ไลฟสไตล์

กิจกรรม & CSRไลฟสไตล์

คนไทยคนแรกที่ได้รับรางวัล ITS World Congress Hall of Fame “Lifetime Achievement Award” ในวันที่16 กันยายน 2567 ในระหว่างการประชุม ITS World Congress ครั้งที่ 30 ที่จัดขึ้นที่ เมืองดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์

คมนาคมนวัตกรรมไลฟสไตล์

กฟน.จับมือนิสสันติดตั้งเครื่องชาร์จรถไฟฟ้าในบ้านลูกค้า

การไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) และนิสสัน มอเตอร์ ประเทศไทย ได้ร่วมลงนามข้อตกลงเพื่อดำเนินการติดตั้งเครื่องอัดประจุไฟฟ้าสำหรับยานยนต์ไฟฟ้าสำหรับที่พักอาศัย  เตรียมความพร้อมสำหรับ นิสสัน ลีฟ ซึ่งจะเปิดตัวในประเทศไทยในปีงบประมาณนี้ ข้อตกลงนี้ได้มีการลงนามที่ การไฟฟ้านครหลวง สำนักงานใหญ่ เพลินจิต กรุงเทพฯ ข้อตกลงดังกล่าวเน้นถึงความมุ่งมั่นที่จะทำให้ผู้ขับขี่รถยนต์พลังงานไฟฟ้าสามารถเข้าถึงสถานีชาร์จที่บ้าน ที่ทำงาน และบนท้องถนนเพื่อสร้างทางเลือกใหม่ในการเดินทางที่จะขับเคลื่อนการใช้พลังงานไฟฟ้าของประเทศไทย โดย กฟน. และนิสสัน จะทำงานร่วมกันในด้านการให้บริการรูปแบบใหม่ๆ คู่มือการใช้และบริการสำหรับระบบชาร์จ การฝึกอบรมทักษะทางเทคนิค การพัฒนาอุปกรณ์ชาร์จ รวมไปถึงระบบการชำระค่าไฟฟ้า นอกจากนี้ยังแสดงให้เห็นถึงความร่วมมืออย่างต่อเนื่องของภาครัฐบาล รัฐวิสาหกิจ และภาคเอกชน นายชัยยงค์ พัวพงศกร ผู้ว่าการการไฟฟ้านครหลวง  กล่าวว่า เนื่องในโอกาสที่ครบวาระ 60 ปีกฟน. ในปีนี้กฟน. จึงมุ่งเป็นผู้นำเทคโนโลยีสำหรับยานยนต์ไฟฟ้าที่ทันสมัยได้เตรียมความพร้อมรองรับการใช้รถยนต์ไฟฟ้าทดแทนรถยนต์น้ำมันในอนาคตเนื่องจากเป็นพลังงานที่สะอาดและประหยัดโดยกฟน. ได้ร่วมสนับสนุนและให้ความร่วมมือกับหน่วยงานต่างๆทั้งภาครัฐและภาคเอกชนในการลงนามบันทึกความเข้าใจกับผู้ประกอบการอย่างต่อเนื่องหลายรายซึ่งการลงนามกับนิสสันมอเตอร์ประเทศไทยในครั้งนี้ถือเป็นโอกาสสำคัญในการรุกตลาดรถยนต์ไฟฟ้า  และขยายสถานีอัดประจุไฟฟ้าในประเทศไทยให้มีเพิ่มมากขึ้น โดยกฟน. จะเป็นผู้ดำเนินการให้บริการด้านระบบไฟฟ้าและอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องกับการอัดประจุไฟฟ้าเพื่อสร้างความมั่นใจและสร้างความปลอดภัยในระบบไฟฟ้าให้แก่ลูกค้าของนิสสันและเป็นผู้ดำเนินการฝึกอบรมให้ความรู้ด้านระบบไฟฟ้าที่เกี่ยวข้องกับยานยนต์ไฟฟ้าให้แก่บุคลากรของบริษัทนิสสันมอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด  เช่นตัวแทนจำหน่ายส่วนงานบริการลูกค้าช่างประจำศูนย์บริการเป็นต้นซึ่งความร่วมมือดังกล่าวยังเป็นการตอบสนองต่อแผนอนุรักษ์พลังงาน (EEP 2015) ซึ่งมีเป้าหมายในการส่งเสริมเพื่อให้เกิดการใช้งานรถยนต์ไฟฟ้าประเภทไฮบริดปลั๊กอิน (Plug-in hybrid electric vehicle : PHEV) และยานยนต์ไฟฟ้าประเภทแบตเตอรี่ (Battery electric vehicle : BEV) รวมทั้งสิ้น 1.2 ล้านคันภายในปีพ.ศ. 2579 ถือเป็นความร่วมมือกับองค์กรภาคธุรกิจในการขับเคลื่อนการใช้งานรถยนต์ไฟฟ้าให้เกิดขึ้นจริงในประเทศ นอกจากนี้กฟน. ยังได้มีการจัดทำ“MEA EV Application” ที่สามารถใช้งานได้อย่างสะดวกสบายบนสมาร์ทโฟน เวอร์ชันล่าสุด 2.0 รองรับการใช้งานทั้งระบบIOS และAndroid สำหรับการค้นหาสถานีอัดประจุไฟฟ้าการจองหัวชาร์จยานยนต์ไฟฟ้าแบบเรียลไทม์ มีระบบนำทางไปยังสถานีชาร์จพร้อมควบคุมการชาร์จยานยนต์ไฟฟ้าผ่านระบบรีโมทด้วยแอปพลิเคชันทันที การแจ้งข้อมูลประวัติการชาร์จการคำนวณอัตราการประหยัดพลังงานรวมถึงฟังก์ชันอื่น ๆที่จะจัดทำเพิ่มเติมเพื่ออำนวยความสะดวกในอนาคต นายอันตวน บาร์เตส ประธาน นิสสัน มอเตอร์ ประเทศไทย  กล่าวว่า นิสสัน ลีฟ ใหม่ เป็นรถยนต์พลังงานไฟฟ้าที่ทันสมัยและขายดีที่สุดในโลก "รถยนต์พลังงานไฟฟ้าของเราได้รับการพัฒนา...
กิน-เที่ยวเศรษฐกิจ

