
นายโนริอากิ ยามาชิตะ กรรมการผู้จัดการใหญ่บริษัทโตโยต้ามอเตอร์ประเทศไทยจำกัดแถลงสถิติการจำหน่ายรถยนต์ปี 2563พร้อมคาดการณ์ตลาดรถยนต์ไทยปี2564เมื่อวันที่25มกราคม 2564ผ่านช่องทางออนไลน์
นายยามาชิตะกล่าวว่า“ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมามาตรการจากทางภาครัฐประสบผลสำเร็จเป็นอย่างดีในการจัดการสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ที่ส่งผลกระทบต่อพวกเราทุกคนทำให้เราเชื่อมั่นว่าสถานการณ์กำลังจะคลี่คลายไปในทางที่ดีขึ้นและคาดว่าอนาคตอันสดใสกำลังจะเริ่มขึ้นนับตั้งแต่นี้เป็นต้นไปถึงแม้ว่าสถานการณ์การระบาดจะกลับมาอีกครั้งก็ตามทั้งนี้บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัดจะอยู่เคียงข้างคนไทยเสมอพร้อมต่อสู้ไปด้วยกันจนกว่าสถานการณ์การระบาดของโรคโควิด-19ครั้งนี้จะสิ้นสุดลง และหวังว่าคนไทยทุกคนจะปลอดภัยและรักษาสุขภาพให้แข็งแรงอยู่เสมอ”
นายยามาชิตะกล่าวต่อไปว่า“สำหรับยอดขายรถยนต์รวมในประเทศไทยปี 2563ที่ผ่านมา อุตสาหกรรมยานยนต์ในประเทศได้รับผลกระทบอย่างมากจากสถานการณ์การระบาดของโรคโควิด-19 ส่งผลให้ยอดขายลดลง 21.4% โดยมียอดขายอยู่ที่792,146คัน”
| สถิติการขายรถยนต์ในประเทศปี 2563 | ยอดขายปี2563 | เปลี่ยนแปลง
เทียบกับปี 2562 |
| ปริมาณการขายรวม | 792,146คัน | -21.4% |
| รถยนต์นั่ง | 274,789คัน | -31.0% |
| รถเพื่อการพาณิชย์ | 517,357คัน | -15.1% |
| รถกระบะ 1 ตัน(รวมรถกระบะดัดแปลง) | 409,463คัน | -16.8% |
| รถกระบะ 1 ตัน(ไม่รวมรถกระบะดัดแปลง) | 364,887คัน | -15.5% |
สำหรับแนวโน้มตลาดรถยนต์ของปี 2564มร.ยามาชิตะคาดการณ์ว่า“ในปีนี้จะเป็นปีที่ท้าทายอีกครั้งสำหรับอุตสาหกรรมยานยนต์ของประเทศไทย เนื่องจากยังคงต้องเผชิญกับหลายปัจจัยจากสถานการณ์การระบาดของโรคโควิด-19 การพัฒนาวัคซีนและการเข้าถึงวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19รวมถึงแนวโน้มสภาวะเศรษฐกิจทั่วโลก และมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจากภาครัฐทั้งหมดนี้จะส่งผลต่อทิศทางอุตสาหกรรมยานยนต์ นอกจากนี้ความเคลื่อนไหวต่างๆในภาคอุตสาหกรรมยานยนต์ เช่นการออกผลิตภัณฑ์ใหม่ กิจกรรมทางการตลาดและกิจกรรมส่งเสริมการขายต่างๆจะมีบทบาทสำคัญต่อการกระตุ้นยอดขายรถยนต์ ดังนั้น เมื่อพิจารณาปัจจัยต่างๆเหล่านี้แล้วจึงคาดการณ์ว่ายอดขายรถยนต์ในปี2564จะอยู่ที่ประมาณ850,000 – 900,000 คันเพิ่มขึ้น 7-14% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา”
นาย.ยามาชิตะกล่าวถึงยอดขายของโตโยต้าในปีที่ผ่านมาว่า“สำหรับยอดขายโตโยต้าในปี 2563ยอดขายรวมของโตโยต้าลดลง26.5%หรือคิดเป็นจำนวน244,316คันอย่างไรก็ตามแม้ว่าบริษัทฯ จะเผชิญกับความยากลำบากมากมายในปีที่ผ่านมาแต่ยังมีส่วนแบ่งทางการตลาดเป็นอันดับ1หรือเท่ากับ30.8%ของยอดขายรถยนต์ทั้งหมดเนื่องจากมีการแนะนำรถยนต์รุ่นใหม่ๆอย่าง โคโรลล่าครอสยาริสเอทีฟฟอร์จูนเนอร์เลเจนเดอร์ ไฮลักซ์รีโว่และอินโนว่าคริสต้าทั้งหมดนี้ได้รับเสียงตอบรับเป็นอย่างดีจากลูกค้า และส่งผลให้โตโยต้าสามารถรักษาส่วนแบ่งทางการตลาดได้”
นายยามาชิตะกล่าวเพิ่มเติมว่า “สำหรับเป้าหมายของโตโยต้าในปี 2564โตโยต้ามีเป้าหมายการขายอยู่ระหว่าง280,000 – 300,000คันหรือคิดเป็นยอดขายที่เพิ่มขึ้น15 – 23% จากปีที่ผ่านมาคิดเป็นส่วนแบ่งการตลาดที่33.3%”
ด้านการส่งออกในปี 2563โตโยต้าได้ส่งออกรถยนต์สำเร็จรูปจำนวน215,277 คัน ลดลง18.7%ปริมาณการผลิตสำหรับการขายภายในประเทศและการส่งออกมีจำนวนรวมทั้งสิ้น 442,822 คัน ลดลง 22.4% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา
ทั้งนี้สำหรับเป้าหมายการส่งออกรถยนต์สำเร็จรูปของโตโยต้าในปีนี้คาดการณ์ว่าปริมาณการส่งออกจะอยู่ที่ 254,000 คันเพิ่มขึ้น18%จากปีที่แล้วเนื่องจากความต้องการที่เพิ่มมากขึ้นจากภูมิภาคหลักเช่นเอเชียและโอเชียเนียทั้งนี้โตโยต้าตั้งเป้าการผลิตรถยนต์อยู่ที่ 527,000คันหรือเพิ่มขึ้น19% จากปี2563ซึ่งการคาดการณ์ดังกล่าวสอดคล้องกับเป้าหมายยอดขายของทั้งในระดับประเทศและระดับโลก





