กิจกรรม & CSRกิน-เที่ยวเทสต์ไดรฟ์ไลฟสไตล์ไลฟสไตล์

“ Mercedes-Benz Driving Events 2018”  

1kviews

สมาคมผู้สื่อข่าวรถยนต์และรถจักรยานยนต์ไทย (สรยท.) ร่วมกับบริษัทเมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด จัดกิจกรรม“ Mercedes-Benz Driving Events 2018”  เพื่อส่งเสริมทักษะความรู้และการฝึกอบรมเทคนิคการขับขี่ปลอดภัยให้กับสมาชิกฯโดยเฉพาะซึ่งถือว่าเป็นกิจกรรมแรกของคณะกรรมการสมาคมชุดใหม่ (ประจำปี 2561-2562) นำโดยนายภูวนาถ เผ่าจินดานายกสมาคมฯ    โดยการอบรมในครั้งนี้จัดขึ้นเมื่อวันที่ 3 กรกฎาคม 2561 ที่ผ่านมา ณ สนามพีระเซอร์กิตพัทยา

นายไมเคิล เกรเว่ ประธานบริหาร บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า   บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด ตอกย้ำภาพผู้นำรถหรู ที่โดดเด่นทั้งในด้านนวัตกรรมยานยนต์ด้านความปลอดภัย ดีไซน์ และสมรรถนะ เดินหน้าจัดกิจกรรมฝึกอบรมเทคนิคการขับขี่ปลอดภัยครั้งที่ 15เชิญสื่อมวลชนและลูกค้าคนสำคัญเสริมทักษะความรู้และวิธีการขับขี่แบบปลอดภัย จากทีมผู้ฝึกสอนมืออาชีพจากประเทศออสเตรเลีย พร้อมขนทัพรถหรูรุ่นล่าสุด มาให้ร่วมทดสอบกันอย่างครบครันในทุกเซ็กเมนต์ อาทิสุดยอดยนตรกรรมดีไซน์สปอร์ตThe new CLS300 dAMG Premiumสปอร์ตคูเป้สุดหรูThe E 200 Coupé AMG Dynamicรถยนต์เปิดประทุนแบบ 4ที่นั่งS 500 Cabriolet AMG Premiumและยนตรกรรมระดับพรีเมี่ยมกว่าสิบรุ่น จำนวนรวม 21 คัน ณ สนามพีระเซอร์กิต พัทยา

“เมอร์เซเดส-เบนซ์ ดำเนินงานภายใต้ความมุ่งมั่นที่จะนำเสนอ “สิ่งที่ดีที่สุด”ให้กับลูกค้าทั้งในวันนี้และวันข้างหน้า โดยหนึ่งในพันธกิจที่เมอร์เซเดส-เบนซ์ให้ความสำคัญและยึดมั่นเสมอมาคือการคำนึงถึงความปลอดภัยของผู้ขับขี่รถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์ ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา บริษัทฯ ได้คิดค้นและพัฒนาเทคโนโลยีระบบความปลอดภัยอันก้าวล้ำมาอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้เกิดผลลัพธ์ในเรื่องการลดอัตราการเกิดอุบัติเหตุจากการขับขี่ให้เป็นศูนย์ (Accident-Free Driving)และเพื่อให้เกิดความปลอดภัยสูงสุดบนท้องถนน นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังให้ความสำคัญกับ“การพัฒนาทักษะการขับขี่” เพื่อให้ผู้ขับขี่ทุกท่านได้มีความรู้ความเข้าใจในการใช้งานระบบความปลอดภัยของรถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์ และสามารถนำไปใช้ให้เป็นประโยชน์ในการช่วยเหลือตนเอง และบุคคลรอบข้าง ในกรณีที่เกิดเหตุคับขัน เพื่อช่วยลดความรุนแรงที่อาจจะเกิดขึ้นได้อีกทางหนึ่ง”

