บรรณาธิการ Buzzbiz

บรรณาธิการ Buzzbiz

อดีตผู้สื่อข่าวภูมิภาค เศรษฐกิจ รถยนต์ ที่เดินทางอยู่บนฐานันดอน 4 มานาน นับ30 ปี
อสังหาฯเศรษฐกิจ

ทุ่มกว่า 4หมื่นล้านผุด“ตฤณ นครา”เมดิคัล รีสอร์ทที่เชียงราย

ตฤณ นครา ทุ่มงบ 4หมื่นล้าน นำธงนักลงทุนนานาชาติผุดโปรเจ็คยักษ์ “ตฤณ นครา โกลเด้น ไทรแองเกิ้ล” เนรมิตพื้นที่ กว่า 3,139ไร่ พัฒนาโครงการเขตเศรษฐกิจพิเศษเชียงแสนจ.เชียงราย ภายใต้แนวคิด “เมืองแห่งความสุข”เล็งผุดเมดิคัล รีสอร์ท  พร้อมแลนด์มาร์ก เสาธงชาติไทยสูงที่สุดในโลก นายตฤณ นิลประเสริฐ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ตฤณ อินโนเวชั่น กรุ๊ป จำกัดเปิดเผยว่าเชียงแสนเป็นพื้นที่ที่มีศักยภาพทางยุทธศาสตร์สูงในหลากหลายมิติ จากที่รัฐบาลได้กําหนดให้จังหวัดเชียงรายคือหนึ่งในเขตเศรษฐกิจพิเศษ ระยะที่ 2 ประกอบกับแผนพัฒนาจังหวัดเชียงราย ภายใต้แนวคิด “นวัตกรรมการท่องเที่ยวประเทศไทย 4.0”หรือ Tourism Innovation Thailand 4.0 ที่มุ่งสนับสนุนให้เชียงรายเป็น “เมืองแห่งการค้าการลงทุน การเกษตรและการท่องเที่ยว รุ่งเรืองด้วยวัฒนธรรมล้านนาประชาชนอยู่เย็นเป็นสุข”บริษัทฯ เล็งเห็นถึงโอกาสเพราะการเปิดเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษเชียงแสนเป็นการขยายโอกาสให้เด่นชัดขึ้น เนื่องจากเชียงแสนมีที่ตั้ง ณ จุดยุทธศาสตร์ของแนวรอยต่อพรมแดน3 ประเทศ ทั้งตั้งอยู่ ณ จุดศูนย์กลางของแนวเขตระเบียงเศรษฐกิจอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขงแนวเหนือ-ใต้ (North-South Economic Corridor) ซึ่งมีการพัฒนาโครงการต่างๆโดยเฉพาะอย่างยิ่งการเชื่อมโยงด้านการคมนาคมเพื่อความสะดวกด้านการค้าระหว่างประเทศจากประเทศจีนทางตอนใต้สู่ประเทศไทยผ่านเมียนมา และสปป.ลาวดังนั้น การยกระดับทั้งสามอำเภอของเชียงรายเป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษภาครัฐฯ ก็มีการเตรียมความพร้อมรองรับการขยายตัว(Infrastructure & facilities) ไว้หลายด้านทั้งด้านการคมนาคมเพื่อให้เกิดการเชื่อมต่อด้านการขนส่งนานาชาติในระดับภูมิภาค ด้านสิทธิประโยชน์ในด้านการลงทุน การเงิน และศุลกากร” ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของตฤณ นคราฯ ได้เผยเพิ่มเติมถึงศักยภาพด้านอื่นๆของเชียงแสนว่า “เชียงแสนตั้งอยู่ในแนวรอยต่อดินแดนของ 3 อารยธรรมที่มีการสืบทอดกันมายาวนาน ได้แก่ ประเทศไทย เมียนมา และสปป.ลาวนอกจากนี้ยังมีอารยธรรมชนเผ่าที่หลากหลายที่สุดของภูมิภาคนี้อีกทั้งยังมีธรรมชาติและภูมิประเทศที่สวยงาม มีศิลปวัฒนธรรมและประเพณีอันดีงาม ผู้คนเป็นมิตร อีกทั้งมีแม่นํ้าโขงไหลผ่านอำเภอเชียงแสนแล้ว และเนื่องจากเคยเป็นที่ตั้งของอาณาจักรโยนกซึ่งเป็นยุคแรกของประวัติศาตร์ที่เก่าแก่ที่สุดของไทย เชียงแสนจึงยังมีความโดดเด่นในด้านประวัติศาสตร์ มีมรดกทางโบราณสถานและวัฒนธรรมที่งดงาม ทำให้เชียงแสนวันนี้เป็นเมืองท่องเที่ยวที่ยังบริสุทธิ์ ซึ่งทั้งหมดนี้ทำให้นักลงทุนชาวต่างชาติมองเห็นความโดดเด่นและดึงดูดความสนใจด้านการลงทุน” “ตฤณ นครา โกลเด้น ไทรแองเกิ้ล” ได้รับความสนใจจากนักลงทุนจากหลากหลายประเทศ อาทิ มาเลเซียสิงคโปร์ญี่ปุน ฮ่องกง-จีน สหรัฐอเมริกาเป็นต้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งนักลงทุนในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้(ASEAN)โดยโครงการฯ...
เศรษฐกิจมหาภาค

