บรรณาธิการ Buzzbiz

บรรณาธิการ Buzzbiz

อดีตผู้สื่อข่าวภูมิภาค เศรษฐกิจ รถยนต์ ที่เดินทางอยู่บนฐานันดอน 4 มานาน นับ30 ปี
รถยนต์ในประเทศ

ASTON MARTIN BANGKOK เปิดตัว THE NEW VANTAGE

แอสตัน มาร์ติน แบงคอก ผู้จำหน่ายรถสปอร์ตระดับตำนานของอังกฤษอย่างเป็นทางการ เปิดตัว แอสตัน มาร์ติน ‘เดอะ นิว วานเทจ’ ผู้สืบทอดตำนานความแรงแห่งสายพันธุ์ ‘วานเทจ’ ท่ามกลางบรรยากาศอันงดงามของสถานที่สุดพิเศษ ‘บ้านเลขที่ 1’ ให้สื่อมวลชนและแขกผู้มีเกียรติได้สัมผัสอย่างใกล้ชิด นายพรเศก ภาคสุวรรณ ผู้จัดการทั่วไป แอสตัน มาร์ติน แบงคอก กล่าวว่า “แอสตัน มาร์ติน วานเทจ เป็นรถสปอร์ตที่งดงาม ผสานความดุดันแบบนักล่า และผมเชื่อว่า ‘เดอะ นิว วานเทจ’ ยังสามารถรักษามนต์เสน่ห์ไว้ได้อย่างครบถ้วน โดยนับเป็นผลิตภัณฑ์ลำดับที่ 2 ตามแผนงานในศตวรรษที่ 2 ของเรา และเป็นเสมือนอีกก้าวสำคัญสู่ความสำเร็จในอนาคต ซึ่งผมเชื่อมั่นเป็นอย่างยิ่งว่า ผู้ที่มีโอกาสได้เห็นจะรู้สึกว่าเป็นรถที่ผสมผสานความคลาสสิค เข้ากับเทคโนโลยียุคใหม่ได้อย่างลงตัว” แอสตัน มาร์ติน ‘เดอะ นิว วานเทจ’ มาพร้อมรูปลักษณ์น่าตื่นตาตื่นใจ ด้วยเส้นสายบึกบึน ผสานแนวทางการออกแบบอันเป็นเอกลักษณ์ ดุดันแบบนักล่า โอเวอร์แฮงค์หน้า-หลังสั้นและโป่งล้อกว้าง แสดงถึงความคล่องตัวและการตอบสนองอย่างมีประสิทธิภาพ ไฟหน้าแบบใหม่ พร้อมไฟท้ายบางเฉียบ กว้างเต็มพื้นที่ของฝาท้ายที่เชิดขึ้น ก็สะท้อนคาแรคเตอร์ของสัตว์ป่า และสมรรถนะที่ไม่ธรรมดา ขุมพลังของ ‘เดอะ นิว วานเทจ’ เป็นเครื่องยนต์เบนซิน วี8 สูบ 4.0 ลิตร เทอร์โบคู่ 503 แรงม้า ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิด 685 นิวตันเมตร ที่ 2,000-5,000 รอบ/นาที ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะของ ZF อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ภายใน 3.6 วินาที ท็อปสปีด...
นวัตกรรมรถยนต์ต่างประเทศ

