เมื่อเร็วๆนี้ buzzbuz24.com มีโอกาสหยิบยืม เชฟโรเลต โคโลราโด ไฮ คันทรี กระบะสายพันธุ์อเมริกันแท้ๆมาทดสอบในช่วงเวลาหนึ่ง แรกสัมผัสด้วยตา ต้องยอมรับในรูปลักษณ์ที่เปี่ยมด้วยดีเอ็นเอแบบอเมริกันขนานแท้ บึกบึน แข็งแกร่ง แต่ยังผสมผสานการออกแบบที่เน้นความสะดวกสบาย ด้วยเทคโนโลยียานยนต์ล้ำสมัย และสมรรถนะของเครื่องยนต์ได้อย่างคล่องตัว โดยตั้งราคาเริ่มต้นไว้ที่ 998,000 บาท
แบบฉบับของกระบะพรีเมียมสไตล์อเมริกัน เริ่มตั้งแต่กระจังหน้าดีไซน์สปอร์ตเพิ่มความโดดเด่นด้วยกรอบโครเมียม พร้อมตราสัญลักษณ์โบว์ไทด์สีทอง หากยังคงไว้ซึ่งเอกลักษณ์ของกระจังหน้าแบบสองชั้น (Dual Port-Grille) ตามแบบฉบับของเชฟโรเลต สอดรับกับดีไซน์ของไฟตัดหมอกหน้าที่เพิ่มขีดความสามารถในการมองเห็นถนนเบื้องหน้าได้ชัดเจนมากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อเผชิญกับทัศนวิสัยที่เลวร้ายไม่ว่าจะเป็นฝนตกหนัก หรือหมอกลงจัด ขณะที่ไฟส่องสว่าง สำหรับการขับขี่ในเวลากลางวัน แบบ LEDและไฟหน้ารวมอยู่ในกรอบเดียวกัน พร้อมฟังก์ชันการทำงานของระบบเปิด-ปิดไฟหน้าอัตโนมัติ ซึ่งเพิ่มความปลอดภัยและความสะดวกสบายให้กับการขับขี่มากขึ้น ดุดันด้วยล้ออัลลอย ดีไซน์สปอร์ต แบบทูโทน ขนาด 18”พร้อมยางหน้า/หลัง ขนาด 265/60 R18 บ่งบอกความเป็นสปอร์ตในทุกมุมมอง
มือจับที่เปิดฝากระบะท้ายแบบโครเมียมพร้อมกล้องแสดงภาพด้านหลังขณะถอยรถ ให้ความสะดวกสบายและคล่องตัวแม้อยู่ในที่แคบ นับเป็นการผสมผสานอย่างลงตัวระหว่างดีไซน์ และฟังก์ชันสะดวกสบายในทุกเส้นทาง
เมื่อถึงคราวขับขี่เข้ามานั่งในห้องโดยสาร ของโคโลราโด ไฮคันทรี ต้องชื่นชมความกว้างขวาง และสะดวกสบาย จากการออกแบบอย่างพิถีพิถัน เพื่อความหรูหราระดับพรีเมี่ยมเกินรถกระบะทั่วไป การออกแบบลงลึกในรายละเอียด ด้วยการใช้กระจกด้านหน้าที่แข็งแกร่ง และแน่นหนายิ่งขึ้น ช่วยลดเสียงรบกวนภายในห้องโดยสารได้มากถึง 8% ทำให้การขับขี่เงียบสบายกว่าที่เคย จนรู้สึกเหมือนขับรถเอสยูวีชั้นดี อย่างเบาะที่นั่งก็สามารถปรับระดับด้วยระบบไฟฟ้าควบคุมโดยสวิตช์ 6 ทิศทาง ปรับระดับเบาะได้ตามความพอใจไม่ยุ่งยากอะไรเลย ไม่ว่าจะเป็นความสูง ระยะห่าง และมุมพนักพิง เพื่อประสบการณ์ขับขี่ที่ยอดเยี่ยม มาตรวัดสำหรับผู้ขับขี่พร้อมภาษาไทย สังเกตได้ง่าย นอกจากนี้ ระบบปรับอากาศแบบอัตโนมัติช่วยรักษาอุณหภูมิภายในห้องโดยสารและปรับทิศทางแรงลม ให้ผู้ขับขี่และผู้โดยสารผ่อนคลายกับอุณหภูมิภายในห้องโดยสารที่เหมาะสม และไม่ต้องกังวลกับการปรับระบบปรับอากาศภายในรถอีกต่อไป
สิ่งที่ต้องยอมรับว่า โคโลราโด ไฮคันทรี เหนือชั้นกว่ารถกระบะอื่นๆ คือ ระบบความปลอดภัยที่ออกแบบใหม่ ทั้งภายนอกและภายใน ไม่ว่าจะเป็นโครงสร้างตัวถังที่ทนทาน ป้องกันการบิดตัวของตัวถังได้ดีเยี่ยม พร้อมเสริมความแข็งแรง ด้วยคานนิรภัยด้านข้างที่แผงประตู ช่วยดูดซับแรงกระแทกจากการชนด้านข้างได้อย่างมีประสิทธิภาพ เเชสซีส์ออกเเบบให้การทรงตัวเเละเกาะถนนเป็นเยี่ยม เหมาะกับการบรรทุกทุกรูปเเบบการใช้งาน นอกจากนี้ โคโลราโด ไฮคันทรียังมาพร้อมถุงลมนิรภัยคู่หน้า และถุงลมนิรภัยบริเวณหัวเข่า มั่นใจกับการปกป้องที่มากขึ้นกว่าที่เคย