ยอดขายรถ เดือน พ.ย.โกย 94,643 คัน เพิ่มขึ้น 21.2%

  นายสุรภูมิ อุดมวงศ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด รายงานสถิติการขายรถยนต์ประจำเดือนพฤศจิกายน 2561 มียอดการขายรวมทั้งสิ้น 94,643 คัน  เพิ่มขึ้น 21.2%  ประกอบด้วย รถยนต์นั่ง 35,446 คัน เพิ่มขึ้น 12.8% รถยนต์เพื่อการพาณิชย์ 59,197 คัน เพิ่มขึ้น26.9% ขณะที่ รถกระบะขนาด 1 ตัน ในเซกเมนท์นี้ มีจำนวน 48,612 คัน เพิ่มขึ้น 27.5%            ประเด็นสำคัญ 1) ตลาดรถยนต์เดือนพฤศจิกายนปริมาณการขาย 94,643 คัน เพิ่มขึ้น 21.2% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา โดยตลาดรถยนต์นั่งมีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้น 12.8% และตลาดรถยนต์เพื่อการพาณิชย์มีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้น 26.9% ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากความนิยมในรถยนต์รุ่นใหม่และความต้องการของผู้บริโภคที่เพิ่มขึ้น ตลอดจนกิจกรรมส่งเสริมการขายจากค่ายรถต่างๆที่ยังคงมีอยู่อย่างต่อเนื่อง 2) ตลาดรถยนต์สะสม 11 เดือน มีปริมาณการขาย 928,158 คัน เพิ่มขึ้น 21% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา โดยตลาดรถยนต์นั่งมีปริมาณการขายเติบโตเพิ่มขึ้น 17.9% ตลาดรถยนต์เพื่อการพาณิชย์มีปริมาณการขายเติบโตเพิ่มขึ้น 23% สะท้อนให้เห็นว่ามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลที่มีมาอย่างต่อเนื่องทั้งปี ไม่ว่าจะเป็นในด้านการลงทุนและการใช้จ่ายส่งผลให้ยอดขายสะสมตั้งแต่ต้นปีเติบโตขึ้นอย่างเห็นได้ชัด 3) ตลาดรถยนต์ในเดือนธันวาคม มีแนวโน้มเติบโต เนื่องจากเสถียรภาพทางเศรษฐกิจและการเมืองในประเทศมีสัญญาณดีขึ้น รวมถึงแผนการลงทุนของภาครัฐมีความชัดเจนมากขึ้น ประกอบกับการจัดงานThailand International Motor Expo 2018 ในช่วงต้นเดือนธันวาคม และความต่อเนื่องของกิจกรรมส่งเสริมการขาย ซึ่งจะส่งผลในเชิงบวกต่อตลาดรถยนต์ แต่อย่างไรก็ตามความกังวลต่อสถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างสหรัฐฯกับจีนยังคงมีอยู่ แต่ยังไม่ส่งผลต่อตลาดรถยนต์มากนัก...
ไลฟสไตล์

