
ปอร์เช่ ไทคานน์ จีทีเอส (Taycan GTS) ใหม่ เปิดตัวครั้งแรกของภูมิภาค ภายในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 43 (43rd Bangkok International Motor Show 2022) มหกรรมยานยนต์สุดยิ่งใหญ่ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ – จัดขึ้นระหว่างวันที่ 21 มีนาคม ถึง 3 เมษายน 2022 ณ อาคารชาเลนเจอร์ 1-3 เมืองทองธานี
ปีเตอร์ โรห์เวอร์ กรรมการผู้จัดการ ปอร์เช่ ประเทศไทย กล่าวว่า “เราต้องเผชิญกับความท้าทายมากมาย รวมทั้งการใช้ชีวิตแบบ new normal ในปี 2021 และเราล้วนติดอยู่กับข้อจำกัดต่างๆ ที่รายล้อม ซึ่งเป็นอุปสรรคจากสถานการณ์ภายนอก แต่อย่างไรก็ตาม ต้องขอบคุณความต้องการในระดับสูงที่มีมาอย่างต่อเนื่องจากบรรดาแฟนๆ ชาวไทย ผู้รักในรถยนต์ปอร์เช่ และพันธมิตรทางธุรกิจใน value chain ที่มีความสัมพันธ์อันใกล้ชิด เราจึงสามารถประสบผลสำเร็จอย่างสวยงามในท้ายที่สุด”
ด้วยตำแหน่งทางการตลาดที่วางไว้อย่างสมบูรณ์แบบ ระหว่าง ไทคานน์ โฟร์เอส (Taycan 4S) กับ ไทคานน์ เทอร์โบ (Taycan Turbo) สำหรับไทคานน์ จีทีเอส (Taycan GTS) คันนี้ คือเวอร์ชั่นที่สปอร์ตที่สุด เร้าใจที่สุด มาพร้อมพิสัยการเดินทางสูงสุดถึง 504 กิโลเมตร (ทดสอบตามมาตรฐาน WLTP) นี่คือ ไทคานน์ (Taycan) รุ่นแรกที่ทำลายขีดจำกัดระยะทาง 500 กิโลเมตรได้สำเร็จ
รถสปอร์ตพลังงานไฟฟ้ารุ่นล่าสุด มีงานออกแบบดีไซน์ที่สร้างความแตกต่างจากพี่น้องร่วมตระกูล: ชุดแต่งตัวถัง Sports Design Package เสริมภาพลักษณ์ดุดันจากชิ้นงานตกแต่งกันชนหน้า กันชนท้าย และสเกิร์ตข้าง รวมไปถึงโคมหน้าไฟ รมดำ 3D track graphics ที่ได้รับการติดตั้ง daytime running light แบบ LED
นับเป็นครั้งแรกกับการติดตั้งหลังคากระจก panoramic roof พร้อมเทคโนโลยี “Sunshine Control” อุปกรณ์พิเศษสำหรับปอร์เช่ ไทคานน์ จีทีเอส (Taycan GTS) ใหม่ แบ่งพื้นที่กระจกออกเป็น 9 ส่วน โดยแต่ละส่วนสามารถควบคุมการทำงานได้อย่างอิสระ หลังคากระจกใหม่เพิ่มฟังก์ชั่นในการกรองแสงจากภายนอกด้วยระดับการทำงานที่ปรับเปลี่ยนได้หลากหลาย ตกแต่งภายในห้องโดยสารด้วยวัสดุ Race-Tex สีดำ ชิ้นงานอลูมิเนียมปัดเงา เสริมความหรูหราสง่างาม และความสปอร์ตดุดันได้อย่างลงตัว
ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว Porsche Active Suspension Management (PASM) ปรับแต่งเป็นพิเศษเพื่อปอร์เช่ ไทคานน์ จีทีเอส (Taycan GTS) โดยเฉพาะ ยกระดับสมรรถนะการขับขี่ ทั้งในเชิงของการบังคับควบคุม และความนุ่มนวลสะดวกสบาย สองวัตถุประสงค์ที่เปรียบเหมือนคุณลักษณะพิเศษของปอร์เช่ เสริมศักยภาพด้วยระบบช่วยเลี้ยวล้อหลัง rear-wheel steering ออกแบบเป็นพิเศษให้เหมาะสมกับ ไทคานน์ จีทีเอส (Taycan GTS) โดยมุ่งเน้นประสิทธิภาพการขับขี่ที่โดดเด่นที่สุดในรุ่น