ระบบความปลอดภัยอื่นๆ เชฟโรเลต โคโลราโด ไฮคันทรี ใส่ให้มาอย่างไม่ยั้ง ไม่ว่าจะเป็น ระบบแจ้งเตือนการชนด้านหน้าช่วยเตือนผู้ขับขี่ หากพบว่ารถเข้าใกล้คันหน้ามากเกินไป หรือเร็วเกินไป เพื่อหลีกเลี่ยงการชนที่อาจจะเกิดขึ้นได้ เซ็นเซอร์หน้า-หลัง ช่วยในการนำรถเข้าจอด ช่วยในการนำรถเข้าจอดง่ายขึ้น โดยเฉพาะเวลาเคลื่อนที่เข้า-ออกจากพื้นที่แคบ เซ็นเซอร์ ด้านหน้าจะช่วยเตือนสิ่งกีดขวางที่มองไม่เห็น ในขณะที่กล้องแสดงภาพด้านหลังขณะถอยรถ ให้เห็นโดยไม่ต้องหันไปมองด้านหลัง นอกจากนี้ ยังมีระบบช่วยเตือนเมื่อขับขี่รถออกนอกช่องจราจรโดยไม่เปิดไฟเลี้ยว เพื่อช่วยหลีกเลี่ยงการเกิดอุบัติเหตุ
ในภาวะที่ต้องเดินทางในภูมิประเทศที่แตกต่างกัน ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติขณะรถลงทางลาดชัน (HDC)และ ระบบช่วยการออกตัวขณะรถอยู่บนทางลาดชัน (HSA) ช่วยให้สะดวกและปลอดภัยยิ่งขึ้น เชฟโรเลต โคโลราโด ยังให้ระบบเบรกป้องกันล้อล็อก (ABS)ช่วยป้องกันอาการล้อล็อกที่เกิดขึ้นในระหว่างการเบรกฉุกเฉินและเป็นประโยชน์อย่างยิ่งในสภาพถนนลื่น ซึ่งมาพร้อมกับ ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัวของรถ (ESC) ระบบนี้จะช่วยควบคุมการทรงตัว โดยการตรวจสอบและลดการสูญเสียการทรงตัวในทุกสภาพการขับขี่ ทำงานร่วมกับระบบป้องกันการลื่นไถล และล้อหมุนฟรี (TCS) ช่วยป้องกันอาการล้อหมุนฟรี เพื่อให้มีการยึดเกาะที่ดีขึ้นนอกจากนี้ ยังมีระบบกระจายแรงเบรก (EBD)รักษาความสมดุล โดยกระจายแรงเบรกในแต่ละล้ออย่างเหมาะสม
เมื่อพูดถึง โคโลราโด ไฮคันทรี ก็ต้องบรรยายถึงสมรรถนะความแรงเหนือชั้นของขุมพลังสายพันธุ์อเมริกันอย่าง เครื่องยนต์ดูราแมกซ์ ดีเซล คอมมอนเรล ไดเรค อินเจคชั่น ขนาด 2.5 ลิตร 4 สูบ 16 วาล์ว DOHC พร้อมเทอร์โบแปรผัน (VGT – Variable Geometry Turbocharger) และอินเตอร์คูลเลอร์ ที่ผลิตกำลังสูงสุด 180 แรงม้า ที่ 3,600 รอบ/นาที พร้อมแรงบิดสูงสุดถึง 440 นิวตัน-เมตร ที่ 2,000 รอบ/นาที ถ่ายทอดกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติแบบ 6 สปีด พร้อมฟังก์ชัน Manual Mode ให้ความสะดวกสบายที่ผสานเข้าไว้กับความเร้าใจ โดยผู้ขับขี่สามารถกำหนดจังหวะการเปลี่ยนเกียร์ได้ด้วยตนเอง เสมือนหนึ่งการขับขี่ด้วยเกียร์ธรรมดา ซึ่งเพิ่มความเร้าใจให้กับการขับขี่มากยิ่งขึ้น
ในกรณีที่ต้องผจญกับเส้นทางที่เป็นอุปสรรคขวางหน้า ผู้ขับขี่เพียงปรับสวิตช์ควบคุมระบบขับเคลื่อน 4 ล้อที่ด้านซ้ายมือ เลือกปรับเปลี่ยนได้ทั้งระบบขับเคลื่อน 4 ล้อและ 2 ล้อ ภายในเวลาไม่กี่วินาที เมื่อใช้ระบบขับเคลื่อนแบบ 4 ล้อ โคโลราโดให้การยึดเกาะที่ดีในทุกสภาพถนน ไม่ว่าจะสูงชัน เป็นหลุมเป็นบ่อ หรือเป็นโคลน และยังสามารถปรับเปลี่ยนเป็นระบบขับเคลื่อนแบบ 2 ล้อ เพื่อการขับขี่ที่มีประสิทธิภาพและประหยัดน้ำมันอีกด้วย