“เจ.ดี. พาวเวอร์”พบ  “มาสด้า 2 “คว้าคุณภาพรถใหม่ดีสุด

ผลการศึกษาคุณภาพรถใหม่ในประเทศไทย ประจำปี 2561โดย เจ.ดี. พาวเวอร์ (J.D. Power 2018Thailand Initial Quality StudySM (IQS))เปิดเผยในวันนี้ว่า ขณะที่จำนวนปัญหาที่เกิดขึ้นต่อรถยนต์100คัน(PP100)ลดลงเกือบทุกกลุ่มประเภทรถยนต์ เจ้าของรถยนต์ในประเทศไทยกลับพบปัญหาเกี่ยวกับการออกแบบที่เพิ่มขึ้น เช่น ปัญหาที่เกิดขึ้นกับเครื่องเสียง, ระบบสื่อสาร, ระบบความบันเทิงและระบบนำทาง(ACEN) ผลการศึกษาพบว่าจำนวนปัญหาที่เกิดขึ้นต่อรถยนต์100คัน(PP100)ลดลงมาที่70 PP100ในปี2561จาก83 PP100ในปี2560ซึ่งพบว่าคุณภาพรถยนต์ใหม่ถูกปรับปรุงขึ้นอย่างมากด้านภายนอกตัวรถและด้านเครื่องยนต์และระบบเกียร์ เป็นที่น่าสังเกตว่าปัญหาคุณภาพที่เกิดจากความผิดพลาดในการผลิตลดน้อยลงมาอยู่ที่ 44%จากปัญหาที่ถูกรายงานทั้งหมดในปี2561เทียบกับ61%ในปีก่อนปัญหาทั้งหมดได้ถูกนำมาสรุปผลเป็นจำนวนปัญหาที่พบต่อรถยนต์ใหม่100คัน(ในที่นี้เรียกว่าPP100)โดยรถยนต์รุ่นใดที่ได้คะแนนPP100ต่ำกว่าแสดงว่ารถยนต์รุ่นนั้นเกิดปัญหาน้อยกว่าหรืออีกนัยหนึ่งคือ รถรุ่นนั้นมีคุณภาพที่สูงกว่า ผลการศึกษายังพบอีกว่า 51% ของปัญหาทั้งหมดที่เจ้าของรถยนต์ใหม่ประสบเป็นปัญหาเกี่ยวกับการออกแบบเทียบกับ ปี2560  ซึ่งพบเพียง 18 %   ปัญหาการออกแบบที่พบมากในปีนี้เกี่ยวข้องกับความยากในการใช้งาน ได้แก่ คลื่นวิทยุไม่ชัดหรือไม่มีคลื่น, ที่วางแก้วใช้งานยาก, แอร์ไม่เย็น หรือไม่สามารถคงระดับอุณหภูมิที่ต้องการได้ และเบรกมีเสียงดัง “ระดับปัญหาคุณภาพที่เกิดจากการผลิตลดต่ำลง รวมถึงคุณภาพในการผลิตของผู้ผลิตรถยนต์มีความแตกต่างกันน้อยลงเป็นผลมาจากผู้ผลิตรถยนต์มุ่งมั่นในการพัฒนาคุณภาพการผลิตรถยนต์อย่างต่อเนื่องแม้คุณภาพในการผลิตจะเพิ่มขึ้นอย่างมากแล้วยังมีโอกาสที่ผู้ผลิตรถยนต์จะสามารถปรับปรุงคุณภาพรถยนต์ให้ดีมากยิ่งขึ้นได้ด้วยการปรับปรุงคุณภาพในการออกแบบรถยนต์โดยเฉพาะการออกแบบปุ่มควบคุมและอุปกรณ์แสดงผลต่างๆ ที่มีความล้ำสมัย ให้สามารถเข้าใจและใช้งานได้ง่ายขึ้น”ศิรส สาตราภัย ผู้อำนวยการระดับภูมิภาค เจ.ดี. พาวเวอร์ ประจำประเทศไทยกล่าว“พนักงานของผู้จำหน่ายมีบทบาทสำคัญในการให้ความรู้แก่ลูกค้าเกี่ยวกับอุปกรณ์ต่างๆ ที่มีความซับซ้อนมากขึ้นด้วยการอธิบายและสาธิตการใช้งานอย่างละเอียดและครบถ้วนในระหว่างส่งมอบรถยนต์” ผลการจัดลำดับจากการศึกษาวิจัย โตโยต้า ยาริส เอทีฟได้รับอันดับสูงสุดในกลุ่มรถยนต์ขนาดเล็ก(62 PP100) มาสด้า 2 ได้รับอันดับสูงสุดในกลุ่มรถยนต์ขนาดกลางระดับต้น(53 PP100) ฮอนด้าซีวิค ได้รับอันดับสูงสุดในกลุ่มรถยนต์ขนาดกลาง(54 PP100) มิตซูบิชิปาเจโรสปอร์ต ได้รับอันดับสูงสุดในกลุ่มรถยนต์อเนกประสงค์สมรรถนะสูงขนาดใหญ่(63 PP100) เชฟโรเลตโคโลราโดเอ็กซ์-แคป ได้รับอันดับสูงสุดในกลุ่มรถกระบะตอนขยาย(68 PP100) ฟอร์ดเรนเจอร์ไฮ-ไรเดอร์ดี-แคป และโตโยต้าไฮลักซ์รีโว่ดี-แคป ได้รับอันดับสูงสุดในกลุ่มรถกระบะ4ประตู(63 PP100) การศึกษาในครั้งนี้เป็นการศึกษาเกี่ยวกับ 2 กลุ่มปัญหาหลักที่เจ้าของรถยนต์ใหม่ประสบในช่วง 2-6 เดือนแรกของการเป็นเจ้าของได้แก่ กลุ่มปัญหาด้านการออกแบบ และกลุ่มปัญหาที่เกิดจากความผิดพลาดในการผลิต การศึกษานี้ได้เจาะถามถึงปัญหาต่างๆ ซึ่งครอบคลุมทั้งหมด 8หมวดหมู่ได้แก่ปัญหาภายนอกรถยนต์;ปัญหาจากประสบการณ์การขับขี่; ปัญหาจากอุปกรณ์, ปุ่มควบคุมและจอแสดงผล;ปัญหาเครื่องเสียง,ระบบสื่อสาร,ระบบความบันเทิงและระบบนำทาง; ปัญหาจากเบาะที่นั่ง; ปัญหาจากระบบทำความร้อน,ระบบระบายอากาศ,ระบบความเย็น;ปัญหาภายในห้องโดยสาร และปัญหาเครื่องยนต์/ ระบบเกียร์ ผลการศึกษาคุณภาพรถใหม่ในประเทศไทย(IQS)ประจำปี2561ได้จากการประเมินคำตอบของเจ้าของรถยนต์คันใหม่5,106รายที่ซื้อรถยนต์ในช่วงเดือนกันยายน2560ถึงเดือนกันยายน2561ซึ่งเป็นเจ้าของรถยนต์นั่งส่วนบุคคล, รถกระบะและรถยนต์อเนกประสงค์จำนวน74รุ่นจากทั้งหมด13ยี่ห้อโดยมีการเก็บรวบรวมข้อมูลภาคสนามในช่วงเดือนมีนาคมถึงเดือนพฤศจิกายน2561  ...
เศรษฐกิจ