ปอร์เช่ ไฟเขียวผลิต มิชชั่นอีครอสทัวริสโม่

ยานพาหนะขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้าพลังแรงเวอร์ชั่นที่ 2  ผลงานชั้นเลิศจากZuffenhausen: หลังการประชุมเมื่อวันที่ 18 ตุลาคม ที่ผ่านมา คณะกรรมการบริหารผู้กำกับดูแลการดำเนินงานของPorsche AG มีมติเป็นเอกฉันท์ เปิดไฟเขียวอนุมัติเดินสายการผลิตมิชชั่นอีครอสทัวริสโม่ (Mission E Cross Turismo) ต่อยอดจินตนาการจากรถยนต์ต้นแบบ concept study Mission E Cross Turismoให้กลายเป็นความจริง และด้วยเหตุผลดังกล่าว ทำให้บริษัทผู้ผลิตรถสปอร์ตระดับหัวแถวของโลกรายนี้สามารถสร้างสรรค์ตำแหน่งงานใหม่เพิ่มขึ้นอีกกว่า 300 ตำแหน่งงานภายในสำนักงานใหญ่ที่Zuffenhausenเพื่อรองรับการผลิตรถยนต์รุ่นใหม่ ซึ่งได้รับการจัดแสดงอย่างเป็นทางการในงานมหกรรมยานยนต์ Geneva Motor Show 2018 ที่ผ่านมา รถยนต์ต้นแบบมิชชั่นอีครอสทัวริสโม่(Mission E Cross Turismo)ที่สามารถวิ่งใช้งานได้จริง นับเป็นไฮไลท์สำคัญของงานที่ Geneva และแน่นอนว่ารถคันนี้สามารถสร้างกระแสตอบรับที่ดีเยี่ยมทั้งจากผู้เข้าร่วมชมงานรวมไปถึงสื่อมวลชนสายยานยนต์ที่มีโอกาสได้สัมผัส รถสปอร์ต 4 ประตูตัวถังสไตล์ Cross Turismo ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าสถาปัตยกรรมเทคโนโลยี 800โวลต์สุดล้ำยุค พร้อมเชื่อมต่อกับระบบโครงข่าย fast charging network ให้พละกำลังสูงสุดกว่า 600 แรงม้าและภายใต้การขับเคลื่อนเป็นระยะทางไกลถึง 500 กิโลเมตร (ตามมาตรฐาน NEDC) เป็นอีกหนึ่งสายพันธุ์ความแรงที่เพิ่มเติมจากไทคานน์(Taycan)รถสปอร์ตพลังงานไฟฟ้าสมบูรณ์แบบคันแรกของปอร์เช่ ซึ่งมีกำหนด การเปิดตัวอย่างเป็นทางการในปี 2019 โดยสายการผลิตไทคานน์(Taycan)สามารถสร้างงานใหม่เพิ่มขึ้นถึง 1,200 ตำแหน่งให้แก่โรงงานในZuffenhausenความสำคัญของสายการผลิตดังกล่าวคือการเปลี่ยนแปลงกระบวนการเพื่อความยั่งยืน ในทุกขั้นตอนจะปราศจากมลพิษของสารประกอบคาร์บอน ทั้งนี้ปอร์เช่วางแผนลงทุนด้วยงบประมาณมากกว่า6,000 ล้านยูโรสำหรับการพัฒนายานพาหนะพลังงานไฟฟ้าภายในปี 2022  ...
กิจกรรม & CSR