รัสเซียปลื้มผลไม้ไทย

กรมส่งเสริมสหกรณ์ ขนสินค้าสหกรณ์การเกษตร ทั้งมะพร้าวน้ำหอม-สับปะรดห้วยมุ่นออกบูธเปิดตัวในงานเทศกาลแสดงสินค้าเกษตรไทย ที่กรุงมอสโก ประเทศรัสเซีย เผยประสบผลสำเร็จเป็นอย่างดี ได้รับความสนใจ ลูกค้ารัสเซียแห่ซื้อเพียบ ชี้เป็นโอกาสดีของสหกรณ์ไทยที่จะทำขยายช่องทางส่งออกผลไม้เพิ่ม เตรียมผลักดันสหกรณ์ขยายแปลงปลูกส่งออกสินค้าคุณภาพป้อนตลาดรัสเซีย นายเชิดชัย พรหมแก้ว รองอธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ เปิดเผยภายหลังจากนำผู้แทนสหกรณ์การเกษตรบ้านรางสีหมอก จำกัด จังหวัดราชบุรี และสหกรณ์การเกษตรน้ำปาด จำกัด จังหวัดอุตรดิตถ์ จำกัด เดินทางไปร่วมแสดงสินค้าเกษตร ในงานเทศกาลไทย ณ กรุงมอสโก ประเทศรัสเซีย ประจำปี 2561 ว่า การไปร่วมงานครั้งนี้เพื่อเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ สร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับสินค้าของสหกรณ์ไทย และขยายโอกาสทางการค้า พร้อมกับได้สำรวจตลาดผลไม้ในรัสเซียด้วย เนื่องจากเล็งว่าจะขยายตลาดผลไม้ไทยสู่ประเทศรัสเซีย ทั้งนี้  ผลไม้ไทยที่นำไปแสดงในงานมี 2 ชนิดคือ มะพร้าวน้ำหอม และมะพร้าวแก้วแปรรูป ของสหกรณ์การเกษตรบ้านรางสีหมอก จำกัด จังหวัดราชบุรี รวมถึงสับปะรดห้วยมุ่นและสับปะรดอบแห้ง ของสหกรณ์การเกษตรน้ำปาด จำกัด จังหวัดอุตรดิตถ์ โดยได้ทดลองขายและเปิดโอกาสให้ลูกค้าชาวรัสเซียได้ชิมรสชาติผลไม้ไทย ซึ่งได้รับการตอบรับและความสนใจจากลูกค้ารัสเซียที่ชื่นชอบประทับใจในรสชาติและซื้อผลไม้ที่นำไปจัดแสดงจนหมด เพราะคนรัสเซียชอบผลไม้ที่ไม่หวานมาก ดังนั้น ผลไม้ของไทยน่าจะสามารถเพิ่มมูลค่าในการซื้อขายได้ เพราะรัสเซียเป็นประเทศใหญ่ หากสหกรณ์สามารถส่งผลไม้ไปเปิดตลาดที่นั้นได้โอกาสที่จะขยายไปยังสินค้าชนิดอื่น ๆ  ก็จะตามมา ซึ่งนับว่าเป็นการเริ่มต้นที่ดี และยังได้สร้างความสัมพันธ์กับเครือข่ายผู้นำเข้าสินค้าของรัสเซีย เพื่อเจรจาขยายตลาดการนำเข้าสินค้าของสหกรณ์ไปยังประเทศรัสเซียเพิ่มขึ้นด้วย “คนรัสเซียจะชอบสเต็ก ผักและผลไม้เป็นหลัก ซึ่งการที่เราไปร่วมงานครั้งนี้ เนื่องจากสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงมอสโก ได้เชิญไปร่วมงานและอยากจะให้นำผลไม้ของสหกรณ์ ทั้งมะพร้าวน้ำหอมและสับปะรดไปเปิดตัวที่นั่น ซึ่หลังจากที่นำสินค้าไปจัดแสดงในครั้งนี้ ทำให้เห็นช่องทางในการเปิดตลาดใหม่ให้กับผลไม้ของสหกรณ์ โดยจะส่งผลไม้ที่รัสเซียไม่มีไปจำหน่ายที่นั่น แต่ปัญหาอุปสรรคคือกระบวนการนำเข้าของรัสเซียจำเป็นต้องใช้เวลาพอสมควร ซึ่งได้ขอความอนุเคราะห์ให้ทางสถานทูตรัสเซียช่วยเหลือประสานงานในเรื่องนี้แล้ว คิดว่าประมาณ 3 เดือนน่าจะมีความคืบหน้าในการติดต่อประสานงานมากขึ้น”นายเชิดชัย กล่าว             นายเชิดชัย กล่าวเพิ่มเติมว่า สาเหตุที่ได้คัดเลือกมะพร้าวน้ำหอมจากจังหวัดราชบุรีไปโชว์ เนื่องจากเป็นแหล่งผลิตหลักและสวนมะพร้าวของสมาชิกสหกรณ์ได้มาตรฐาน GAP ส่วนสับปะรดจากสหกรณ์ของอุตรดิตถ์ก็ได้มาตรฐาน GI ซึ่งเป็นสินค้าที่มีข้อมูลบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์และมีรสชาติโดดเด่นไม่กัดลิ้น จึงนับว่าเป็นโอกาสดีที่กรมส่งเสริมสหกรณ์จะผลักดันให้สหกรณ์เป็นผู้ส่งออกสินค้าผลไม้สดและผลไม้แปรรูปไปยังประเทศรัสเซีย แต่สิ่งที่สหกรณ์จะต้องทำให้ได้คือการรักษาคุณภาพผลผลิตให้ได้ตามมาตรฐาน ซึ่งกรมฯจะประสานกับหน่วยงานต่าง  ๆ ช่วยผลักดันสหกรณ์ให้สามารถส่งออกสินค้าไปให้ได้ รวมถึงจะส่งเสริมเกษตรกรให้ขยายแปลงปลูกเพิ่มเพื่อส่งเสริมอาชีพและสร้างรายได้ให้กับเกษตรกร สอดคล้องกับนโยบายของการตลาดนำการผลิตได้เป็นอย่างดี...
มาร์เก็ตติ้งรถจักรยานยนต์เศรษฐกิจไลฟสไตล์

