กิจกรรม & CSRเทสต์ไดรฟ์

สุรชัย มณีมหานนท์ รีวิว ทดสอบ ฮาวาล โจไลอ้อน สิงห์หนุ่มหัวใจคะนองเมือง

38.1kviews

เกรท วอลล์ มอเตอร์ ค่ายรถยนต์ยักษ์ใหญ่จากจีน สร้างปรากฎการณ์อีกครั้งด้วยการเปิดตัว All New HAVAL JOLION Hybrid SUV อย่างเป็นทางการในประเทศไทย พร้อมประกาศราคาสุดเร้าใจให้ค่ายรถญี่ปุ่นสะดุ้งเฮือก โดยเริ่มที่รุ่นประหยัดอย่าง รุ่น TECH ราคาที่ 879,000 บาท รุ่น PRO ที่ 939,000 บาท และรุ่น ULTRA ที่ 999,000 บาท นอกจากนี้ All New HAVAL JOLION Hybrid SUV มาพร้อมกับแคมเปญสุดพิเศษ PREMIERE DEAL ช่วงเปิดตัว กับข้อเสนอแบบจัดเต็มทั้งดอกเบี้ยพิเศษ 1.79% นาน 48 เดือน เมื่อดาวน์ 25% ฟรีประกันภัยชั้นหนึ่ง 1 ปีเต็ม แพ็กเกจบำรุงรักษา GWM PRO Service Inclusive (GPSI) 5 ปี หรือ 100,000 กิโลเมตร และสิทธิพิเศษอื่นๆ อีกมากมาย รวมมูลค่ากว่า 85,000 บาท

เมื่อเร็วๆนี้  เกรท วอลล์ มอเตอร์ จัดการทดสอบสมรรถนะและสัมผัสประสบการณ์การขับขี่  All New HAVAL JOLION Hybrid SUV (ออล นิว ฮาวาล โจไลอ้อน ไฮบริด เอสยูวี) รถยนต์เอสยูวีรุ่นที่ 2 จากแบรนด์ HAVAL ที่ เกรท วอลล์ มอเตอร์ เปิดตัวในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ โดยใช้พื้นที่ของอิมแพ็ค เลคไซด์ เมืองทองธานี ให้เป็นสถานีทดสอบเทคโนโลยีการขับขี่  และทดลองใช้งานฟังก์ชั่นที่เหนือชั้นกว่าคู่แข่ง

ประเดิมสถานีแรกด้วย การทดสอบระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน (ACC) โดยฮาวาล โจไลอ้อน ไฮบริด  มาพร้อมกับกล้องติดรถยนต์ ADAS ที่ประสานกับชิปควบคุมการขับเคลื่อนอัตโนมัติ EYEQ4 ของโมบายอาย ช่วยควบคุมรถยนต์ให้อยู่ในช่วงความเร็วที่กำหนดไว้ โดยจะปรับลดความเร็วเพื่อรักษาระยะห่างระหว่างรถยนต์คันหน้าเพื่อความปลอดภัย รวมไปถึงการหยุดและสตาร์ทกลับไปยังความเร็วที่ตั้งไว้ก่อนหน้า โดยที่ผู้ขับขี่ไม่ต้องแตะคันเร่งอะไรเลย แรกๆอาจเสียวนิดหน่อย กลัวว่าจะชนท้ายคันหน้า แต่พอชินแล้วก็รู้สึกว่า มันสบายกว่ากันเยอะเลย

สถานีต่อมา เป็นการทดสอบอัตราเร่งเป็นการทดสอบสมรรถนะและความแรงของเครื่องยนต์ 1.5L ที่ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้าของรถยนต์ เพื่อพิสูจน์ว่า แม้ใช้เครื่องยนต์แค่ 1.5 ลิตร แต่เมื่อประสานกับมอเตอร์ไฟฟ้า ก็ให้อัตราเร่งแซงที่หวือหวาได้ ประมาณว่าแซงรถญี่ปุ่นในระดับเดียวกันไปได้ฉิวเลย ต่อด้วยการทดสอบการขับขี่ขณะเปลี่ยนเลนและการขับขี่แบบสลาลม (Slalom)เพื่อทดสอบการทรงตัวของตัวรถยนต์ การควบคุมพวงมาลัยและความแม่นยำของพวงมาลัยขณะขับขี่ เมื่อต้องการเปลี่ยนเลน หรือพบสิ่งกีดขวาง ซึ่งช่วงล่างของ ฮาวาล โจไลอ้อน ต่อนข้างแข็งแต่ไม่กะด้าง ให้การทรงตังที่หนึบแน่น อาการโยนตัวเมื่อเปลี่ยนเลนมีน้อยอย่างน่าพอใจ  นอกจากนี้ ยังมีการทดสอบเทคโนโลยีคันเร่งอัจฉริยะ (Intelligent Single Pedal) เป็นการทดสอบการเร่งหรือชะลอความเร็วโดยใช้เพียงคันเร่งเดียว โดยเมื่อตำแหน่งเกียร์อยู่ที่เกียร์ D ให้เหยียบคันเร่ง หรือยกเท้าออกจากแป้นคันเร่งเท่านั้น ก็จะสามารถทำให้รถยนต์เพิ่มความเร็ว หรือลดความเร็ว และจอดรถยนต์ได้อย่างสมบูรณ์แบบ ฟังก์ชั่นนี้เหมือนรถที่ขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้าเพียวๆเลย