CARZANOVA Safe Fun Drive ครั้งที่ 2 เรียนรู้ความปลอดภัยทั้งคนทั้งรถ

เว็บไซต์ Carzanova.com และทีมแข่ง Carzanova Racing ร่วมกับ โตโยต้า มอเตอร์ (ประเทศไทย), ZF ผู้ผลิตและจัดจำหน่าย ผลิตภัณฑ์ Sachs โช้คอัพคุณภาพจากเยอรมนี สำหรับรถยนต์ญี่ปุ่น และยุโรป, ฟิล์มกรองแสงรถยนต์และอาคารลามิน่า, ศูนย์บริการรถยนต์ครบวงจรเอ็มเอ็มเอส, ผลิตภัณฑ์ทูแนป และยางรถยนต์คอนติเนนทอล จัดกิจกรรม CARZANOVA Safe Fun Drive ครั้งที่ 2 ขึ้นเพิ่มทักษะการขับขี่รถยนต์อย่างปลอดภัย รวมถึงการเรียนรู้เทคโนโลยีความปลอดภัยที่อยู่ในตัวรถ ซึ่งจะช่วยลดอุบัติเหตุบนท้องถนน โดยมีทีมผู้ฝึกสอนจาก โตโยต้า ไดร์ฟวิ่ง เอ็กซ์พรีเรียน พาร์ค และผู้เชี่ยวชาญด้านเทคนิคจาก Sachs ร่วมเป็นผู้อบรมให้ความรู้กับผู้เข้าร่วมกิจกรรม สำหรับกิจกรรมการอบรมครั้งนี้ ในส่วนของภาคทฤษฎี เริ่มตั้งแต่เบสิกการขับรถ ท่านั่งในการขับขี่ ตำแหน่งผู้ขับขี่กับพวงมาลัย ซึ่งจะส่งผลต่อการหมุนพวงมาลัยที่ถูกวิธี ไม่ทำให้มือไขว่กันจนไม่สามารถหลบหลีกสิ่งกีดขวางได้ พร้อมกันนี้ยังได้เรียนรู้ถึงเทคโนโลยีใหม่ของรถยนต์โตโยต้าที่ช่วยให้ขับขี่รถยนต์ได้ง่ายและปลอดภัยมากขึ้น ตั้งแต่ ระบบเบรก ABS, ระบบช่วยกระจายแรงเบรก, ระบบช่วยเบรก, ระบบช่วยควบคุมการทรงตัว, ระบบเทรกชั่นคอนโทรลที่ช่วยลดอาการเลี้ยวไม่เข้าหรือหน้าดื้อรวมถึงอาการท้ายปัด, ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัตขณะลงทางลาดชัน และระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน นอกจากนี้ทางโช้คอัพ Sachs ยังได้ร่วมให้ความรู้เรื่องเทคโนโลยีของระบบช่วงล่าง รวมไปถึงหากระบบช่วงล่างมีปัญหา จะสังเกตอาการของรถได้อย่างไร รวมถึงจะแสดงอาการอย่างไรต่อผู้ขับขี่ ซึ่งหากผู้ขับขี่ไม่รู้ว่าระบบช่วงล่างมีปัญหา ก็เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุบนท้องถนนได้ โดยหลังจากเสร็จสิ้นภาคทฤษฎีแล้ว ก็เข้าสู่ช่วงของการปฏิบัติจริง เริ่มตั้งแต่การสลาลอม ซึ่งการจับพวงมาลัยที่ถูกต้อง ทำให้ผู้ขับรถผ่านไพลอนที่ตั้งห่างกันเป็นระยะไปได้แบบสบายๆ  ต่อมาด้วยการจำลองสถานการณ์ถนนลื่นแล้วเบรกรถอย่างกระทันหันพร้อมทั้งหักหลบสิ่งกีดขวาง ซึ่งเทคโนโลยีระบบเบรก ABS ที่ติดมากับรถโตโยต้าทุกคันจะเป็นตัวช่วยให้สามารถหักหลบสิ่งกีดขวางไปได้ ต่อไปที่การควบคุมรถในโค้ง โดยให้ผู้ปฏิบัติได้เข้าใจอาการของรถ และการถ่ายเทน้ำหนักของรถ ซึ่งจะมีผลกับการควบคุมรถทั้งแบบหน้าดื้อเลี้ยวไม่เข้า (อันเดอร์สเตียร์) หรือท้ายปัดระหว่างเลี้ยวโค้ง (โอเวอร์สเตียร์) ซึ่งสถานีนี้โตโยต้า ซี-เอชอาร์ ซึ่งมีระบบป้องกันล้อหมุนฟรี TRC (Traction Control System) ก็สามารถตอบสนองการเลี้ยวได้อย่างมีประสิทธิภาพ ในช่วงบ่ายยังได้เพิ่มดีกรีการขับขี่ ซึ่งผู้เข้าร่วมกิจกรรมส่วนใหญ่ได้ความรู้มากขึ้น โดยทุกคนสามารถปฏิบัติติได้เป็นอย่างดี...
รถยนต์ในประเทศ