พ.ย.ผลิตรถขายในประเทศ เพิ่มกว่า  21 % แต่ส่งออกวูบ 9 %

นายสุรพงษ์  ไพสิฐพัฒนพงษ์  รองประธานและโฆษกกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า  จำนวนรถยนต์ทั้งหมดที่ผลิตได้ในเดือนพฤศจิกายน 2561 มีทั้งสิ้น 197,020 คัน เพิ่มขึ้น 3.49 %  เนื่องจากการผลิตรถยนต์นั่งและรถกระบะเพื่อจำหน่ายในประเทศ โดยมีความต้องการจากการแนะนำรถยนต์รุ่นใหม่และรองรับยอดจองรถยนต์ในงานมหกรรมยานยนต์เดือนธันวาคม จำนวนรถยนต์ที่ผลิตได้ในเดือนมกราคม - พฤศจิกายน 2561 มีจำนวนทั้งสิ้น 1,998,339 คัน เพิ่มขึ้น 9.1%แบ่งออกเป๋นรถยนต์นั่ง 817,158 คัน เท่ากับ 40.89 % ของยอดการผลิตทั้งหมด เพิ่มขึ้น 7.23 %               รถยนต์โดยสารขนาดต่ำกว่า 10 ตัน และมากกว่า 10 ตัน ขึ้นไป ผลิตได้ 495 คัน เพิ่มขึ้น 94.88 % รถกระบะขนาด 1 ตัน ผลิตได้ทั้งสิ้น 1,151,188 คัน เท่ากับ 57.6 %           ของยอดการผลิตทั้งหมด เพิ่มขึ้น 10.67  %                รถบรรทุกขนาดต่ำกว่า 5 ตัน - มากกว่า 10 ตัน ผลิตได้ 29,498 คัน เพิ่มขึ้น 1.42 % การส่งออก รถยนต์สำเร็จรูป เดือนพฤศจิกายน 2561 ส่งออกได้ 93,108 คัน ลดลง 9.64  % ลดลงจากเศรษฐกิจของประเทศคู่ค้าชะลอตัวที่ตลาดตะวันออกกลาง ตลาดออสเตรเลียและโอเชียเนียยังมีปัญหาเรื่องภาษี ตลาดอเมริกาเหนือยังคงลดลง และตลาดยุโรปที่ประเทศไทยถูกตัด GSP มูลค่าการส่งออก 48,092.72...
Uncategorized

มิตซูบิชิ อีคลิปส์ ครอส คว้ารางวัลรถยนต์ยอดเยี่ยมที่ญี่ปุ่น

มิตซูบิชิ อีคลิปส์ ครอส ได้รับการเสนอชื่อเป็น"รถยนต์ยอดเยี่ยมแห่งปี2562"จากการลงมติในที่ประชุมของสมาคมนักวิจัยและสื่อมวลชนสายยานยนต์ประเทศญี่ปุ่นหรือRJC โดยรางวัลรถยนต์ยอดเยี่ยมแห่งปีอันทรงเกียรตินี้ ได้รับการคัดเลือกจากผู้เชี่ยวชาญของสถาบันนักวิจัยและสื่อมวลชนสายยานยนต์ประเทศญี่ปุ่น โดยผู้ชนะเลิศจะถูกคัดเลือกจากรถยนต์รุ่นต่างๆที่เปิดตัวภายในประเทศญี่ปุ่นระหว่างวันที่ 1 พฤศจิกายน 2560 ถึงวันที่ 31 ตุลาคม 2561 ทั้งนี้คณะกรรมการจะทำการคัดเลือกรถยนต์ที่ดีที่สุด6 รุ่น เพื่อเข้าสู่รอบสุดท้ายก่อนที่จะลงมติเพื่อตัดสินเลือกรถยนต์ที่ดีที่สุดเพียงหนึ่งรุ่นที่จะได้รับรางวัลรถยนต์ยอดเยี่ยมแห่งปี 2562 โดยปีนี้ถือเป็นครั้งแรกที่มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ได้รับรางวัลรถยนต์ยอดเยี่ยมแห่งปีจากสถาบันนักวิจัยและสื่อมวลชนสายยานยนต์ประเทศญี่ปุ่น นับตั้งแต่ปี 2550 ที่มิตซูบิชิไอเคคาร์เคยได้รับรางวัลมาก่อนหน้านี้ทั้งนี้การประกวดเพื่อคัดเลือกรถยนต์ยอดเยี่ยมในแต่ละปีถือเป็นเรื่องที่ยากเสมอเพราะบริษัทผู้ผลิตยานยนต์สัญชาติญี่ปุ่นต่างเป็นผู้นำในด้านเทคโนโลยียานยนต์และคุณภาพทั้งสิ้น หลังจากที่ได้คัดเลือกผู้ชนะเลิศแล้วคณะกรรมการฯกล่าวว่า "มิตซูบิชิอีคลิปส์ครอสเป็นรถอเนกประสงค์ขนาดกะทัดรัดที่มีรูปลักษณ์โดดเด่นและมีสมรรถนะที่ยอดเยี่ยมด้วยเทคโนโลยีระบบขับเคลื่อนสี่ล้อแบบSuper All-Wheel Control (S-AWC) มาพร้อมกับสมรรถนะการขับขี่ที่ผสานกันอย่างลงตัวด้วยเครื่องยนต์เบนซินเทอร์โบใหม่ขนาด 1.5 ลิตรและระบบเกียร์อัตโนมัติแบบCVT 8 สปีด" รายชื่อรถยนต์ที่สามารถผ่านเข้าสู่รอบสุดท้ายของการประกวด รถยอดเยี่ยมแห่งปี 2562 สถาบันนักวิจัยและสื่อมวลชนสายยานยนต์ประเทศญี่ปุ่นเรียงตามตัวอักษร: ฮอนด้า ซีอาร์-วี ฮอนด้า คลาริตี้ ไฮบริด มาสด้า ซีเอ๊กซ์8 มิตซูบิชิ อีคลิปส์ ครอส นิสสัน เซเรนาอี-พาวเวอร์ ซูบารุ ฟอเรสเตอร์ ทั้งนี้มิตซูบิชิมอเตอร์สเคยคว้ารางวัลจากทางสถาบันฯมาก่อนหน้านี้ได้แก่มิตซูบิชิไอ “รางวัลรถยนต์ยอดเยี่ยมแห่งปี 2550” มิตซูบิชิแลนเซอร์อิโวลูชัน 10 “รางวัลรถยนตร์สมรรถณะสูงพิเศษและรถสปอร์ตยอดเยี่ยมแห่งปี 2552” และระบบปลั๊ก-อินไฮบริด “รางวัลเทคโนโลยียอดเยี่ยมแห่งปี 2557”...
กิจกรรม & CSR