ยามาฮ่าหนุน  “RoV Pro League Season 2”

ยามาฮ่าบุกตลาด eSports จับมือ GeranaRoVสนับสนุนการแข่งขัน “RoV Pro League Season 2”สุดยอดลีคเกมที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของเมืองไทย  ชิงยามาฮ่า AEROX RoV Limited Edition นางสรวงสุดา มนัสบุญเพิ่มพูล (คนซ้าย) ผู้จัดการทั่วไปอาวุโส ฝ่ายการตลาดกลุ่มรถออโตเมติก และตราสินค้า บริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด ถ่ายภาพร่วมกับ มร.อัลเลน ชู (คนที่ 2 จากซ้าย) หัวหน้าฝ่ายด้านกลยุทธ์ด้านพันธมิตร ประจำประเทศไทย บริษัท การีนา ออนไลน์ (ประเทศไทย) จำกัด ในงานแถลงข่าวการจัดการแข่งขัน “RoV Pro League Season 2” กีฬา eSports เทรนด์ใหม่ระดับโลกที่กำลังได้รับความนิยม และเปิดโอกาสให้ผู้เข้าแข่งขันได้โชว์ Passion ของตนเองอย่างเต็มรูปแบบ โดยมี 8 ทีมชั้นนำที่ผ่านรอบคัดเลือกมากว่า 2,800 ทีม เข้าร่วมชิงรางวัลรวมมูลค่ากว่า 6 ล้านบาท โดยผู้ชนะเลิศจะได้รับรถจักรยานยนต์ ยามาฮ่า AEROX RoV Limited Edition ไปครอง สำหรับการแข่งขันจะมีขึ้นในวันที่ 20 สิงหาคม 2561 เวลา 17.30 น. เป็นต้นไป สามารถรับชมการถ่ายทอดสดการแข่งขันได้ที่  Facebook: http://www.facebook.com/ROVTH, Garena Live : http://garena.live/ROVTH หรือที่ Youtube : https://goo.gl/fAsj9t...
มอเตอร์สปอร์ตรถยนต์รถยนต์ต่างประเทศไลฟสไตล์

ปอร์เช่ 919 ไฮบริด ขุนพลรัตติกาลใจกลางกรุงเทพฯ

สัมผัสความยิ่งใหญ่ไปกับการอำลาการแข่งขันของรถแข่งระดับตำนาน ปอร์เช่ 919 ไฮบริด(Porsche 919 Hybrid) ในบรรยากาศการถ่ายทำใจกลางกรุงเทพมหานคร ปอร์เช่919 ไฮบริด (Porsche 919 Hybrid)รถแข่งที่บันทึกสถิติใหม่ให้แก่ประวัติศาสตร์กีฬาความเร็ว ถึงแม้รถคันนี้จะไม่ได้วิ่งอยู่บนสนามแข่งแล้วก็ตาม: นับเป็นครั้งแรกที่รถแข่งระดับตำนานคันดังกล่าวได้มาเยือนภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ในโอกาสของทริปการเดินทางอำลาการแข่งขันทั่วโลก 919 Tribute Tour หลังจากการปรากฎตัวอย่างยิ่งใหญ่ในประเทศจีนและประเทศญี่ปุ่น กรุงเทพมหานคร หรือชื่อในความหมายภาษาไทยว่า“มหานครอันกว้างใหญ่ดุจเทพนคร” นับเป็นจุดหมายปลายทางหนึ่งที่เหมาะสมอย่างยิ่งในการมาเยือนของ ปอร์เช่ 919 ไฮบริด (Porsche 919 Hybrid)ยนตรกรรมสปอร์ตสายพันธุ์สนามที่ยืนอยู่บนจุดสูงสุดและเป็นตำนานในรายการแข่งรถยนต์ทางเรียบWorld Endurance Championships (WEC) ที่ไม่มีผู้ใดเทียบเคียงได้ จากเกียรติประวัติสุดเกรียงไกร ด้วยผลงาน 20 ตำแหน่งโพลบนเส้นสตาร์ท ชัยชนะที่คว้ามาครอบครองได้ถึง 17 สนาม แชมเปียนส์โลก 6 สมัย ชนะเลิศรุ่นover all ในรายการแข่งขันLe Mans3 สมัย ความยอดเยี่ยมยิ่งใหญ่ทั้งหมดเกิดขึ้นตลอดระยะเวลา 4 ฤดูกาลที่รถแข่งคันนี้โลดแล่นอยู่บนสนามประชันความเร็ว บัดนี้ถึงเวลาแล้วที่ตำนานเจ้าสนาม จะได้ใช้โอกาสอันดีในการกล่าวคำ“ขอบคุณ” ไปยังบรรดาผู้หลงใหลความเร็วใน13 จุดหมายทั่วทุกมุมโลกและกรุงเทพมหานครคือจุดหมายปลายทางลำดับที่3 ของทวีปเอเชีย การปรากฎโฉมท่ามกลางบรรยากาศสุดคลาสสิกย่านเยาวราช ใจกลางกรุงเทพมหานครนครหลวงอันเปรียบได้กับชีพจรหลักของประเทศไทยเต็มไปด้วยเสน่ห์อันน่าหลงใหลของการผสมผสานที่สุดแสนลงตัวระหว่างวัฒนธรรมและความทันสมัย กรุงเทพมหานครคือศูนย์รวมของความหลากหลายคลาคล่ำไปด้วยผู้คนจากทั่วทุกสารทิศ และแน่นอนว่าย่อมต้องเป็นสถานที่ที่เหมาะอย่างยิ่งในการเป็นฉากถ่ายทำภาพยนตร์นอกจากนี้กรุงเทพฯยังเป็นหนึ่งในแหล่งท่องเที่ยวอันดับต้นๆของโลกที่นักเดินทางล้วนปรารถนาจะได้มาเยือนสักครั้ง รวมทั้งเป็นเมืองที่มีจำนวนผู้ใช้งานแอปพลิเคชันFacebook มากที่สุดในโลกอีกด้วยมนต์เสน่ห์อันน่าหลงใหลของวัฒนธรรมที่สืบทอดกันมายาวนาน ผสานกับนวัตกรรมล้ำยุคสไตล์เมืองใหญ่ของกรุงเทพฯคือภาพสะท้อนที่แสดงออกอย่างชัดเจนในภาพยนตร์ที่มีตัวเอกเป็นรถแข่งระดับ LMP1 ขับเคลื่อนไปท่ามกลางฝูงชนมากมายบนท้องถนนที่เต็มไปด้วยแสงสีน่าตื่นตาตื่นใจของย่านเยาวราช ตลอดเส้นทางที่เสมือนกับความฝันมุ่งไปบรรจบกับความงามของสะพานพระราม 8  อันเป็นสถาปัตยกรรมที่น่าอัศจรรย์ ทอดตัวยาวข้ามแม่น้ำเจ้าพระยา ในเมืองที่เปี่ยมไปด้วยเอกลักษณ์เฉพาะตัว และไม่มีวันหลับใหลแห่งนี้ ระยะเวลา 24 ชั่วโมงเคลื่อนผ่านไปอย่างรวดเร็ว รอยต่อระหว่างช่วงเวลาที่พระอาทิตย์ตกจวบจนอรุณรุ่งของวันใหม่นั้น ชวนให้ระลึกถึงความทรงจำในตำนานการแข่งขัน Le Mans สุดยิ่งใหญ่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในจังหวะที่รถแข่ง 919 ไฮบริด (919 Hybrid)มีโอกาสได้กลับมาร่วมงานกับEarl Bamber นักแข่งฝีมือดีสังกัดทีมโรงงานปอร์เช่ ภาพความประทับใจดังกล่าวจะได้รับการบันทึกเอาไว้อย่างไม่มีวันลบเลือน นักแข่งผู้นี้สามารถคว้าชัยชนะในรายการแข่งขันรถยนต์ทางเรียบ WEC มามอบให้ปอร์เช่ได้หลายสนามซึ่งรวมทั้งตำแหน่งแชมป์ 3...
นวัตกรรมไลฟสไตล์