ตลาดรถยนต์ 9 เดือนพุ่งกว่า 20 %

  ตลาดรถยนต์เดือนกันยายน 2561 มียอดการขายรวมทั้งสิ้น 88,706 คัน  เพิ่มขึ้น 14.3%  ตลาดรถยนต์สะสม 9 เดือน มีปริมาณการขาย 746,584 คัน เพิ่มขึ้น 20.3% นายสุรภูมิ อุดมวงศ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด รายงานสถิติการขายรถยนต์ประจำเดือนกันยายน 2561 มียอดการขายรวมทั้งสิ้น 88,706 คัน  เพิ่มขึ้น 14.3%  ประกอบด้วย รถยนต์นั่ง 34,086 คัน เพิ่มขึ้น 15.6%  รถยนต์เพื่อการพาณิชย์ 54,620 คัน เพิ่มขึ้น 13.5% ขณะที่ รถกระบะขนาด 1 ตัน ในเซกเมนท์นี้ มีจำนวน 43,205 คัน เพิ่มขึ้น 13.8% ประเด็นสำคัญ ตลาดรถยนต์เดือนกันยายนปริมาณการขาย 88,706 คัน เพิ่มขึ้น 14.3% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา โดยตลาดรถยนต์นั่งมีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้น 15.6% และตลาดรถยนต์เพื่อการพาณิชย์มีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้น 13.5% ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากความนิยมในรถยนต์รุ่นใหม่และความต้องการของผู้บริโภคที่เพิ่มขึ้น ตลอดจนกิจกรรมส่งเสริมการขายจากค่ายรถต่างๆที่ยังคงมีอยู่อย่างต่อเนื่อง ตลาดรถยนต์สะสม 9 เดือน มีปริมาณการขาย 746,584 คัน เพิ่มขึ้น 20.3% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา โดยตลาดรถยนต์นั่งมีปริมาณการขายเติบโตเพิ่มขึ้น 19% ตลาดรถยนต์เพื่อการพาณิชย์มีปริมาณการขายเติบโตเพิ่มขึ้น 21.1% เป็นผลจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและการลงทุนที่ส่งผลในเชิงบวกต่อภาพรวมของเศรษฐกิจในประเทศ ตลอดจนข้อเสนอพิเศษต่างๆจากบริษัทรถยนต์ในหลากหลายรูปแบบที่เอื้อต่อการตัดสินใจของลูกค้า ล้วนเป็นปัจจัยบวกที่สนับสนุนการเติบโตของตลาดรถยนต์ ตลาดรถยนต์ในเดือนตุลาคม มีแนวโน้มเติบโต จากการที่เศรษฐกิจโดยภาพรวมมีแนวโน้มขยายตัวอย่างต่อเนื่อง โดยมีแรงขับเคลื่อนทั้งจากการบริโภคและการลงทุนของเอกชนที่ปรับตัวดีขึ้น รวมถึงการเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่จากค่ายรถยนต์ต่างๆ แม้ว่าผู้บริโภคบางส่วนจะยังคงมีความกังวลเกี่ยวกับสถานะการณ์การค้าโลก แต่ยังไม่ส่งผลกระทบต่อตลาดรถยนต์มากนัก   สถิติการจำหน่ายรถยนต์...
กิจกรรม & CSR

“มิชลินแมน” รับรางวัล  “Icon of the Millennium”