โตโยต้าฯ มอบทุนการศึกษากว่า 1.4 ล้านบาท ในภาคเหนือ

นายประมนต์ สุธีวงศ์ ประธานมูลนิธิโตโยต้าประเทศไทย พร้อมด้วย รศ.ดร. วันชัย ศิริชนะ อธิการบดีมหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง ดร.วิลาวัณย์ จำปาแก้ว ผู้อำนวยการโครงการเยาวชนไทยวันพรุ่งนี้ ร่วมเป็นประธานในพิธีมอบทุนการศึกษาประจำปี 2561 จำนวน 250 ทุน รวมมูลค่า 1,430,000 บาท เพื่อสร้างโอกาสทางการศึกษาและพัฒนาคุณภาพชีวิต แก่นักเรียนและนักศึกษาที่ขาดแคลนทุนทรัพย์ในภาคเหนือ โดยได้รับเกียรติจากคณะกรรมการมูลนิธิโตโยต้าฯ ร่วมเป็นสักขีพยาน เมื่อวันศุกร์ที่ 14 ธันวาคม พ.ศ. 2561 ณ หอประชุมสมเด็จย่า อาคาร C4 มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง จ.เชียงราย มูลนิธิโตโยต้าประเทศไทย ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2535 มีวัตถุประสงค์เพื่อสนับสนุนการดำเนินงานขององค์กรสาธารณกุศล ทั้งภาครัฐและเอกชนอย่างต่อเนื่อง ด้วยการมอบทุนสนับสนุนเป็นประจำทุกปี โดยมุ่งเน้นในการส่งเสริมสังคมอย่างยั่งยืนผ่าน 3 แนวทาง ได้แก่ ส่งเสริมการศึกษาแก่เด็กและเยาวชนที่อยู่ห่างไกล รวมถึงสนับสนุนการศึกษาทุกระดับชั้น ทั้งทางด้านประวัติศาสตร์ ศิลปวัฒนธรรม และความเข้าใจเกี่ยวกับประเทศเพื่อนบ้าน พัฒนาคุณภาพชีวิตของเด็ก เยาวชน และคนพิการ รวมถึงส่งเสริมการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ส่งเสริมการดำเนินการขององค์กรสาธารณกุศลต่างๆ เพื่อสาธารณประโยชน์ การมอบทุนการศึกษาแก่นักเรียนและนักศึกษาภาคเหนือ เป็นการแบ่งปันโอกาสทางการศึกษา เพื่อให้ผู้ที่รับโอกาสพัฒนาไปเป็นผู้ให้ นำความรู้ที่ได้ไปพัฒนาประเทศ ส่งต่อแก่ผู้ที่ขาดแคลนโอกาส ซึ่งโครงการนี้ได้ดำเนินงานมาอย่างต่อเนื่องเป็นระยะเวลา 21 ปี ตั้งแต่ พ.ศ. 2540 ผ่านความร่วมมือกับมหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวงโดยมีนักเรียนและนักศึกษาได้รับทุนรวมแล้วจำนวนทั้งสิ้น 9,634 ทุน การมอบทุนการศึกษาประจำปี พ.ศ. 2561 มีนักเรียนและนักศึกษาจากภาคเหนือเข้ารับจำนวนทั้งสิ้น 250 ทุน มูลค่ากว่า 1,430,000 บาท โดยมีรายละเอียด ดังนี้ ทุนการศึกษาระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น จำนวน 108 ทุน ทุนละ 5,000 บาท ทุนการศึกษาระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย จำนวน...
มอเตอร์สปอร์ต

