เมื่อเร็วๆนี้ บริษัท เอ็มจี เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิตและผู้จำหน่ายรถยนต์เอ็มจีในประเทศไทยได้เชิญสื่อมวลชนไปที่ศูนย์สร้างประสบการณ์การขับขี่รถยนต์ MG ถนนศรีนครินทร์ เพื่อยลโฉมรุ่นใหม่ล่าสุดอย่างไม่เป็นทางการ นั่นคือ เอ็มจี เอชเอส รถยนต์เอสยูวีขนาดกลางตัวล่าสุด ที่นำมาทำตลาดแทน เอ็มจี จีเอส ซึ่งทีมงาน buzzbiz24/com ก็ไม่ยอมพลาดโอกาสที่จะสัมผัสเอสยูวีรุ่นใหม่คันนี้อย่างใกล้ชิด
บริษัท เอสเอไอซี มอเตอร์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (เอสเอไอซี มอเตอร์) บริษัทรถยนต์ยักษ์ใหญ่ของจีน พัฒนารถเอสยูวีคันนี้ออกมาให้เหมาะสมกับการใช้งานในทุกรูปแบบ ให้ความคล่องตัวเมื่อขับขี่ในเมืองใหญ่ และให้สมรรถนะอเนกประสงค์ในการเดินทางระยะไกล ดีไซน์ของเอ็มจี เอชเอส จึงดูปราดเปรียวเหมือนเอสยูวีขนาดคอมแพ็กต์ แต่ห้ยงโดยสารหรูหรากว้างขวางใกล้เคียงรถเอสยีวีขนาดกลาง ดีไซน์สวยงามเตะตามาก จนบางคนเปรียบเปรยว่าเหมือนบีเอ็มดับเบิลยู เอ็กซ์ 5 ซึ่งก็ไม่น่าแปลกใจเพราะเป้าผมายของเอ็มจี เอชเอส คือ การแย่งยอดขายกับฮอนด้า ซีอาร์ วี มาสด้า ซีเอ็กซ์ 5
ครั้งแรกที่ได้ยลโฉม เอ็มจี เอชเอส ก็สะดุดตากับไฟหน้าโปรเจ็คเตอร์ เลนส์ แบบ LED โฉบเฉี่ยวสุดล้ำด้วยไฟ Daytime Running Light แบบ LED เรียงกัน 9 เม็ด สอดรับกับไฟเลี้ยวด้านหน้าแบบ LED แบบ Sequential ซึ่งกระพริบไล่เรียงกันเหมือนลูกศรเมื่อเปิดไฟเลี้ยว เช่นเดียวกับไฟท้าย LED พร้อมไฟเลี้ยวด้านหลัง LED แบบ Sequential ที่วิศวกรเอ็มจีเคลมว่า ยาวที่สุดในไทยในขณะนี้ เอ็มจี เอชเอส ให้ออฟชั่นเสริมความสะดวกสบายมาให้เพียบ ไม่ว่าจะเป็น ระบบเปิด-ปิดไฟหน้า แบบอัตโนมัติ ระบบปรับระดับไฟหน้า สูง-ต่ำ ไฟตัดหมอกคู่หน้า กระจกมองข้าง ปรับและพับ ด้วยไฟฟ้า ประตูหลังท้ายรถเปิด-ปิดด้วยระบบไฟฟ้าทั้งจากภายในรถและกุญแจรีโมท เอ็มจี เอชเอส ยังเสริมความดุดันด้วยล้อล้ออัลลอย ขนาด 18 นิ้ว
เนื่องจากเอ็มจี เอชเอส ยังไม่เปิดตัวอย่างทางการ ข้อมูลต่างๆยังไม่เปิดที่เปิดเผยมากนัก แต่ทีมงานของเอ็มจีก็ยังเปิดโอกาสให้สื่อมวลชนลองขับในช่วงเวลาสั้นๆ โดยบอกว่า ขุมพลังเป็นเครื่อง เบนซิน 1.5 เทอร์โบ ถ่ายทอดกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ Dual Clutch 7 จังหวะ ขับเคลื่อน 2 ล้อ ซึ่งทีมงาน buzzbiz24.com ยอมรับว่า เครื่องยนต์ขนาดนี้ให้กำลังขับเคลื่อนเพียงพอสำหรับเอสยูวีขนาดใหญ่เช่นนี้ ให้ความคล่องตัว ปราดเปรียว สามารถปรับเปลี่ยนเป็นโหมดสปอร์ตเพิ่มอัตราเร่งให้ดุดันขึ้น พวงมาลัยคม เกาะโค้งได้แม่นยำ เอ็มจี เซลส์(ประเทศไทย) ยังไม่บอกเรื่องสเปคของเครื่องยนต์ แต่เมื่อดูจากรุ่นที่วางขายในจีนให้กำลังสูงสุด 167 แรงม้า ที่ 5,600 รอบ/นาที และให้แรงบิดสูงสุด 250 นิวตันเมตร ที่ 1,600 – 4,300 รอบ/นาที เครื่องรุ่นนี้ยังรองรับน้ำมันสูงสุด E85
ลองสมรรถนะของเอ็มจี เอชเอสแล้ว หันมาดูภายในห้องโดยสารกันบ้าง รุ่นที่นำมารีวิวตกแต่งสีทูโทน ดำ – แดงวัสดุตกแต่งภายในห้องโดยสารดูดี มีราคา เบาะนั่งคู่หน้าแบบสปอร์ตเบาะนั่งคนขับ ปรับด้วยไฟฟ้า 6 ทิศทาง เบาะนั่งด้านหลัง แยกพับอิสระ 60 : 40 เบาะนั่งด้านหลัง ปรับเอนได้นิหน่อย โดดเด่นด้วยหลังคากระจก Panoramic Sunroof เปิด-ปิดด้วยระบบไฟฟ้า จอแสดงข้อมูลการขับขี่ MID แบบสี TFTปุ่มสตาร์ทเครื่องยนต์ Push Start Buttonสวิตซ์ควบคุมเครื่องเสียงบนพวงมาลัย พร้อมปุ่มรับ-วางสาย ปุ่มปรับโหมดการขับขี่ Super Sport บนพวงมาลัย
เอ็มจี เอช เอส ใก้ระบบความบันเทิงเต็มรูปแบบเครื่องเสียงระบบสัมผัส Touchscreen ขนาด 10.0 นิ้วเครื่องเสียง วิทยุ AM/FMช่องเชื่อมต่อ USBระบบเชื่อมต่อไร้สาย Bluetooth สะดวกสบายด้วยระบบ i-SMART สั่งงานด้วยเสียงภาษาไทย สำหรับการสั่งเปิด-ปิดระบบปรับอากาศล่วงหน้า ระบาบความร้อนก่อนเข้ารถ และยังใช้สั่งปิดเปิด เครื่องเสียง ระบบนำทาง ระบบนำทาง พร้อมรายงานจราจร Real Time ระบบสั่งงานบน Smart Phone ระบบ Find My Carระบบตรวจสอบสถานะรถยนต์ระบบเล่นเพลงออนไลน์แบสตรีมมิ่งระบบแผนที่นำทาง Navigation System
โดยภาพรวมแล้ว เอ็มจี เอชเอส เป็นรถเอสยูวีที่พรั่งพร้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกสบายและเทคโนโลยียานยนต์ที่ล้ำสมัย ขนาดของตัวถและเครื่องยนต์ให้ความคล่องตัวสำหรับการเดินทางทุกรูปแบบ ตอบสนองไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นไหม้ได้เป็นอย่างมาก รถรุ่นนี้พัฒนาขึ้นโดย เอสเอไอซี มอเตอร์ บริษัทรถยนต์ยักษ์ใหญ่เบอร์หนึ่งของจีน ขณะนี้เริ่มสายประกอบในประเทศไทยแล้ว และเตรียมเปิดตัวอย่างทางการในวันที่ 25 กันยายนนี้ และน่าจะสร้างยอกขายได้เป็นกอบเป็นกำ เนื่องจากที่ผ่านมา เอ็มจีจะใช้กลยุทธ์ด้านราคามาดึงดูดลูกค้าชาวไทย จนทำให้ประชากรรถยนต์เอ็มจีเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