ฟอร์ดเพิ่มฟีเจอร์ล้ำในรถรุ่นใหม่

นาย ดอน บัทเลอร์ ผู้อำนวยการบริหาร ฝ่ายการเชื่อมต่อแพลตฟอร์มรถยนต์และผลิตภัณฑ์  ฟอร์ด มอเตอร์ คัมปะนี กล่าวว่า ผู้ใช้แอปพลิเคชัน เวซ (Waze Application) ทั่วโลกสามารถใช้บริการระบบแผนที่นำทางและบอกสภาพการจราจรตามเวลาจริง พร้อมควบคุมการสั่งงานด้วยเสียง ผ่านหน้าจอสัมผัสในรถยนต์ฟอร์ดรุ่นต่าง ๆ ด้วยระบบ SYNC® AppLink® ได้แล้ววันนี้ โดยเจ้าของรถฟอร์ด รุ่นที่ติดตั้งระบบซิงค์ 3 อยู่แล้ว สามารถใช้ฟีเจอร์ในแอปพลิเคชันนี้ได้ง่ายยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการค้นหาเส้นทางที่ดีกว่า ระบุตำแหน่งสถานีบริการน้ำมันที่มีราคาน้ำมันถูกกว่า และการรายงานอุบัติเหตุบนท้องถนน สำหรับวิธีการใช้งาน เพียงแค่เชื่อมต่อไอโฟนที่ติดตั้งแอปพลิเคชัน เวซ เข้ากับยูเอสบีพอร์ตของรถยนต์ และเรียกใช้งานผ่านหน้าจอสัมผัสในรถ ซึ่งผู้ใช้ระบบ SYNC AppLink จะสามารถเข้าใช้งานฟีเจอร์ต่าง ๆ ของแอปพลิเคชันบนหน้าจอที่ใหญ่กว่า และยังสามารถฟังเสียงนำทางผ่านระบบลำโพงและไมโครโฟนในรถยนต์ได้อย่างง่ายดาย และสะดวกสบาย “ลูกค้าของฟอร์ดจะได้ใช้ประโยชน์จากแอปพลิเคชัน เวซ อย่างเต็มที่ พร้อมกับความสะดวกสบายที่เพิ่มมากขึ้นจากการใช้แอปพลิเคชันผ่านหน้าจอที่ใหญ่กว่า” นอกจากความสามารถในการรายงานข้อมูลเกี่ยวกับการจราจรติดขัด อุบัติเหตุ และราคาน้ำมันแล้ว การที่ฟอร์ดจับมือกับแอปพลิเคชัน เวซ ยังรวมไปถึงการอัพเดทล่าสุดอื่น ๆ ของแอปพลิเคชัน เช่น ทอล์ค ทู เวซ (Talk to Waze) ที่จะช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถควบคุมการใช้งานแอปพลิเคชันผ่านคำสั่งเสียงได้ รวมไปถึงฟีเจอร์ต่างๆ อย่างเช่น การแสดงตัวเลือกเส้นทางเพิ่มเติมเพื่อหลีกเลี่ยงช่องจราจรที่หนาแน่น ตัวเลือกการนำทางอื่นๆ และการคำนวณเวลาที่จะไปถึงที่หมายได้แม่นยำมากยิ่งขึ้น นายเจนส์ บารอน หัวหน้าฝ่ายผลิตภัณฑ์ ด้านแอปพลิเคชันในรถยนต์ของแอปพลิเคชัน เวซ กล่าวว่า “เรามีความยินดีที่ผู้ขับขี่รถฟอร์ดที่ติดตั้งระบบซิงค์ 3 จะได้ใช้แอปพลิเคชัน เวซ สำหรับ iOS จากในรถยนต์ และเข้าถึงฟีเจอร์อันล้ำสมัยต่างๆ ของเราอย่างเช่น การวางแผนการขับขี่ ตัวเลือกเส้นทาง ระบบสั่งการด้วยเสียง ทอล์คทูเวซ และอื่นๆ ซึ่งผู้ขับขี่จะได้รับข้อมูลการแนะนำเส้นทางที่ดีที่สุด พร้อมการคำนวณระยะเวลาที่ใช้ถึงจุดหมายปลายทางที่แม่นยำที่สุด เนื่องจากคอมมูนิตี้ผู้ขับขี่ทั่วโลกต่างช่วยกันอัพเดทข้อมูลแผนที่ตามเวลาจริงระหว่างการเดินทาง...
อสังหาฯเศรษฐกิจไลฟสไตล์

