโดยสารหรูหราด้วยวัสดุเกรดพรีเมียม เบาะดีไซน์ใหม่ที่โอบกระชับ รองรับสรีระ เบาะนั่งคนขับปรับไฟฟ้า 10 ทิศทาง พร้อมระบบบันทึกตำแหน่งเบาะนั่งของผู้ขับขี่ได้ 2 ตำแหน่ง แผงหน้าปัดและมาตรวัดดิจิตอลแบบ TFT LCD หน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่แบบสีบนกระจกหน้า ช่วยให้ผู้ขับขี่ไม่ต้องละสายตาจากถนน การเชื่อมต่อสื่อสารแบบไร้ขีดจำกัดด้วย Mazda Connect ที่มาพร้อม Apple CarPlay โดยแสดงข้อมูลผ่านหน้าจอสี Center Display แบบ Widescreen ขนาด 8.8 นิ้ว ควบคุมด้วยปุ่มควบคุมอัจฉริยะ Center Commander โดยผู้ขับขี่ไม่ต้องละสายตาจากถนน สัมผัสกับห้องโดยสารที่เงียบขึ้น และระบบเสียงคุณภาพ Bose® รอบทิศทาง พร้อมลำโพง 12 ตำแหน่ง

มาสด้ายกระดับมาตรฐานความปลอดภัยด้วยเทคโนโลยี i-ACTIVSENSE สำหรับ ALL-NEW MAZDA3 ได้รับการคิดค้นและพัฒนาขีดความสามารถอย่างจริงจัง โดยเน้นการป้องกันเพื่อลดความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุประกอบด้วย ระบบควบคุมความเร็วและพวงมาลัยตามรถคันหน้า CTS (Cruising & Traffic Support) ที่สามารถควบคุมความเร็วของรถ ช่วยลดความเหนื่อยล้าของผู้ขับขี่ ระบบเตือนการชนด้านหน้าและช่วยเบรกอัตโนมัติแบบ Advance หรือ Advanced SBS (Advanced Smart Brake Support) ที่สามารถตรวจจับรถคันหน้า จักรยาน รวมถึงคนเดินถนน  ระบบช่วยหยุดรถเมื่อมีรถอยู่ในจุดอับสายตาขณะถอยหลัง SBS-RC (Smart Brake Support-Reverse Crossing)              ระบบเตือนเมื่อมีรถอยู่ในจุดอับสายตาขณะถอยหลัง RCTA (Rear Cross Traffic Alert)  ระบบช่วยเบรกและหยุดรถอัตโนมัติขณะถอยหลัง SBS-R (Smart Brake Support-Reverse) ที่สามารถตรวจจับวัตถุในวงกว้างและสูงขึ้น ด้วยจำนวนเซ็นเซอร์ที่มากขึ้น ระบบไฟหน้า LED อัจฉริยะ ALH (Adaptive LED Headlamps) ที่ได้รับการพัฒนาให้ลำแสงละเอียดยิ่งขึ้น ระบบเตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะเปลี่ยนเลน ABSM (Advanced Blind Spot Monitoring) ระบบแสดงภาพ 360 องศา รอบทิศทาง (360° View Monitor)                ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน LAS (Lane Keep Assist System)ระบบเตือนเมื่อรถเบี่ยงออกนอกเลน LDWS (Lane Departure Warning System) ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ MRCC (Mazda Radar Cruise Control) และปกป้องทันทีจากอุบัติเหตุด้วยถุงลมนิรภัยคู่หน้า ด้านข้าง ม่านถุงลมนิรภัย และถุงลมบริเวณหัวเข่าด้านคนขับ รวม 7 ตำแหน่ง

อีกสิ่งที่ทีมงานของ Buzzbiz24.com ชื่นชอบมากคือ กลยุทธ์ในการตั้งราคา   ALL-NEW MAZDA3  ตั้งราคาจำหน่าย เริ่มต้นที่ 969,000 บาท ซึ่งก็ให้ฟีเจอร์ที่จำเป็นมาอย่างครบเครื่องแล้ว  ไม่ว่าจะเป็นเครื่องยนต์ 2.0 ลิตรเกียร์สกาบแอคทีฟ 6 สปีด  ดีสก์เบรก 4 ล้อ เบาะคนขับปรับไฟฟ้า ระบบควบคุมสมรรถนะการขับขี่อัจฉริยะขั้นสูง GVC Plus  ถุงลมนิรภัย  7 ตำแหน่ง  ส่วนอุปกรณ์ที่เพิ่มความสะดวกสบายก็ใส่มาให้ตามราคาที่เพิ่งขึ้นในแต่ละรุ่น  ซึ่งกํบตรงกับคอนเซปต์ในการพัฒนารถรุ่นนี้คือ การยกระดับและสร้างมาตรฐานใหม่ให้กับตลาดรถ C-Segment

บรรณาธิการ Buzzbiz
อดีตผู้สื่อข่าวภูมิภาค เศรษฐกิจ รถยนต์ ที่เดินทางอยู่บนฐานันดอน 4 มานาน นับ30 ปี