เวอร์ชั่นสปอร์ต พกพาพละกำลังมหาศาลติดตัวมากว่า 598 แรงม้า (440 กิโลวัตต์) แรงบิดสูงสุด 850 นิวตันเมตร เมื่อเปิดใช้งานระบบ Launch Control ขณะที่ใช้งานในโหมด normal จะให้กำลังที่ 517 แรงม้า (380 กิโลวัตต์) ความเร็วสูงสุดที่ 250 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ต้องยกประโยชน์ให้ความชาญฉลาดของระบบควบคุมอัจฉริยะ เกรี้ยวกราด ดุดัน แต่แฝงด้วยความเรียบง่าย ปอร์เช่ ไทคานน์ จีทีเอส (Taycan GTS) มอบประสบการณ์การขับขี่ที่เหนือชั้น รองรับสมรรถนะสไตล์สปอร์ตที่มีพิษสงรอบตัวยิ่งกว่า ไทคานน์ (Taycan) ทุกรุ่น
พื้นที่จัดแสดงรถยนต์ปอร์เช่ ภายในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 43 (43rd Bangkok International Motor Show 2022) ประกอบด้วยรถสปอร์ตที่น่าสนใจถึง 9 รุ่น ซึ่งรวมถึงปอร์เช่ 911 จีทีเอส (911 GTS) ใหม่ และ คาเยนน์ คูเป้ (Cayenne Coupé) ที่มาพร้อมชุดแต่ง Lightweight Package
ปอร์เช่ 911 จีทีเอส (911 GTS) คือหนึ่งในตัวแทนความยอดเยี่ยมที่เหนือชั้นขึ้นไปอีกขั้น เฉกเช่นเดียวกันกับ ไทคานน์ จีทีเอส (Taycan GTS) ใหม่ นี่คือรถสปอร์ตสมรรถนะสูงที่ยังคงไว้ซึ่งรูปลักษณ์อันเป็นตำนานของสายพันธุ์ 911 นอกจากพละกำลังที่สูงขึ้น และการตกแต่งภายนอกที่แตกต่าง 911 จีทีเอส (911 GTS) ยังประสานศักยภาพการขับขี่สไตล์สปอร์ตเอาไว้เต็มพิกัดยิ่งกว่าที่เคยมีมา
ขุมพลังเครื่องยนต์ 6 สูบนอนใหม่ พละกำลังสูงสุด 480 แรงม้า (353 กิโลวัตต์) ประจำการในปอร์เช่ 911 จีทีเอส (911 GTS) ให้อัตราเร่งจาก 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ภายในระยะเวลาเพียง 3.4 วินาที เมื่อจับคู่กับระบบเกียร์อัตโนมัติอัจฉริยะคลัทช์คู่ 8-จังหวะ (PDK) ลูกใหม่ ทั้งนี้ยังสามารถสั่งติดตั้งระบบเกียร์ธรรมดา 7 จังหวะ ที่ได้รับการปรับแต่งการเปลี่ยนเกียร์ให้กระชับฉับไวเป็นพิเศษ เป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับ 911 จีทีเอส (911 GTS) นอกเหนือจากระบบเกียร์ PDK
ปอร์เช่ คาเยนน์ อี-ไฮบริด คูเป้ (Cayenne E-Hybrid Coupé) ยนตกรรมแห่งความเรียบหรู ที่ไร้คู่เปรียบ ในฐานะของสปอร์ต SUV ที่โฉบเฉี่ยวที่สุดในรถระดับเดียวกัน จากดีไซน์ตัวถังด้านท้ายที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว เส้นสายที่เฉียบคม และสปอยเลอร์หลังปรับระดับอัตโนมัติด้วยไฟฟ้า ส่งผลให้ คาเยนน์ คูเป้ (Cayenne Coupé) แตกต่างอย่างชัดเจนจากรถยนต์อเนกประสงค์ทั่วไป ได้รับการติดตั้งชุดแต่ง Lightweight Sports Package ซึ่งได้ควบรวมเอาชุดแต่งเสริมสมรรถนะ Sport Chrono Package เอาไว้ด้วยกัน ยกระดับสมรรถนะการเร่งออกตัวของ คาเยนน์ คูเป้ (Cayenne Coupé) จาก 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ภายในระยะเวลาเพียง 5.1 วินาทีเท่านั้น