พวงมาลัยเพาเวอร์ควบคุมการทำงานด้วยระบบไฟฟ้า (Electric Power Steering)พัฒนาการล่าสุด ของระบบบังคับเลี้ยวที่มีความเที่ยงตรง และแม่นยำสูง ทั้งยังสามารถปรับน้ำหนักแปรผันตามความเร็วรถ ขณะรถวิ่งด้วยความเร็วต่ำ เช่น การขับขี่ในเมืองที่จราจรคับคั่ง หรือ การนำรถเข้าจอด พวงมาลัยจะมีน้ำหนักเบา เพื่อช่วยให้การหมุนเลี้ยวทำได้ง่ายขึ้น ขณะรถวิ่งด้วยความเร็วสูง เช่น การขับขี่ทางตรงบนมอเตอร์เวย์ พวงมาลัยจะมีน้ำหนักเพิ่มขึ้นตามลำดับ ซึ่งช่วยให้การถือพวงมาลัยนิ่งและมั่นคงมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ การบังคับรถหลบหลีกสิ่งกีดขวางอย่างกะทันหัน ก็สามารถทำได้อย่างรวดเร็ว
เหนือมาตรฐานกระบะทั่วไป กับครั้งแรก ที่จะได้สัมผัสนวัตกรรมแห่งอนาคตอย่าง Apple CarPlayTM† ภายในรถกระบะ เพลิดเพลินกับความบันเทิง การติดต่อสื่อสาร หรือระบบนำทางได้ทุกเส้นทาง ด้วย Chevrolet MyLink ระบบเชื่อมต่อการสื่อสารและความบันเทิงแบบฉบับเฉพาะของเชฟโรเลตเท่านั้น ควบคุมด้วยหน้าจอสัมผัสขนาด 8 นิ้ว ทั้งยังสั่งงานได้ด้วยเสียง เพื่อควบคุมเพลง เลือกรายชื่อ หรือแม้แต่ค้นหาเส้นทาง พร้อมเติมเต็มทุกเส้นทางให้น่าประทับใจยิ่งขึ้น
สำหรับประเทศไทย ที่เป็นเมืองร้อน แดดแรงจัด ภายในห้องโดยสารรถที่จอดกลางแจ้งมักมีอุณหภูมิสูง โคโลราโด ไฮคัมทรี จึงมอบฟังก์ชั่นพิเศษที่แสนจะโดยใจ ด้วย รีโมทสตาร์ท (REMOTE START) ให้เจ้าของรถสามารถสตาร์ทรถได้แม้อยู่นอกตัวรถ พร้อมทั้งสั่งการให้ระบบปรับอากาศภายในห้องโดยสารทำงานโดยอัตโนมัติที่อุณหภูมิระดับ 25 องศาเซลเซียส นอกจากนี้ยังสามารถควบคุมการเลื่อนขึ้น – ลงของกระจกหน้าต่างทั้ง 4 บานได้อีกด้วย นอกจากนี้ ไฟส่องสว่างสำหรับการขับขี่ในเวลากลางวัน แบบ LED จะทำงานเมื่อสั่งการจากกุญแจรถ ซึ่งจะช่วยให้คุณระบุตำแหน่งของรถที่จอดในบริเวณที่มีรถหนาแน่น และยังช่วยให้มองเห็นรถได้ง่ายในที่มืด ทำให้สบายใจทุกครั้งที่จอดรถ
สะดวกและปลอดภัยทุการเดินทาง ด้วยกระจกมองหลังภายในรถ ตัดแสงอัตโนมัติ (Electrochromic)กระจกมองหลังที่มาพร้อมเทคโนโลยีอันล้ำหน้า จะช่วยตรวจจับแสงไฟจากด้านหลังและช่วยปรับลดแสงสะท้อนอัตโนมัติ เพื่อกำจัดแสงจ้าที่ไม่ต้องการ ไม่ต้องหรี่ตา เมื่อมีแสงเข้าจากด้านหลังรถอีกต่อไป นอกจากนี้แล้วการขับขี่ระยะไกลก็เป็นเรื่องง่ายๆ ด้วยระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ (Cruise Control) ที่ให้คุณสามารถตั้งค่าและควบคุมความเร็วของรถได้ด้วยปุ่มควบคุมใช้งานบนพวงมาลัย
โดยสรุปแล้ว เชฟโรเลต โคโลราโด ไฮคัมทรี ออกแบบได้อย่างพิถีพิถัน แฝงด้วยความดุดัน เร้าใจ สไตล์กระบะอเมริกัน สมรรถนะของเครื่องยนต์ชั้นดีให้ความสนุกสนานในการขับขี่ทุกรูปแบบ ฟังก์ชั่นความสะดวกสบายและความปลอดภัยใส่มาให้อย่างครบเครื่อง ให้ความมั่นใจในทุกสถานการณ์ เหนือกว่ารถกระบะทั่วไป