สถานีสุดท้าย น่าจะโดนใจใครหลายๆคน โดยเฉพาะผู้ขับขี่หน้าใหม่ ที่ไม่ค่อยมั่นใจกับการจอดรถที่เมืองที่มีการจราจรหนาแน่น โดยเป็นการทดสอบระบบช่วยจอดรถอัจฉริยะ 3 รูปแบบ (IIP) ซึ่ง ออล นิว ฮาวาล โจไลอ้อน ไฮบริด  ใช้เซ็นเซอร์และกล้องในการตรวจสอบ เพื่อตรวจจับวัตถุและเครื่องหมายบริเวณช่องจอดหรือจุดจอดรถ จากนั้น ระบบจะทำงานเต็มรูปแบบเพื่อเข้าจอด ไม่ว่าจะเป็นการจอดแบบแนวตรง แนวเฉียง และการจอดเทียบข้าง ที่ทำได้อย่างแม่นยำและสะดวกสบาย โดยในการทดสอบที่สนามทดสอบจะเป็นการทดสอบการจอดแบบแนวตรง และการจอดเทียบข้าง ที่มีช่องว่างแคบจนกะด้วยสายตาแล้ว เสียวชนคันช้างๆ แต่เมื่อระบบเช็คแล้วว่า จอดได้ ก็ปล่อยให้ระบบทำงานไปจนเสร็จภารกิจ ไม่ต้องกะระยะเอง สบายใจไม่เสียสุขภาพจิตแต่อย่างใด ซึ่งความดีตรงนี้ ต้องยกให้กับความแม่นยำของกล้องแสดงภาพรอบทิศทาง 360 องศา ซึ่งประกอบไปด้วยกล้อง 4 ตัว ที่มีความละเอียดคมชัด 4 Megapixel เพื่อช่วยให้การขับขี่ในทุกสถานการณ์เป็นเรื่องง่าย ผสานกับทักษะในการถอยหลังเข้าจอดเพื่อให้สามารถจอดรถยนต์โดยที่ล้อรถอยู่ในจุดที่กำหนด

หลังจากนั้น ทีมงาน ปล่อยให้เดินทางอย่างอิสระจากอิมแพ็ค เลคไซด์ เมืองทองธานี ไปยังบางแสน จังหวัดชลบุรี เพื่อทดสอบสมรรถนะฮาวาล โจไลอ้อน ไฮบริด บนถนนหลวง เพื่อทดสอบฟังก์ชั่นอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นโหมดการขับขี่ 4 รูปแบบ ได้แก่ 1) โหมดมาตรฐาน 2) โหมด Sport 3) โหมด ECO 4) โหมดสภาพถนนลื่นหรือจะเป็นระบบการเข้าโค้งอัจฉริยะ โดยเมื่อระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน (ACC) ทำงาน กล้องจะทำการตรวจสอบความโค้งของถนน และความเร็วจะถูกปรับอัตโนมัติหากจำเป็นต้องลดความเร็วในขณะเข้าโค้งเพื่อความปลอดภัย และเมื่อผ่านโค้งไปแล้ว รถจะกลับเข้าสู่ความเร็วเดิมที่ตั้งไว้