 เปิดตัวโรงแรม ซิกส์เซ้นส์ แห่งแรกในกรุงเทพฯ

MQDC และ ซิกส์เซ้นส์ โฮเทลส์ รีสอร์ทส์ สปาส์ เปิดตัวโรงแรม ซิกส์เซ้นส์ แห่งแรกในกรุงเทพฯ พร้อมด้วยที่พักอาศัยจำนวน 36 หลัง ภายใต้แบรนด์ ซิกส์เซ้นส์ ภายในเดอะ ฟอร์เรสเทียส์ โครงการมิกซ์ยูสที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อม ตั้งอยู่ในพื้นที่บางนากว่า 119 เอเคอร์ ซิกส์เซ้นส์ โฮเทลส์ รีสอร์ทส์ สปาส์ เปิดตัวโรงแรมภายใต้แบรนด์ ซิกส์เซ้นส์ ครั้งแรกในกรุงเทพฯ ซึ่งตั้งอยู่ในเดอะ ฟอร์เรสเทียส์ โครงการมิกซ์ยูสที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อม ภายใต้ความร่วมมือกับบริษัทแมกโนเลีย ควอลิตี้ ดีเวล็อปเม้นต์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (MQDC) ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ระดับสากล  ความร่วมมือกันอย่างเป็นทางการในครั้งนี้ ครอบคลุมถึงที่อยู่อาศัยแบรนด์ ซิกส์เซ้นส์ ด้วย โดยได้มีพิธีลงนามสัญญาร่วมกัน ณ ศูนย์ RISC ชั้น 4 แมกโนเลีย ราชดำริ บูเลอวาร์ด นายวิสิษฐ์ มาลัยศิริรัตน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร MQDC และมร.คริส โอ ประธานผู้อำนวยการงานโรงแรม  MQDC เป็นตัวแทนในการเซ็นสัญญา พร้อมด้วย นายนีล เจค็อบส์  ตัวแทนจากซิกส์เซ้นส์ “การร่วมมือกันในครั้งนี้เกิดการแบ่งปันความปรารถนาดีในการมอบประสบการณ์การใช้ชีวิตอย่างมีคุณภาพที่ดีที่สุดแก่ผู้อยู่อาศัยและแขกที่เข้าพัก เพื่อสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดี ในขณะที่ยังคงให้ความสำคัญต่อความกลมเกลียวระหว่างมนุษย์และธรรมชาติ ซึ่งเป็นแนวทางการดำเนินงานของ MQDC ที่เราเรียกว่า “for all well-being” นายวิสิษฐ์กล่าว “ซิกส์เซ้นส์ ได้อุทิศการทำงานอย่างหนักเพื่อเอาชนะใจลูกค้า ตามวิสัยทัศน์ขององค์กรที่ว่าด้วย Intelligent Luxury MQDC รู้สึกเป็นเกียรติที่จะเป็นเจ้าบ้านในการต้อนรับแบรนด์ระดับโลกอย่าง ซิกส์เซ้นส์ เข้ามาอยู่ในเดอะ ฟอร์เรสเทียส์ โครงการมิกซ์ยูสที่พัฒนาภายใต้แนวคิด “Sustainnovation” ที่คำนึงถึงทุกองค์ประกอบของสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดีอย่างยั่งยืน รวมถึงการขยายพื้นที่ป่าและพื้นที่สีเขียวที่ช่วยทำให้เกิดประสบการณ์ที่มีคุณค่าและความทรงจำที่ดี” นายนีล เจค็อบส์  ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัทซิกส์เซ้นส์...
กิจกรรม & CSRเศรษฐกิจไลฟสไตล์

