กิจกรรม & CSRเศรษฐกิจ

ตลาดรถยนต์พฤษภาคมยอดขายรวม 55,948 คัน เพิ่มขึ้น 38.4%

1.3kviews

นายสุรศักดิ์ สุทองวัน รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด รายงานสถิติการขายรถยนต์ประจำเดือนพฤษภาคม 2564 ยอดขายรวมทั้งสิ้น 55,948 คัน เพิ่มขึ้น 38.4% ประกอบด้วย รถยนต์นั่ง 15,569 คัน เพิ่มขึ้น 32.7% รถยนต์เพื่อการพาณิชย์ 40,379 คัน เพิ่มขึ้น 40.6% ขณะที่ รถกระบะขนาด 1 ตัน ในเซกเมนท์นี้ มีจำนวน 31,778 คัน เพิ่มขึ้น 37.3%

        ประเด็นสำคัญ

ตลาดรถยนต์เดือนพฤษภาคม 2564 มีปริมาณการขาย 55,948 คัน เพิ่มขึ้น 38.4% โดยตลาดรถยนต์นั่งมีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้น 32.7% ตลาดรถยนต์เพื่อการพาณิชย์มีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้น 40.6% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา สืบเนื่องจากข้อเสนอพิเศษที่หลากหลาย และกิจกรรมส่งเสริมการขายจากค่ายรถยนต์ที่มีการแข่งขันอย่างเข้มข้นต่อเนื่อง ส่งผลกระตุ้นการตัดสินใจซื้อของลูกค้า ตลอดจนการจัดการฉีดวัคซีน COVID-19 ของภาครัฐที่เป็นรูปธรรมมากขึ้น ส่งผลให้ผู้บริโภคมีความเชื่อมั่น คลายความวิตกกังวล และจับจ่ายใช้สอยมากขึ้น ผนวกกับการทยอยส่งมอบรถที่ลูกค้าจองในงาน บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ที่ผ่านมา เป็นปัจจัยเสริมที่สำคัญอีกประการหนึ่ง

ตลาดรถยนต์ในเดือนมิถุนายนมีแนวโน้มชะลอตัว สืบเนื่องจากความกังวลต่อการระบาดของไวรัส COVID-19 มีแนวโน้มรุนแรงอย่างต่อเนื่อง โดยการแพร่ระบาดในระลอกนี้มีความรุนแรงมากกว่าระลอกก่อน รวมถึงการตรวจพบผู้ติดเชื้อในคลัสเตอร์ใหม่ๆ เพิ่มขึ้น เป็นปัจจัยสำคัญที่กระทบต่อกิจกรรมทางเศรษฐกิจให้ต้องชะลอ หรือเลื่อนกำหนดการออกไป ทั้งนี้ยังส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของผู้บริโภคที่มีต่อเศรษฐกิจโดยรวม และทำให้ผู้บริโภคชะลอการตัดสินใจซื้อรถยนต์ด้วยเช่นกัน อย่างไรก็ดียังมีความหวังว่าสถานการณ์ต่างๆ จะฟื้นตัวดีขึ้นจากความพยายามของภาครัฐในการแก้ไขปัญหา ควบคู่ไปกับการดำเนินการฉีดวัคซีนเข็มแรกให้กับคนไทยครบ 50 ล้านคนภายในสิ้นปี ซึ่งจะก่อให้เกิดภูมิคุ้มกันหมู่ และสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนในการดำเนินกิจกรรมทางเศรษฐกิจได้อย่างเป็นรูปธรรม

        สถิติการจำหน่ายรถยนต์ เดือนมกราคม – พฤษภาคม 2564

  1. ตลาดรถยนต์รวม ปริมาณการขาย 308,217 คัน เพิ่มขึ้น 13.9%

อันดับที่ 1 โตโยต้า      94,848 คัน       เพิ่มขึ้น       17.3%        ส่วนแบ่งตลาด 30.8%

อันดับที่ 2 อีซูซุ                      79,067 คัน       เพิ่มขึ้น       33.1%       ส่วนแบ่งตลาด 25.7%

อันดับที่ 3 ฮอนด้า        35,376 คัน       ลดลง          0.4%         ส่วนแบ่งตลาด 11.5%

  1. ตลาดรถยนต์นั่ง ปริมาณการขาย 97,813 คัน ลดลง 1.1%

อันดับที่ 1 ฮอนด้า        30,164 คัน      เพิ่มขึ้น       1.6%          ส่วนแบ่งตลาด 30.8%

อันดับที่ 2 โตโยต้า      24,289 คัน      ลดลง        3.3%           ส่วนแบ่งตลาด 24.8%

อันดับที่ 3 นิสสัน          9,739 คัน       ลดลง       10.7%          ส่วนแบ่งตลาด 10.0%

  1. ตลาดรถเพื่อการพาณิชย์ ปริมาณการขาย 210,404 คัน เพิ่มขึ้น 22.2%

อันดับที่ 1 อีซูซุ           79,067 คัน       เพิ่มขึ้น     33.1%          ส่วนแบ่งตลาด 37.6%

อันดับที่ 2 โตโยต้า      70,559 คัน       เพิ่มขึ้น     26.6%          ส่วนแบ่งตลาด 33.5%

อันดับที่ 3 ฟอร์ด          13,575 คัน       เพิ่มขึ้น     38.6%          ส่วนแบ่งตลาด  6.5%

  1. ตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน (Pure Pick up และ รถกระบะดัดแปลง PPV*)

ปริมาณการขาย 163,765 คัน เพิ่มขึ้น 19.7%

อันดับที่ 1 อีซูซุ                       72,457 คัน       เพิ่มขึ้น      31.3%         ส่วนแบ่งตลาด 44.2%

อันดับที่ 2 โตโยต้า      59,669 คัน       เพิ่มขึ้น      22.0%         ส่วนแบ่งตลาด 36.4%

อันดับที่ 3 ฟอร์ด          13,575 คัน       เพิ่มขึ้น      38.6%         ส่วนแบ่งตลาด  8.3%

*ปริมาณการขายรถกระบะดัดแปลง (ในตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน) 24,130 คัน

โตโยต้า 10,540 คัน – อีซูซุ 8,250 คัน – มิตซูบิชิ 3,079 คัน – ฟอร์ด 2,145 คัน – นิสสัน 116 คัน

  1. ตลาดรถกระบะ Pure Pick up ปริมาณการขาย 139,635 คัน เพิ่มขึ้น 13.7%

อันดับที่ 1 อีซูซุ           64,207 คัน       เพิ่มขึ้น      21.7%         ส่วนแบ่งตลาด 46.0%

อันดับที่ 2 โตโยต้า      49,129 คัน       เพิ่มขึ้น      12.9%         ส่วนแบ่งตลาด 35.2%

อันดับที่ 3 ฟอร์ด          11,430 คัน       เพิ่มขึ้น      42.8%         ส่วนแบ่งตลาด  8.2%

บรรณาธิการ Buzzbiz
อดีตผู้สื่อข่าวภูมิภาค เศรษฐกิจ รถยนต์ ที่เดินทางอยู่บนฐานันดอน 4 มานาน นับ30 ปี