
มาสด้า เซลส์ ประเทศไทย เปิดตัวแนะนำ All-New Mazda CX-8 ครอสโอเวอร์อเนกประสงค์เอสยูวีระดับพรีเมียมแบบ 3 แถว ถือเป็น Crossover SUV ที่สะท้อนภาพลักษณ์แห่งความภูมิฐาน สง่างาม และความสมบูรณ์แบบ ตอบโจทย์ความต้องการของทุกคนในครอบครัว
All-New Mazda CX-8 คือรถอเนกประสงค์เพื่อยกระดับความหรูหราของ Crossover SUV ขึ้นไปอีกขั้น ด้วยดีไซน์ที่เรียบง่ายแต่งดงาม สร้างมาตรฐานใหม่ด้วยการเป็นรถอเนกประสงค์ขนาด 6 และ 7 ที่นั่ง ที่ถูกพัฒนาขึ้นบนพื้นฐานของรถยนต์นั่งอย่างแท้จริง ให้การตอบสนองดีเยี่ยม All-New Mazda CX-8 มาพร้อม 2 ทางเลือก ประกอบด้วยเครื่องยนต์สกายแอคทีฟเบนซิน 2.5 ลิตร (SKYACTIV-G 2.5) ที่ได้รับการปรับปรุงพัฒนาใหม่ พร้อมระบบวาล์วแปรผันคู่อัจฉริยะ Dual S-VT ที่ได้รับการพัฒนาให้ตอบสนองดียิ่งขึ้น ให้แรงม้าสูงสุดถึง 194 แรงม้า ต่อ 6,000 รอบต่อนาที และแรงบิดสูงสุดถึง 258 นิวตัน-เมตร ต่อ 4,000 รอบต่อนาที ให้ความประหยัดน้ำมัน และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และประหยัดน้ำมันสูงถึง 13.5 กิโลเมตรต่อลิตร และเครื่องยนต์สกายแอคทีฟคลีนดีเซล 2.2 ลิตร (SKYACTIV-D 2.2) ที่ได้รับการปรับปรุงพัฒนาใหม่ ให้แรงม้าสูงสุดถึง 190 แรงม้า ต่อ 4,500 รอบต่อนาที และแรงบิดสูงสุดถึง 450 นิวตัน-เมตร ต่อ 2,000 รอบต่อนาที
สำหรับลูกค้ามาสด้าที่ให้ความสนใจเป็นเจ้าของ All-New Mazda CX-8 มาสด้ามอบสิทธิพิเศษในช่วงเปิดตัวที่โชว์รูมมาสด้าทั่วประเทศ ฟรีค่าแรงเช็คระยะ 5 ปี หรือ 100,000 กิโลเมตร* ขยายการรับประกันคุณภาพเป็น 5 ปี หรือ 150,000 กิโลเมตร พร้อมฟรีประกันภัยชั้นหนึ่ง Mazda Premium Insurance และอัตราดอกเบี้ยพิเศษเพียง 1.99%ราคาจำหน่าย All-New Mazda CX-8 รุ่น 2.5 S SKYACTIV-G 2.5 ขนาด 7 ที่นั่ง ราคา 1,599,000 บาท รุ่น 2.5 SPSKYACTIV-G 2.5 ขนาด 7 ที่นั่ง ราคา 1,699,000 บาท รุ่น XDLSKYACTIV-D 2.2 ขนาด 7 ที่นั่งราคา1,899,000 บาท และรุ่นท็อป XDL EXCLUSIVE SKYACTIV-D 2.2 ขนาด 6 ที่นั่ง ราคา 2,069,000 บาท
ทีมงาน buzzbiz24.com ได้ทดสอบ All-New Mazda CX-8 รุ่นท็อป XDL EXCLUSIVE SKYACTIV-D 2.2 ขนาด 6 ที่นั่ง ซึ่งโดดเด่นกว่ารุ่นอื่น ทันทีที่ขึ้นไปนั่งตำแหน่งคนขับได้รับรู้ถึงจุดเด่นของเครื่องยนต์ สกายแอคทีฟคลีนดีเซล 2.2 ลิตร เ (SKYACTIV-D 2.2) ที่ได้รับการปรับปรุงพัฒนาใหม่ พร้อมระบบวาล์วไอเสียแปรผันอัจฉริยะ VVT