นายฟรังค์ ชไตน์อัคเคอร์ รองประธานบริหาร ฝ่ายขายและการตลาด บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “สำหรับกิจกรรมฝึกอบรมเทคนิคการขับขี่ปลอดภัย                    “Mercedes-Benz Driving Events”ซึ่งเป็นกิจกรรมที่บริษัทฯได้จัดขึ้นเป็นประจำทุกๆ ปี และปีนี้เป็นปีที่ 15โดยจัดขึ้นบนความมุ่งมั่นที่จะเสริมทักษะความรู้และวิธีการขับขี่แบบปลอดภัยให้กับสื่อมวลชนและลูกค้าของเมอร์เซเดส-เบนซ์ เพื่อฝึกฝนให้ผู้ขับขี่สามารถคาดการณ์อันตรายต่างๆ ได้ล่วงหน้า และสามารถหลบเลี่ยงอุบัติเหตุได้อย่างทันท่วงที โดยผู้เข้ารับการอบรมจะได้เรียนรู้และพัฒนาทักษะการขับขี่ ควบคู่ไปกับการใช้ระบบความปลอดภัยใหม่ๆ ของรถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์ ซึ่งบริษัทฯได้เตรียมรถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์ รวม 18รุ่น ครบครันในทุกเซ็กเมนต์ โดยมีไฮไลท์สำคัญที่รถยนต์ตระกูลดรีมคาร์3รุ่น ประกอบด้วยThe new CLS300 dAMG Premiumและสปอร์ตคูเป้ 2 ประตู 4 ที่นั่งอย่าง The E 200 Coupé AMG Dynamicซึ่งเป็นสองรุ่นล่าสุดที่เพิ่งเปิดตัวในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์ โชว์ 2018รวมไปถึงยนตรกรรมที่ผสานความหรูหราโดดเด่นของ S-Class เข้ากับความสปอร์ตเร้าใจของรถยนต์สไตล์ Coupé อย่าง S 500 Cabriolet AMG Premiumโดยทีมผู้ฝึกสอนมืออาชีพ นำทีมโดย นาย ปีเตอร์ แฮ็คเค็ท ที่มีประสบการณ์ด้านการฝึกสอนเทคนิคการขับขี่ปลอดภัยมาแล้วไม่ต่ำกว่า 20 ปี”

นอกจากนี้ บริษัทฯ ได้จัดเตรียมรถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์รุ่นต่างๆ สำหรับการฝึกไว้กว่า 21คัน ไม่ว่าจะเป็น รถยนต์ในกลุ่ม Compact Car อย่าง CLA 250 AMG Dynamic และGLA 250 AMG Dynamicกลุ่ม Contemporary Luxury อย่าง C 350 e AMG Dynamic, E 350 e AMG Dynamic และ S 350 d AMG Premiumกลุ่มDream Car อย่าง C 250 Coupé AMG DynamicและE 300 Cabriolet AMG Dynamicและกลุ่มSUV เช่นGLC 250 d 4MATIC AMG Dynamic และ GLC 250 4MATIC Coupé AMG Plusเป็นต้น รวมถึงกลุ่มรถยนต์สมรรถนะสูงจากแบรนด์Mercedes-AMGอาทิMercedes-AMG SLC 43,Mercedes-AMG C 43 4MATIC Coupe,Mercedes-AMG GLE 43 4MATIC Coupe,Mercedes-AMG CLA 45 4MATIC, Mercedes-AMG A 45 4MATIC และMercedes-AMG GLA 45 4MATICนอกเหนือจากการฝึกทักษะด้านความปลอดภัยแล้ว ทุกท่านยังจะได้สัมผัสถึงสมรรถนะการขับขี่อันดีเยี่ยม ความโฉบเฉี่ยวเร้าใจสไตล์สปอร์ต ที่ถือเป็นเอกลักษณ์ของเมอร์เซเดส-เบนซ์ รวมถึงความสามารถในการตอบสนองที่รวดเร็ว ตอบรับทุกไลฟ์สไตล์การขับขี่ได้เป็นอย่างดีของรถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์ทุกรุ่นอีกด้วย