บทความพิเศษ เรื่อง: ป่าต้นน้ำกับปัญหาการจัดการน้ำของไทย

ข่าวเขื่อนเซเปียน-เซน้ำน้อย ในแขวงอัตตะปือ ทางตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศลาวแตก สาเหตุจากการก่อสร้างไม่ได้มาตรฐาน ทำให้เกิดความเดือดร้อนเกิดอุทกภัยและโศกนาฏกรรมแก่ประชาชนคนในพื้นที่ ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าเศร้าและไม่น่าเกิดขึ้นเพียงเพราะการดูแลแก้ไขปัญหาไม่ทันท่วงทีหรืออาจจะเกิดจากความประมาทเลินเล่อของเจ้าหน้าที่ก็ไม่ทราบ จะอย่างไรก็ตามต้องขอแสดงความเสียใจพร้อมส่งกำลังใจไปยังประสบภัยและผู้สูญเสียในครั้งนี้ด้วย ล่าสุดข่าวที่เกี่ยวกับเขื่อนและน้ำที่เกิดขึ้นในประเทศไทยก็มีข่าวทำนองเดียวกันคือ น้ำในเขื่อนจังหวัดเพชรบุรี ที่สูงเกินระดับมาตรฐานซึ่งไม่เข้าใจเช่นเดียวกันว่าทำไมผู้มีหน้าที่เกี่ยวข้องจึงปล่อยให้มาถึงจุดนี้ได้ทำไมจึงไม่มีการเฝ้าระวังและระบายน้ำไปก่อนที่จะเกิดเหตุการณ์นี้ ท้ายที่สุดก็ต้องปล่อยน้ำระบายออกมาทางสปิลเวย์ จนก่อให้เกิดปัญหาน้ำท่วมสร้างความเดือดร้อนไปตามเส้นทางน้ำที่ผ่าน ท่วมหมู่บ้าน ท่วมตลาด ท่วมถนนที่ชาวบ้านเคยสัญจรไปมาจังหวัดเพชรบุรีนั้นมีเขื่อนอยู่ทั้งหมด 3 เขื่อน คือเขื่อนแก่งกระจาน  เขื่อนแม่ประจัน และเขื่อนเพชร ซึ่งเขื่อนที่มีปัญหาน้ำล้นอยู่ในขณะนี้ก็คือเขื่อนแก่งกระจานที่มีอาณาเขตติดกับชายแดนเมียนมาทางฝั่งมะริด ทะวาย วิธีการระบายน้ำผ่านทางสปิลเวย์อย่างเดียวคงจะไม่พอ ล่าสุดเห็นว่าจะมีการเปิดประตูเขื่อนให้น้ำระบายออกมาทีละน้อยด้วยอีกทางหนึ่ง จะอย่างไรก็ตามน้ำส่วนเกินนี้ก็กำลังมุ่งพุ่งตรงมายังตัวเมืองเพชรบุรีและพื้นที่ใกล้เคียง ไม่ว่าจะเป็นอำเภอท่ายาง อำเภอบ้านแหลม โดยไปตามเส้นคู คลองชลประทานต่าง ๆ ส่วนหนึ่งก็จะต้องผ่านเขื่อนเพชรซึ่งอยู่ใกล้กับอำเภอท่ายาง ถ้าระดับน้ำยังล้นเกินก็จะมีปัญหากับชาวบ้านพื้นที่แถบนี้อย่างแน่นอน จากข่าวที่นำเสนอผ่านทางทีวี ดูแล้วก็บรรยากาศคล้ายๆกับกรุงเทพมหานครในปี 2554 คือชาวบ้านร้านตลาดเริ่มก่ออิฐ ถือปูน วางกระสอบทราย กั้นผ้าใบหวังว่าจะป้องกันน้ำที่หลากไหลลงมาได้ แอบคิดในใจว่า “ไม่น่าจะมีอะไรที่จะสู้กับพลังของธรรมชาติได้” เพราะเคยมีประสบการณ์ตรงมาแล้ว ทำทุกวิถีทางทั้งใช้ดินน้ำมันใส่ถุงก๊อปแก๊ปยัดใส่โถส้วมกันน้ำมาจากทางนี้ การปิดยาแนวด้วยปูนชั้นดี การก่ออิฐ ซ้อนด้วยกระสอบทรายทับด้วยผ้าใบ ฯลฯ แต่ไม่ว่าจะอย่างไรก็ “เอาไม่อยู่” แต่ก็เข้าใจพี่น้องชาวเพชรบุรี เพราะจะต้องแก้ไขตามสถานการณ์...ดีกว่าไม่ทำอะไรเลย  ไม่ว่าจะอย่างไรก็ขอเอาใจช่วยและเป็นกำลังใจให้อีกทางนะครับ ถ้าจะวิเคราะห์เจาะลึกกันจริงๆ สาเหตุส่วนหนึ่งน่าจะมาจากการบริหารจัดการน้ำที่ประเทศของเรายังทำได้ไม่ดีพอ ซึ่งไม่ว่าจะด้วยสาเหตุใดก็ตามเพราะบ้านเราประสบพบเจอปัญหา “น้ำท่วม ฝนแล้ง ซ้ำซาก” มาหลายสิบปีโดยไม่เปลี่ยนแปลงเลย สาเหตุหลักอีกหนึ่งของปัญหาที่น่าจะเกี่ยวข้องก็คือการที่รัฐยังปล่อยให้มีการตัดไม้ทำลายป่าอย่างต่อเนื่อง จนทำให้พื้นที่ป่าดิบสมบูรณ์กลายเป็นป่าพืชไร่เลื่อนลอย เนื่องด้วยปล่อยชาวบ้านหักร้างถางพงปลูกข้าวโพด ข้าวฟ่าง ข้าวไร่และพืชผักต่างๆ จนระบบนิเวศน์ของดินและผืนป่าเปลี่ยนแปลงไป เพราะระบบรากของพืชไร่และพืชผักต่างๆ ที่มนุษย์ปลูกนั้นมีความแตกต่างจากป่าไม้ยืนต้นธรรมชาติที่หยั่งรากลึกแผ่ขยายไปได้กว้างไกล ทำให้พื้นที่หน้าดินมีความสามารถสูงกว่ามากในการดูดซับกักเก็บน้ำฝน ปริมาณน้ำฝนของประเทศไทยปีหนึ่งสูงเกือบ 800,000 ล้านลูกบาศก์เมตร ในอดีตป่าไม้ยืนต้นทำหน้าที่ในการกักเก็บน้ำฝนได้มากถึง 70% และอีก 30 % ที่เหลือไหลลงสู่ห้วย หนอง คลอง บึง และมุ่งไปยังเขื่อนต่างๆ ทำให้ป่าในอดีตทำหน้าที่เป็นแก้มลิงซับน้ำให้ไหลลงสู่เขื่อนอย่างพอเหมาะพอดีแบบค่อยเป็นค่อยไป แต่เมื่อ “ป่าเขาลำเนาไพร” ส่วนใหญ่กลายเป็น “ป่าเขาหัวโล้น” จึงทำให้ไม่มีความสามารถในการกักเก็บซับน้ำ จึงทำหน้าที่กักเก็บน้ำได้เพียง 30% และอีก...
กิน-เที่ยวเศรษฐกิจไลฟสไตล์