และระบบเทอร์โบแปรผัน 2 ขั้น ให้ความเงียบเกินเครื่องยนต์ดีเซลทั่วไป แต่ยังให้การตอบสนองที่รวดเร็วและแม่นยำยิ่งกว่าเดิมในทุกรอบความเร็ว ให้พละกำลังสูงสุดถึง 190 แรงม้า ที่ 4,500 รอบต่อนาที แต่ที่น่าประทับใจคือ แรงบิดจัดๆสูงสุดถึง 450 นิวตัน-เมตร ที่ 2,000 รอบต่อนาที ขับขี่เข้าโค้งอย่างมั่นใจ เนียมกริ๊บ ด้วยระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ อัตโนมัติ i-ACTIV AWD ที่ช่วยปรับระบบการขับขี่ให้เหมาะสมกับสภาพถนน ให้ความสนุกสนานในการขับขี่มากๆ ยิ่งเจอถนนคดเคี้ยวก็ยิ่งสนุก เกาะโค้งหนึบๆแน่นๆ และประหยัดน้ำมันสูงถึง 17.5 กิโลเมตรต่อลิตร
ส่วนห้องโดยสารแบบ 3 แถว 6 ที่นั่ง มาพร้อมกับเบาะที่นั่งแถวสองแบบ 2 ที่นั่ง แบบกัปตันซีท ปรับเอนได้หลายระดับ พร้อมพนักวางแขน ที่วางแก้วน้ำ และช่อง USB สำหรับชาร์จไฟ 2 ช่อง ตอบโจทย์การใช้งานสำหรับครอบครัวได้เป็นอย่างดี แต่เมื่อปรับเอนนอนมากๆ รู้สึกว่า พนักพิงดันจนหลังแอ่น สอบถามจากทีมวิศวกรก็บอกระบุว่า ออกแบบให้ที่นั่งช่วยเซฟผู้โดยสารอย่างเต็มที่เมื่อเกิดอุบัติเหตุ ดังนั้นเมื่อปรับเอนนอนจึงไม่สะดวกสบายเท่าที่ควร อย่างไรก็ตาม เบาะที่นั่งแถวสามของทั้ง 2 แบบ รองรับผู้โดยสารที่มีความสูงได้ถึง 170 ซม. และสามารถปรับพับแยกได้อย่างแบนราบแบบ 50:50 เพื่อมอบพื้นที่ในการวางสัมภาระ การตกแต่งภายในห้องโดยสารเลือกใช้สีโทนเข้ม วัสดุตกแต่ง Real Wood ผสมผสานกับสีเงินซาตินโครม มาพร้อมเบาะหนัง Nappa สีแดง Deep Red ตัดเย็บอย่างประณีตด้วยเส้นด้ายสีน้ำตาลเข้ม
สิ่งที่น่าประทับใจคือ สิ่งอำนวยความสะดวกในห้องโดยสาร เบาะนั่งในตำแหน่งคนขับปรับไฟฟ้าได้ 8 ทิศทาง มาพร้อมระบบปรับเบาะดันหลังไฟฟ้า และระบบบันทึกตำแหน่งของเบาะ 2 ตำแหน่ง ระบบปรับอากาศอัตโนมัติแบบ Tri Zone พร้อมแผงควบคุมบริเวณเบาะนั่งแถวที่สอง ระบบเสียงคุณภาพ Bose® รอบทิศทาง พร้อมลำโพง 10 ตำแหน่ง รองรับการเชื่อมต่อแอพพลิเคชั่นบนสมาร์ทโฟนผ่านระบบ Mazda Connect ที่มาพร้อม Apple CarPlay โดยแสดงข้อมูลผ่าน Center Display จอสีแบบสัมผัส ขนาด 7 นิ้ว ที่ควบคุมด้วยปุ่มควบคุมอัจฉริยะ Center Commander