โดยกิจกรรมฝึกอบรมเทคนิคการขับขี่ปลอดภัย “Mercedes-Benz Driving Events 2018”จัดขึ้นระหว่างวันที่ 2-8 กรกฎาคม2561  โดยแบ่งผู้เข้ารับการอบรมออกเป็นกลุ่มต่างๆ เพื่อเข้าอบรมในแต่ละวัน และดำเนินการฝึกอบรม ในสนามพีระเซอร์กิต พัทยาซึ่งหลักสูตรการฝึกอบรมในครั้งนี้ จะแบ่งการทดสอบออกเป็น3ฐานได้แก่ การขับแบบสลาลม (Slalom) ด้วยความเร็วสูง การเปลี่ยนช่องทางวิ่งแบบกะทันหัน (Land Change) พร้อมเรียนรู้อาการของรถและการควบคุมรถอย่างถูกวิธี การเบรกแบบฉุกเฉิน (Emergency Braking)เมื่อพบเจอสิ่งกีดขวางหรือถูกตัดหน้ารถแบบกะทันหัน พร้อมเรียนรู้ระยะทางการหยุดรถแบบปลอดภัยด้วยระดับความเร็วต่างๆ หรือการหักหลบสิ่งกีดขวางบนถนนเปียกลื่น พร้อมเปรียบเทียบอาการเสียการทรงตัว อาการเข้าโค้งและหลุดโค้ง(Under/Over Steering) เป็นต้น ปิดท้ายด้วยการขับแบบ Hot lap เพื่อให้ทุกท่านได้ทดสอบสมรรถนะรถยนต์ในสนามอย่างเต็มที่อีกด้วย

ผู้เข้ารับการอบรมจะได้รับประสบการณ์จริงจากการฝึกทักษะแต่ละด้านและได้รับทราบถึงประโยชน์ที่จะได้รับจากระบบความปลอดภัยอันก้าวล้ำจากนวัตกรรมด้านความปลอดภัยของเมอร์เซเดส-เบนซ์ ซึ่งถือเป็นหัวใจหลักของแนวคิดในการผลิตรถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์ทุกรุ่น โดยตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ทางทีมวิศวกรของบริษัทฯ ได้ทำการค้นคว้าวิจัยเทคโนโลยี            ความปลอดภัยใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง ที่สามารถเตรียมการป้องกันได้ตั้งแต่ก่อนเกิดเหตุด้วยระบบช่วยเตือนอาการเหนื่อยล้าขณะขับขี่(Attention Assist)ระบบช่วยเบรกแบบแอคทีฟ (Active Brake Assist)ระบบช่วยเบรก (BAS – Brake Assist)ระบบ LED Intelligent light systemส่องสว่างอัจฉริยะ เทคโนโลยีช่วยเหลือในสถานการณ์ฉุกเฉิน ด้วยระบบเบรกป้องกันล้อล็อค(ABS) ช่วยให้การขับขี่มีความปลอดภัยมากขึ้นโดยป้องกันไม่ให้ล้อการเกิดล็อคตัว               ความช่วยเหลือนี้ทำให้ผู้ขับขี่ควบคุมรถยนต์ได้อย่างต่อเนื่องต่อไป เช่น ในระหว่างการขับขี่หลบหลีกสิ่งกีดขวาง หรือเมื่อเบรกบนพื้นผิวถนนที่เปียกลื่น ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี (ASR)ช่วยลดการหมุนฟรีของล้ออย่างเป็นอิสระ เพื่อป้องกันไม่ให้รถยนต์ลื่นไถลเสียการทรงตัว              ระบบ PRE-SAFE®ที่ประสานรวมคุณสมบัติด้านการป้องกันก่อนเกิดเหตุและปกป้องขณะเกิดเหตุเข้าไว้ด้วยกัน ระบบมีความสามารถรับรู้ถึงสถานการณ์ฉุกเฉินล่วงหน้า และสั่งการให้มาตรการป้องกันเบื้องต้นทำงาน เพื่อป้องกันผู้โดยสารที่อยู่ภายในรถในกรณีที่อุบัติเหตุกำลังจะเกิดขึ้น

 

หลังจากเสร็จสิ้นการฝึกทุกฐานแล้ว ผู้ขับขี่จะมีความเข้าใจและสามารถใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีความปลอดภัยอันทันสมัยที่ติดมากับตัวรถได้อย่างเต็มที่ นอกจากนี้ ผู้เข้าร่วมอบรมทุกท่านที่ผ่านการฝึกอบรมฯ จะได้รับประกาศนียบัตรรับรองจากทางบริษัทฯ อีกด้วย