เมล่อนอินทรีย์ สหกรณ์วัดจันทร์ สร้างอาชีพ-รายได้ยั่งยืนให้เกษตรกร

สหกรณ์วัดจันทร์ จังหวัดพิษณุโลก เมินราคาผักตกต่ำ หันส่งเสริมสมาชิกปลูกเมล่อนอินทรีย์ พืชเศรษฐกิจตัวใหม่มาแรง  ปลูกง่าย ขายคล่อง ราคาพุ่ง กำไรงาม รสชาติดีจนลูกค้าติดใจ ตลาดยังมีความต้องการ แถมราคาถูกกว่าห้าง               สร้างอาชีพยั่งยืนให้เกษตรกร เตรียมขยายโรงเรือนปลูกเพิ่มพร้อมฝึกสมาชิกนำไปปลูกเองที่บ้าน เน้นทำคุณภาพและขายตามออเดอร์  เตรียมแผนขยายพื้นที่ปลูกเพิ่ม พร้อมหาตลาดรองรับเพิ่มเพื่อกระจายเมล่อนสู่ผู้บริโภคในราคาไม่แพง นางกัญญา งามสงวน ผู้ช่วยผู้จัดการสหกรณ์วัดจันทร์ จำกัด กล่าวถึงความสำเร็จในการส่งเสริมอาชีพปลูกเมล่อนอินทรีย์  ซึ่งเป็นพืชเศรษฐกิจตัวใหม่ที่กำลังเป็นที่นิยมของผู้บริโภค ว่า สหกรณ์ได้ส่งเสริมสมาชิกหันมาปลูก            เมล่อนอินทรีย์ ในลักษณะปลูกในโดม  ซึ่งสหกรณ์มีเป้าหมายที่จะสร้างอาชีพสร้างรายได้ที่ยั่งยืนให้กับสมาชิกและเป็นแหล่งผลิตอาหารปลอดสารพิษให้กับผู้บริโภค ที่ผ่านมา สหกรณ์ได้เริ่มต้นส่งเสริมสมาชิกปลูกผักบุ้งอินทรีย์ปลอดสาร  เป็นเวลา 1 ปี แต่เจอกับอุปสรรคเรื่องราคาผักบุ้งตกต่ำ ไม่มีตลาดรองรับและไม่คุ้มค่าแรง จึงได้หาความรู้เพิ่มเติม โดยเข้าอบรมกับสำนักงานเกษตรจังหวัดพิษณุโลก และสำนักงานสหกรณ์จังหวัดพิษณุโลก ที่ได้มาสนับสนุนโครงการปลูกพืชทางเลือกและผักปลอดภัยเพื่อเพิ่มรายได้เสริมให้กับกลุ่มสมาชิก  ได้เรียนรู้วิธีการปลูกเมล่อนตามนโยบายยกระดับการผลิตสินค้าเกษตรและสร้างมูลค้า เพื่อช่วยให้เกษตรกรมีรายได้เพิ่มขึ้น  และพัฒนาให้เป็นศูนย์เรียนรู้ตามแนวปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงเพื่อแก้ไขปัญหาและสร้างอาชีพที่ยั่งยืนให้กับเกษตรกร “สหกรณ์ได้รับคำแนะนำจากสำนักงานเกษตรจังหวัดในการเรียนรู้วิธีการปลูกเมล่อน ใช้เวลาเพียง 60 วัน                 ก็สามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตนำไปขายได้ และได้เตรียมตลาดไว้รองรับผลผลิตของสมาชิก เพื่อช่วยกระจายไปสู่ผู้บริโภค จากนั้นสหกรณ์จึงลงทุนสร้างโรงเรือนกลางของสหกรณ์ใช้งบประมาณ 600,000 บาท เนื่องจากเห็นว่าเมล่อน เป็นพืชเศรษฐกิจตัวใหม่ที่กำลังมาแรงที่ให้ผลตอบแทนคุ้มค่ากับการลงทุน อีกทั้งกำลังได้รับความนิยมจากผู้บริโภคจำนวนมาก หากมีตลาดรองรับชัดเจน ก็จะขยายพื้นที่ปลูกเพิ่ม เชื่อว่าในอนาคตเมล่อนจะทำเงินให้กับเกษตรกรได้อย่างงดงาม ต่อมาสหกรณ์ได้หันมาปลูกเมล่อนอินทรีย์ตามธรรมชาติ โดยไม่ต้องพึ่งสารเคมี โดยซื้อเมล็ดพันธุ์เมล่อนพันธุ์กรีนเน็ตมาปลูก ซึ่งทำให้ผลผลิตมีรสชาติดี เนื้อนุ่ม หวาน หอม มีทั้งสีส้มและเขียว ปัจจุบันขายอยู่ที่กิโลกรัมละ 100 บาท ถ้าซื้อเหมาถึงฟาร์มขายราคากิโลกรัมละ 80 บาท ซึ่งถูกกว่าตามห้างทั่วไปและยังปลอดสารด้วย เพราะ อยากให้ผู้บริโภคได้กินเมล่อนปลอดสารและราคาที่ไม่แพง”นางกัญญา กล่าว...
อสังหาฯเศรษฐกิจไลฟสไตล์

ผุด “เดอะ สแตรนด์ ทองหล่อ”