All-New Mazda CX-8 อัดแน่นไปด้วยเทคโนโลยีความปลอดภัยสุดล้ำ i-Activsense รอบคันที่จะช่วยคาดการณ์และส่งสัญญาณเตือนผู้ขับขี่ให้เพิ่มความระมัดระวังยิ่งขึ้น เพื่อป้องกันและลดการเกิดอุบัติเหตุ โดยระบบความปลอดภัยที่มีการติดตั้งมาเป็นอุปกรณ์มาตรฐานในทุกรุ่น ได้แก่ ระบบเตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะเปลี่ยนเลน (Advanced Blind Spot Monitoring) และระบบเตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะถอยหลัง (Rear Cross Traffic Alert) นอกจากนี้ยังมีระบบความปลอดภัยอื่นๆ ที่ช่วยเพิ่มความมั่นใจให้กับผู้ขับขี่ อาทิ ระบบแสดงภาพ 360 องศา รอบทิศทาง (360° View Monitor), ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ (Mazda Radar Cruise Control) อีกทั้งยังช่วยลดความเมื่อยล้าของผู้ขับขี่ขณะเดินทางไกล, ระบบเตือนการชนด้านหน้าและช่วยเบรกอัตโนมัติ (Smart Brake Support) และระบบช่วยหยุดรถอัตโนมัติแบบ Advance (Advanced Smart City Brake Support) ที่ได้เพิ่มขีดความสามารถในการตรวจจับคนเดินถนน เพิ่มความปลอดภัยให้ทั้งผู้ขับขี่ ผู้โดยสาร รวมถึงผู้ใช้ถนน ซึ่งผู้ขับขี่อาจต้องสร้างความคุ้นเคยให้กับออฟชั่นล้ำๆแบบนี้ด้วย
สิ่งหนึ่งที่ต้องคำนึงถึงคือ มาสด้ามีเป้าหมายสร้าง เซ็กเม้นต์ใหม่ขึ้นมาในประเทศไทย และสร้างมาตรฐานใหม่ให้เกิดขึ้นกับตลาดรถยนต์อีกครั้ง เนื่องจากตั้งแต่ปี 2558 จนถึงครึ่งปีงบประมาณ 2562 จากผลสำรวจความต้องการของผู้ที่สนใจเลือกซื้อรถอเนกประสงค์แบบ 7 ที่นั่ง ซึ่งส่วนใหญ่มาจากโครงสร้างพื้นฐานของรถกระบะ หรือ PPV และเมื่อรวมกับ C-SUV แบบ 7 ที่นั่ง นับว่ามีสัดส่วนการขายสูงเป็นอันดับที่ 3 หรือคิดเป็น 8.2% ของปริมาณการขายรถยนต์ทั้งหมด เนื่องจากเป็นรถที่มีขนาดพื้นที่ภายในเหมาะกับการใช้งานสำหรับครอบครัว ตอบโจทย์ทั้งการโดยสารและการขนสัมภาระ ให้ทัศนวิสัยในการขับขี่ที่ดี สามารถตอบสนองไลฟ์สไตล์ และกิจกรรมที่หลากหลาย ถึงแม้ว่ารถ PPV จะมีสัดส่วนการขายสูงถึง 88.8% ของปริมาณการขายรถอเนกประสงค์ขนาด 7 ที่นั่ง ทั้งหมด แต่จากผลสำรวจความคิดเห็นของลูกค้าที่สนใจซื้อรถอเนกประสงค์ขนาด 7 ที่นั่ง พบว่า รถ PPV ไม่คล่องตัวสำหรับการขับขี่ในเมือง ผนวกกับช่วงล่างสไตล์รถกระบะ และความสูงของรถที่ส่งผลต่อความสะดวกในการขึ้น-ลงรถของผู้สูงอายุและเด็ก เท่าที่ลอง All-New Mazda CX-8 เหมาะมากในการขึ้นรถไปยังที่นั่ง เหมือนเดินเข้าไปห้องโดยสาร ไม่เหมือน นั่ง PPV ที่ต้องปีนขึ้น สร้างความลำบากและอาจเกิดอุบัติเหตุได้ จะว่าไปแล้ว All-New Mazda CX-8 ก็เป็นทางเลือกที่น่าสนใจ โดยเฉพาะช่วงเทศกาลท่องเที่ยวปลายปีนี้ จะได้เที่ยวด้วยกันทั้งครอบครัว