นอกจากนี้ ยังมีระบบช่วยเลี่ยงการเข้าใกล้รถใหญ่จากด้านข้าง (WDS) โดยระบบจะตรวจสอบรถบรรทุกขนาดใหญ่หรือรถที่มีขนาดยาวหรือสูง ในระหว่างการขับผ่านทางด้านซ้ายหรือด้านขวา ระบบจะเบี่ยงเพื่อเพิ่มระยะห่างตามระยะที่เหมาะสมเพื่อหลีกเลี่ยงการปะทะ และกลับสู่กึ่งกลางของเลนเดิมอัตโนมัติ นอกจากนี้  ยังมีระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน (LKA) ระบบช่วยเตือนเมื่อรถออกนอกเลน (LDW) ระบบช่วยรักษาระยะให้อยู่กลางเลน (LCK) ซึ่งระบบความปลอดภัยเหล่านี้ เป็นการช่วยเหลือผู้ขับขี่หน้าใหม่ แต่อาจเป็นที่รำคาญของผู้ขับขี่บางคน ก็สามารถปิดระบบเหล่านี้ได้

ออล นิว ฮาวาล โจไลอ้อน นับเป็นรถยนต์เอสยูวีรุ่นที่ 2 จากแบรนด์ HAVAL ที่ เกรท วอลล์ มอเตอร์ เปิดตัวในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ โดยเป็นรถยนต์ในเซ็กเมนท์เอสยูวี – บี ที่ขับขี่สนุกสนานโดยรถยนต์รุ่นนี้มาพร้อมขุมพลังเครื่องยนต์ 1.5L ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้าให้กำลังรวมสูงสุด 190 แรงม้า ให้แรงบิดรวมสูงสุด 375 นิวตันเมตร พร้อมระบบเกียร์แบบ DHT ที่สร้างขึ้นเพื่อรองรับระบบการขับเคลื่อนที่หลากหลายของรถยนต์ไฮบริด เมื่อทํางานร่วมกับเครื่องยนต์ จะสร้างการขับเคลื่อนที่เร้าใจ เร่งแรงได้ทันใจ เกินคาดว่า เครื่องยนต์ขนาด 1.5 ลิตรทำได้ขนาดนี้ และให้ความประหยัดน้ำมัน โดยมีอัตราการประหยัดน้ำมันเฉลี่ย 23.8 กิโลเมตรต่อลิตรอย่างไรก็ตาม เสียงเครื่องยนต์ดังเข้ามาในห้องโดยสารอย่างชัดเจน  ซึ่งอาจเป็นเพราะซันรูฟขนาดใหญ่และการใช้วัสดุดูดซับเสียงยังไม่ลงลึกเท่ารถญี่ปุ่นบางรุ่น หากรำคาญมาก ก็หันไปพึ่งพาการเชื่อมต่อกับฟังก์ชั่นอัจฉริยะและความบันเทิงต่างๆได้  ระบบช่วงล่างด้านหน้าแบบอิสระแมคเฟอร์สันสตรัท (MacPherson Strut) พร้อมเหล็กกันโคลง และระบบช่วงล่างด้านหลังแบบทอร์ชันบีม (Torsion Beam) พร้อมเหล็กกันโคลง ให้การทรงตัวที่น่าพอใจ โดย เจ้าสิงห์หนุ่มคันนี้ใช้แพลตฟอร์ม GWM LEMON แพลตฟอร์มโมดูล่าร์อัจฉริยะเช่นเดียวกันกับรถยนต์ All New HAVAL H6 Hybrid SUV อีกด้วย

โดยภาพรวมของ ออล นิว ฮาวาล โจไลอ้อน ไฮบริด หน้าตารูปลักษณ์กำลังพอใจ สำหรับการใช้ในเมืองและนอกเมือง  ด้วยมิติตัวรถ 1,841 x 4,472 x 1,619 มม. (กว้าง x ยาว x สูง) พร้อมระยะฐานล้อ 2,700 มม นับว่า สิงห์หนุ่มคันนี้ไม่เล็กนะครับ  แผงกระจังหน้าตั้งตรงขนาดใหญ่ หยักล่างทั้งสองมุม ทรงนี้รถจีนชัดๆ  แต่ทำไมรถญี่ปุ่นมาเหมือนก็ไม่รู้ ไฟหน้า LED เต็มรูปแบบ สอดรับกับ Daytime Running Light และระบบ Welcome Light เมื่อปลดล็อค พร้อมด้วยไฟส่องสว่างหลังดับเครื่องยนต์ Follow Me Home ร่วมด้วยกระจังหน้า Star Matrix สีดำ-เทา หลังคาพาโนรามิคซันรูป และไฟท้าย LED ที่ให้มาพร้อมไฟเบรกดวงที่สามและไฟตัดหมอกหลัง และล้ออัลลอยดีไซน์สปอร์ตทูโทน ขนาด 18 นิ้ว