1.6 ดีเวล็อปเม้นต์ ร่วมกับ MQDC โชว์โปรเจ็กต์มาสเตอร์พีซ “เดอะ สแตรนด์ ทองหล่อ - THE STRAND THONGLOR” มูลค่า 4,800 ล้านบาท คอนโดมิเนียมหรูต้นทองหล่อ นิยามของการสร้างสรรค์งานศิลปะและงานฝีมือชั้นสูง “Minimal Luxury” พร้อมผสานนวัตกรรม Intelligent Technology นางสาวธัญทิพ เจียรวนนท์ ประธานบริหารและผู้ก่อตั้ง บริษัท 1.6 ดีเวล็อปเม้นต์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด กล่าวว่า “1.6 ดีเวล็อปเม้นต์ เป็นผู้พัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์รุ่นใหม่ที่มุ่งมั่นที่จะนำมาตรฐานระดับโลกมาสู่วงการอสังหาริมทรัพย์ของประเทศไทย ได้พัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ระดับมาสเตอร์พีซ “เดอะ สแตรนด์ ทองหล่อ - THE STRAND THONGLOR” มูลค่าโครงการกว่า 4,800 ล้านบาท คอนโดมิเนียมมิกซ์ยูส (Mixed-use)  ระดับอัลตร้าลักชัวรี่ โครงการ “เดอะ สแตรนด์ ทองหล่อ - THE STRAND THONGLOR” ตั้งอยู่บริเวณปากซอยทองหล่อ            (สุขุมวิท 55) ห่างจากรถไฟฟ้าบีทีเอส สถานีทองหล่อ เพียง 30 เมตร เป็นอาคารสูง 30 ชั้น ขนาด 1 ไร่ 2 งาน 46 ตารางวา หรือ 2,584 ตารางเมตร มีจำนวนทั้งสิ้น 198 ยูนิต แบ่งเป็นห้องชุด 4 รูปแบบ ได้แก่ 1-Bedroom (1 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ) มีพื้นที่ใช้สอยตั้งแต่...
กิจกรรม & CSRกิน-เที่ยวเทสต์ไดรฟ์ไลฟสไตล์ไลฟสไตล์

“ Mercedes-Benz Driving Events 2018”  

สมาคมผู้สื่อข่าวรถยนต์และรถจักรยานยนต์ไทย (สรยท.) ร่วมกับบริษัทเมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด จัดกิจกรรม“ Mercedes-Benz Driving Events 2018”  เพื่อส่งเสริมทักษะความรู้และการฝึกอบรมเทคนิคการขับขี่ปลอดภัยให้กับสมาชิกฯโดยเฉพาะซึ่งถือว่าเป็นกิจกรรมแรกของคณะกรรมการสมาคมชุดใหม่ (ประจำปี 2561-2562) นำโดยนายภูวนาถ เผ่าจินดานายกสมาคมฯ    โดยการอบรมในครั้งนี้จัดขึ้นเมื่อวันที่ 3 กรกฎาคม 2561 ที่ผ่านมา ณ สนามพีระเซอร์กิตพัทยา นายไมเคิล เกรเว่ ประธานบริหาร บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า   บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด ตอกย้ำภาพผู้นำรถหรู ที่โดดเด่นทั้งในด้านนวัตกรรมยานยนต์ด้านความปลอดภัย ดีไซน์ และสมรรถนะ เดินหน้าจัดกิจกรรมฝึกอบรมเทคนิคการขับขี่ปลอดภัยครั้งที่ 15เชิญสื่อมวลชนและลูกค้าคนสำคัญเสริมทักษะความรู้และวิธีการขับขี่แบบปลอดภัย จากทีมผู้ฝึกสอนมืออาชีพจากประเทศออสเตรเลีย พร้อมขนทัพรถหรูรุ่นล่าสุด มาให้ร่วมทดสอบกันอย่างครบครันในทุกเซ็กเมนต์ อาทิสุดยอดยนตรกรรมดีไซน์สปอร์ตThe new CLS300 dAMG Premiumสปอร์ตคูเป้สุดหรูThe E 200 Coupé AMG Dynamicรถยนต์เปิดประทุนแบบ 4ที่นั่งS 500 Cabriolet AMG Premiumและยนตรกรรมระดับพรีเมี่ยมกว่าสิบรุ่น จำนวนรวม 21 คัน ณ สนามพีระเซอร์กิต พัทยา “เมอร์เซเดส-เบนซ์ ดำเนินงานภายใต้ความมุ่งมั่นที่จะนำเสนอ “สิ่งที่ดีที่สุด”ให้กับลูกค้าทั้งในวันนี้และวันข้างหน้า โดยหนึ่งในพันธกิจที่เมอร์เซเดส-เบนซ์ให้ความสำคัญและยึดมั่นเสมอมาคือการคำนึงถึงความปลอดภัยของผู้ขับขี่รถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์ ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา บริษัทฯ ได้คิดค้นและพัฒนาเทคโนโลยีระบบความปลอดภัยอันก้าวล้ำมาอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้เกิดผลลัพธ์ในเรื่องการลดอัตราการเกิดอุบัติเหตุจากการขับขี่ให้เป็นศูนย์ (Accident-Free Driving)และเพื่อให้เกิดความปลอดภัยสูงสุดบนท้องถนน นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังให้ความสำคัญกับ“การพัฒนาทักษะการขับขี่” เพื่อให้ผู้ขับขี่ทุกท่านได้มีความรู้ความเข้าใจในการใช้งานระบบความปลอดภัยของรถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์ และสามารถนำไปใช้ให้เป็นประโยชน์ในการช่วยเหลือตนเอง และบุคคลรอบข้าง ในกรณีที่เกิดเหตุคับขัน เพื่อช่วยลดความรุนแรงที่อาจจะเกิดขึ้นได้อีกทางหนึ่ง” นายฟรังค์ ชไตน์อัคเคอร์ รองประธานบริหาร ฝ่ายขายและการตลาด บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย)...
1 59 60 61 62 63
Page 61 of 63