“PTTOR” ผนึก “สนามช้างฯ” ระเบิดศึกดริฟต์นานาชาติ 22-23 ธ.ค.นี้

บมจ.ปตท.น้ำมันและค้าปลีก หรือ PTTOR จับมือ สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนลเซอร์กิต จ.บุรีรัมย์ ระเบิดความมันส์ส่งท้ายปี จัดการแข่งขันดริฟต์นานาชาติรายการ “พีทีที สเตชั่น บีอาร์ไอซี ดริฟต์แอ็ทแท็ค2018” โดยล่าสุดขุนพลนักดริฟต์ชั้นนำทั่วเอเชีย และยอดนักดริฟต์ชาวไทยกว่า 50 คน พร้อมดวลลีลาล่าแชมป์ส่งท้ายปีในวันที่ 22-23 ธ.ค.นี้ เพื่อตัดสินตำแหน่งดริฟต์ก๊อดประจำปีนี้ การแข่งขัน “พีทีที สเตชั่น บีอาร์ไอซี ดริฟต์แอ็ทแท็ค2018” จัดขึ้นต่อเนื่องเป็นปีที่ 4 มีคิวดวลลีลากันในสนามสุดท้ายของปีเพื่อตัดสินแชมป์หาดริฟต์ก๊อดของไทยในระหว่างวันเสาร์-อาทิตย์ที่ 22-23 ธันวาคมนี้ ที่ ดริฟต์แทร็ก สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนลเซอร์กิตจ.บุรีรัมย์ ซึ่งถือเป็นหนึ่งในสนามดริฟต์ที่สวยงามและครบครันที่สุดแห่งหนึ่งของเอเชีย ภายใต้การตัดสินของกรรมการที่เป็นนักดริฟต์อันดับต้นๆของโลกอย่าง โนมูระ เคน ยอดนักดริฟต์ชาวญี่ปุ่น และ เจคโจนส์ดริฟต์ก๊อดชาวออสเตรเลียน โดยแข่งขันทั้งสิ้น 4 คลาส ได้แก่ คลาส ซี ซึ่งเป็นนักแข่งหน้าใหม่ ก้าวแรกของนักดริฟต์เมืองไทย, คลาส บี ที่ถือเป็นลานประลองความสามารถของนักดริฟต์ ที่จะพัฒนาสู่นักดริฟต์ระดับประเทศ ก่อนจะมาพบความมันส์ในคลาส เอ ซึ่งเป็นคลาสสูงสุดของนักดริฟต์ นายตนัยศิริ ชาญวิทยารมณ์ กรรมการผู้อำนวยการ สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนลเซอร์กิต เปิดเผยว่า “ดริฟต์คือหนึ่งในการแข่งขันมอเตอร์สปอร์ตที่มีแฟนๆ ชาวไทยติดตามอย่างมากและสนามช้างฯเองก็ให้ความสำคัญกับกีฬามอเตอร์สปอร์ตทุกประเภท ซึ่ง ดริฟต์แทร็ก ของเราก็สร้างตามมาตรฐานโลก เพื่อให้วงการดริฟต์และนักดริฟต์ของไทยนั้นสามารถใช้เป็นสังเวียนในการยกระดับไปต่อสู้กับการแข่งขันในระดับโลก” “ในปี 2018 ถือเป็นอีกครั้งที่เราจะได้เห็นการฟาดฟันของนักดริฟต์ไทยและนักดริฟต์ชั้นนำทั่วเอเชีย ซึ่งถือเป็นกำไรของแฟนๆ ชาวไทยที่จะได้เห็นยอดฝีมือกว่า 50 คน สุดยอดรถแข่งดริฟต์กว่า 50 คัน มาอยู่ในสนามเดียวกันที่บุรีรัมย์ โดย สนามช้าง และผู้สนับสนุนอย่าง PTTOR เชื่อว่าจะเป็นของขวัญส่งท้ายปีที่เร้าใจให้แก่แฟนๆ ความเร็วชาวไทยได้อย่างแน่นอน” ล่าสุดฝ่ายจัดการแข่งขันเปิดเผยรายชื่อนักดริฟต์ที่เข้าร่วมการแข่งขันกว่า 50 คน ที่จะเข้าร่วมดวลลีลาเพื่อชิงความเป็นดริฟต์ก๊อดแห่งปี...
กิจกรรม & CSR