ดีไซน์ภายในห้องโดยสารก็ดูหวือหวาในสไตล์รถจีน ออกแบบภายใต้แนวคิด Future Intelligent Cockpit ให้ความรู้สึกกว้างขวางและสะดวกสบาย ที่อัดแน่นด้วยเทคโนโลยีที่เพื่อมอบประสบการณ์การขับขี่เหนือระดับให้กับผู้ใช้งาน ไม่ว่าจะเป็น การเชื่อมต่อของ 3 หน้าจออัจฉริยะ ทั้งหน้าจอหลักตรงกลางแบบ Touch Screen Audio Display ความละเอียดสูง ขนาด 12.3 นิ้ว ที่รองรับ Apple Carplay MP3 JOOX และระบบนำทาง ต่อด้วยหน้าจอ Multi Information Display ความละเอียดสูงขนาด 7 นิ้ว และหน้าจอ Head-up Display ที่แสดงข้อมูลการขับขี่บนกระจกบังลมด้านหน้า นอกจากนี้ ยังครบครันด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกสบายมากมาย ไม่ว่าจะเป็น เบาะนั่งไฟฟ้าด้านหน้าฝั่งคนขับที่ปรับได้ถึง 6 ทิศทาง ลำโพง 6 ตัว ระบบปรับอากาศอัตโนมัติแยกซ้าย-ขวาและระบบช่องแอร์ด้านหลัง ระบบกรองอากาศ PM2.5 ที่ชาร์จแบบไร้สาย (Wireless Charger) ชุดเกียร์ไฟฟ้า Electronic Shifter กุญแจ Smart Key และระบบ Push Start รวมไปถึงพื้นที่ห้องโดยสารอเนกประสงค์ที่สามารถปรับเปลี่ยนเพื่อรองรับการใช้งานได้อย่างหลากหลาย ซึ่งเบาะที่นั่งด้านหลังสามารถพับลงได้เพื่อเพิ่มพื้นที่ในการบรรทุกสัมภาระได้สูงสุดถึง 1,069 ลิตร

ทั้งนี้ เกรท วอลล์ มอเตอร์ ได้ประกาศราคารถยนต์ All New HAVAL JOLION Hybrid SUV ในประเทศไทยอย่างเป็นทางการด้วยกันทั้งหมด 3 รุ่น ได้แก่ รุ่น TECH ที่ราคา 879,000 บาท รุ่น PRO ที่ราคา 939,000 บาท และรุ่น ULTRA ที่ราคา 999,000 บาท ภายใต้นโยบาย “ONE PRICE” ซึ่งจะเป็นราคาเดียวกันในทุกช่องทางการจำหน่ายทั่วประเทศ โดยทั้ง 3 รุ่นมาพร้อมกับ 5 เฉดสีให้เลือก ประกอบด้วย สีแดง (Burgundy Red) สีน้ำเงิน (Swarovski Blue) สีเทา (Ayers Gray) สีดำ (Sun Black) และสีขาว (Hamilton White) โดยมีกำหนดการเตรียมส่งมอบรถยนต์ล็อตแรกให้กับลูกค้าตั้งแต่เดือนธันวาคมนี้เป็นต้นไป สำหรับราคาดังกล่าวและโปรโมชั่นที่ให้มานับว่า ดึงดูดใจให้ผู้สนใจได้เป็นเจ้าของมาก แต่ต้องเผื่อใจไว้หน่อย สำหรับโชว์รูมและศูนย์บริการที่ยังไม่ครอบคลุมทั่วประเทศเหมือนค่ายรถรายอื่นๆ  อีกอย่างที่รู้สึกมึนงงกับรถค่ายนี้ คือ ชื่อ เกรท วอลล์ มอเตอร์แต่มีแบรนด์รถแยกเป็น 3 แบรนด์   ส่วนแบรนด์ฮาวาล รุ่นแรกที่นำมาเปิดคลาด ใช้ชื่อ H 6  แต่รุ่นรองมาไม่เป็นตัวเลข แต่ใช้ชื่อรุ่น JOLION (Joy + Lion)แปลว่า ให้ผู้ขับขี่รู้สึกเสมือนกำลังโลดแล่นไปกับราชสีห์ที่กำลังเปล่งเสียงคำรามอย่างมีความสุข แต่ในจีนเขาใช้ชื่อรุ่นFIRST LOVE ครับ