“อีซูซุไทยแลนด์มาสเตอร์ 2018”อวดวงสวิง หน้าภูเขามังกรหยก ที่ประเทศจีน

อีซูซุจัดทริปเอาใจแชมป์ออฟเดอะแชมป์ “อีซูซุไทยแลนด์มาสเตอร์ 2018” พาเหินฟ้าสู่ประเทศจีน สวิงก้านเหล็ก กับรางวัลพิเศษแพ็คเกจตีกอล์ฟในสนามระดับเวิลด์คลาสสูงเสียดฟ้า ณ เจดดราก้อน สโนว์เมาน์เทน กอล์ฟคลับ (Jade Dragon Snow Mountain Golf Club) พร้อมสัมผัสสถานที่ท่องเที่ยวอันเลื่องชื่อ ท่ามกลางกลิ่นอายของวัฒนธรรมย่านเมืองเก่า และร่วมพิชิตภูเขาหิมะมังกรหยก ที่สูงเหนือระดับน้ำทะเลกว่า 5,596 เมตร ณ เมืองลี่เจียง ประเทศจีน นายโทชิอากิ มาเอคาวะ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ตรีเพชรอีซูซุเซลส์ จำกัด กล่าวว่า “อีซูซุได้นำนักกอล์ฟผู้ชนะเลิศและรองชนะเลิศจากการแข่งขัน Isuzu Thailand Master 2018 ทั้ง 3 ประเภท ทั้งประเภทบุคคลทั่วไป ประเภทลูกค้ารายใหญ่ และผู้แทนสื่อมวลชนไปร่วมกอล์ฟทัวร์นาเม้นท์พิเศษ ณ สนามเจดดราก้อน สโนว์เมาน์เทน กอล์ฟคลับ เมืองลี่เจียง ประเทศจีน ซึ่งอีซูซุได้เลือกเป็นรางวัลสำหรับผู้ชนะเลิศในปีนี้ ด้วยเอกลักษณ์อันโดดเด่นจนได้รับการบันทึกลงในกินเนสบุ๊กออฟเวิลด์เรคคอร์ดว่าเป็นสนามกอล์ฟพาร์ 72 จำนวน 18 หลุมที่มีแฟร์เวย์ยาวที่สุดในโลก พาร์ 5 หลุมที่ 5 มีความยาวถึง 711 หลา รวมทั้งเป็นสนามที่มีความสูงกว่าระดับน้ำทะเลถึง 10,000 ฟุต หรือ 3,100 เมตร นอกจากนี้อีซูซุยังได้จัดโปรแกรมการท่องเที่ยวสุดเอ็กซ์คลูซีฟอีกด้วย” ก้าวแรกในเมืองลี่เจียง ประเทศจีน อีซูซุจัดทริปสุดเอ็กซ์คลูซีฟเพื่อปรับสมดุลในร่างกายให้กับนักกอล์ฟ ด้วยการนั่งเคเบิ้ลคาร์ขึ้นไปชมความงดงามของภูเขาหิมะมังกรหยก (Jade Dragon Snow Mountain) ที่ปกคลุมด้วยหิมะตลอดทั้งปี และมีความสูงเหนือระดับน้ำทะเลกว่า 5,596 เมตร ด้วยอุณหภูมิต่ำเพียง -7 องศา นักกอล์ฟต่างตื่นตากับภูเขาหิมะเรียงรายดุจมังกรที่อยู่ตรงหน้า พร้อมทางเดินที่จัดไว้ให้นักท่องเที่ยวได้ขึ้นพิชิตยอดภูเขา นับเป็นภาพความงดงามดุจสวรรค์และความทรงจำที่สุดแสนประทับใจ จากนั้นสร้างความอบอุ่นด้วยชาบูหม้อไฟสไตล์จีนกับเนื้อจามรีแท้ๆ ณ ภัตตาคารตมปา...
รถจักรยานยนต์

เอ.พี.ฮอนด้า แรงสุด! กวาดยอดจองอันดับ 1 ในงาน “มอเตอร์เอ็กซ์โป 2018”

ตลาดรถจักรยานยนต์คึกคักรับฤดูกาลขายปลายปี “เอ.พี.ฮอนด้า” โชว์ศักยภาพของผู้นำตลาดรถจักรยานยนต์ ในงานมอเตอร์เอ็กซ์โป 2018 กวาดยอดจองเป็นอันดับหนึ่ง 1,558 คัน เพิ่มขึ้น 210% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว แบ่งเป็นกลุ่มบิ๊กไบค์ 707 คัน ตอบรับกระแส CB650R และ CBR650R ใหม่ แรงต่อเนื่อง นายสุชาติ อรุณแสงโรจน์ รองประธานกรรมการบริหาร บริษัท เอ.พี. ฮอนด้า จำกัด ผู้นำตลาดรถจักรยานยนต์อันดับ1 ในเมืองไทย เปิดเผยว่า มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 35 (The 35th Thailand International Motor Expo) หรือ “มอเตอร์เอ็กซ์โป 2018” ที่ปิดฉากไปวันที่ 10 ธันวาคมที่ผ่านมา บรรยากาศโดยรวมคึกคักด้วยจำนวนผู้เข้าชมตลอดงานกว่า 1.5 ล้านคน เพิ่มขึ้น 12.8% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว เช่นเดียวกับบูธของ เอ.พี. ฮอนด้า ที่ได้รับความสนใจอย่างล้นหลาม พร้อมครองแชมป์ยอดจองสูงสุดในกลุ่มรถจักรยานยนต์ที่ 1,558 คัน จากยอดรวมทั้งหมด 9,169 คัน “จากกระแสความนิยมในรถรุ่นใหม่ที่บริษัทนำมาเปิดตัวในงานนี้ ทั้งกลุ่มบิ๊กไบค์ และรถรุ่นพิเศษจาก CUB House รวมถึงไฮไลท์อย่างรถตระกูล 500 โฉมใหม่ (All New 500 Series) และตระกูล 650 ใหม่ (New 650 Series) ที่นำมาให้คนไทยได้ใช้เป็นประเทศแรกของโลก พร้อมมอบข้อเสนอสุดพิเศษแห่งปี ส่งผลให้ยอดจองภายในงานของรถจักรยานยนต์ฮอนด้าสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ด้วยจำนวน 1,558 คัน เพิ่มขึ้น 210% เมื่อเทียบกับการออกงานในปีที่แล้ว” โดยไฮไลท์สำคัญอย่าง ฮอนด้า...
รถยนต์ต่างประเทศ

เมอร์เซเดส-เบนซ์มียอดไลก์ในอินสตาแกรมแล้วถึง 1 พันล้านไลก์

เมอร์เซเดส-เบนซ์เป็นแบรนด์ที่มียอดไลก์สูงที่สุดในอินสตาแกรมจากการสำรวจ “อินเตอร์แบรนด์ เบสท์ โกลบอล แบรนด์ส 2018 (Interbrand Best Global Brands 2018)” โดยบัญชีอินสตาแกรมทางการของเมอร์เซเดส-เบนซ์ทุกช่องทางมีผู้ติดตามรวมกันกว่า  35 ล้านคนทั่วโลก เมอร์เซเดส-เบนซ์สร้างปรากฏการณ์แห่งความสำเร็จครั้งสำคัญในอินสตาแกรม จากการสำรวจ “อินเตอร์แบรนด์ เบสท์ โกลบอล แบรนด์ส 2018” ครั้งล่าสุดที่จัดทำโดย ที4 มีเดีย (T4 Media) บริษัทวิเคราะห์ข้อมูลดิจิทัลชื่อดัง ซึ่งผลการสำรวจที่เผยแพร่ผ่านทางเว็บไซต์ https://t4media.de/onebillionlikes/ เปิดเผยว่า เมอร์เซเดส-เบนซ์เป็นแบรนด์ที่มียอดไลก์ในอินสตาแกรมอย่างเป็นทางการสูงถึง 1 พันล้านไลก์ และเป็นแบรนด์แรกที่สามารถทำสถิตินี้ได้ในบรรดาแบรนด์ระดับโลกที่ดีที่สุดแห่งปี 2018 (Best Global Brands 2018) ตามการจัดอันดับของอินเตอร์แบรนด์ ที่เป็นบริษัทที่ปรึกษาด้านแบรนด์ชั้นนำของสหรัฐฯ ซึ่งในโอกาสพิเศษนี้ เมอร์เซเดส-เบนซ์จึงจัดนิทรรศการแสดงภาพถ่ายที่พิพิธภัณฑ์เมอร์เซเดส-เบนซ์ เมืองชตุทท์การ์ท เพื่อนำเสนอเรื่องราวที่น่าสนใจต่างๆ ในสื่อออนไลน์ของบริษัทฯ และเป็นการแสดงความขอบคุณต่อลูกค้า เมอร์เซเดส-เบนซ์ได้ตั้งบัญชีอินสตาแกรมทางการขึ้นตั้งแต่ปี 2012 ซึ่งการวิเคราะห์ข้อมูลชี้ให้เห็นว่าบัญชี @mercedesbenz มียอดการกดไลก์โดยเฉลี่ย 27.6 ล้านครั้งต่อเดือน และในปัจจุบันมีผู้ติดตามรวมกันถึง 35.66 ล้านคนทั่วโลก ในโอกาสนี้ เมอร์เซเดส-เบนซ์จึงได้แสดงความขอบคุณต่อลูกค้าและผู้ติดตามที่มีส่วนช่วยให้เมอร์เซเดส-เบนซ์ก้าวไปถึงความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่นี้ ด้วยการเปิดเว็บไซต์ http://mb4.me/one-billion-likes ที่ตั้งขึ้นเพื่อกิจกรรมนี้โดยเฉพาะ โดยในเว็บไซต์ได้จัดแสดงภาพถ่ายจากแฟนๆ ทั่วโลกที่แสดงให้เห็นถึงความรักที่มีต่อแบรนด์เมอร์เซเดส-เบนซ์ รวมถึงการนำเสนอเนื้อหาที่มีความแปลกใหม่ และสนุกสนาน ซึ่งได้รับความสนใจเป็นอย่างมากจากผู้ติดตาม เช่น ภาพของหญิงชราสุดเท่ที่ขับรถยนต์สมรรถนะสูงของเมอร์เซเดส-เอเอ็มจี การอวยพรที่ไม่เหมือนใครในวันครบรอบของบีเอ็มดับเบิลยูจากเมอร์เซเดส-เบนซ์ รวมไปถึงภาพถ่ายที่มีสุนัขเป็นองค์ประกอบด้วย ผู้มาเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์เมอร์เซเดส-เบนซ์ ในเมืองชตุทท์การ์ท ระหว่างวันที่ 5 - 31 มกราคม 2019 จะมีโอกาสเข้าชมนิทรรศการพิเศษที่รวบรวมโพสต์ที่โดดเด่นที่สุดประมาณ 20 โพสต์จากบัญชีอินสตาแกรมของเมอร์เซเดส-เบนซ์ รวมถึงได้สัมผัสรถยนต์และรถยนต์ต้นแบบ 2 คันที่ผู้ติดตามบัญชีอินสตาแกรมของเมอร์เซเดส-เบนซ์ชื่นชอบมากที่สุด อย่างรถยนต์ต้นแบบรุ่นวิชั่น เมอร์เซเดส-มายบัค 6 คาบริโอเลต์ (Vision...
1 263 264 265 266 267 288
Page 265 of 288