“บีเบนดั้ม” หรือ “มิชลินแมน” มาสคอตตัวแทนแบรนด์มิชลินที่เราคุ้นหน้าคุ้นตากันดีได้รับรางวัล “Icon of the Millennium” โดย Advertising Week งานซีรี่ส์การประชุมระดับโลกของผู้นำด้านการตลาด การสร้างแบรนด์ และงานโฆษณา ที่จัดขึ้นที่สหรัฐอเมริกา Advertising Week มอบรางวัลนี้ให้กับ “มิชลินแมน” ในวันจันทร์ที่ 1 ตุลาคม ภายในพิธีมอบรางวัลที่จัดขึ้น ณ ไทม์สแควร์ ใจกลางมหานครนิวยอร์ค รางวัลอันทรงเกียรตินี้สร้างความภาคภูมิใจอย่างยิ่งให้กับพนักงานกว่า 110,000 คนของมิชลินกรุ๊ปทั่วโลก และถือเป็นของขวัญวันเกิดที่ยอดเยี่ยมที่สุดสำหรับวาระครบรอบวันเกิด 120 ปีของ บีเบนดั้ม ในปีนี้ Adeline CHALLON-KEMOUN, EVP Brands, Sustainable Development, Communication and Public Affairs ของมิชลินกรุ๊ป กล่าวว่า “บีเบนดั้มถือกำเนิดขึ้นในปี 1898 จากฝีมือการออกแบบของO’Galopศิลปินเชื้อสายฝรั่งเศสชื่อดังและนับจากนั้นเป็นต้นมา มาสคอตตัวนี้ได้ทำหน้าที่เป็นมากกว่าเพียงสัญลักษณ์ในการโฆษณา แต่ได้กลายเป็นคาแรคเตอร์ที่เป็นตัวแทนของทุกสิ่งที่มิชลินกรุ๊ปทำ ทั้งในแง่ของคุณค่าที่เรายึดมั่น ตลอดจนพันธะสัญญา และพันธกิจต่าง ๆ ที่เรามีต่อสังคม บีเบนดั้มเป็นเสมือนโฆษกของแบรนด์ที่เป็นตัวแทนของการขับเคลื่อนที่ดีกว่า โดยทำหน้าที่นำเสนอข้อมูลที่สำคัญต่อผู้ใช้รถใช้ถนนตลอดจนเป็นเพื่อนร่วมทางของพวกเขาในทุกการเดินทาง” ปัจจุบัน บีเบนดั้ม ถือได้ว่าเป็นหนึ่งในเครื่องหมายการค้าที่เก่าแก่ที่สุด เข้าถึงผู้คนทั่วโลก และมีอิทธิพลทางอารมณ์มากที่สุดเครื่องหมายหนึ่ง และมีบทบาทสำคัญในการช่วยนำพาแบรนด์ “มิชลิน” ให้ขึ้นไปอยู่ในอันดับที่ 11 จากการจัดอันดับด้านชื่อเสียงของแบรนด์โดยสถาบันระดับโลก Reputation Institute นับเป็นเวลา 120 ปีแล้ว ที่ “บีเบนดั้ม” ได้มีส่วนร่วมกับความสำเร็จของมิชลิน บริษัทผู้นำด้านยางรถยนต์และคู่มือไกด์บุ๊คระดับโลก โดยมาสคอตตัวนี้ประสบความสำเร็จอย่างงดงามในการสร้างความผูกพันระหว่างแบรนด์มิชลินและลูกค้าได้อย่างเหนียวแน่น...
นวัตกรรมรถยนต์ต่างประเทศ

ก้าวเข้าสู่ยุครถสปอร์ตพลังไฟฟ้ากับ ปอร์เช่ ไทคานน์ ใหม่

ด้วยการทุ่มงบประมาณลงทุนสูงถึง 6,000 ล้านยูโรพร้อมด้วยบุคลากรคุณภาพกว่า 1,200 ตำแหน่งทั้งหมดนี้เพื่อการถือกำเนิดของปอร์เช่ไทคานน์(Porsche Taycan)เท่านั้น พร้อมกับการมุ่งมั่นปรับปรุงพัฒนาสายการผลิตใหม่ Porsche Production 4.0 ผสานกับแคมเปญเผยแพร่องค์ความรู้ให้กระจายทั่วถึงทุกภาคส่วนภายในองค์กร ตอกย้ำถึงความเชื่อมั่นต่อพันธกิจการสร้างสรรค์อนาคตของยานพาหนะพลังงานไฟฟ้า บริษัทผู้ผลิตยนตรกรรมสปอร์ตระดับแนวหน้าของโลก กำลังดำเนินการเปลี่ยนแปลงตัวเองอย่างยิ่งใหญ่ และนี่คืออีกหนึ่งครั้งที่หน้าประวัติศาสตร์วงการยานยนต์จะต้องจารึกเอาไว้ “เราคาดการณ์ว่าภายในปี 2025กว่า50เปอร์เซ็นต์ ของรถยนต์ปอร์เช่รุ่นใหม่ที่วางจำหน่าย จะเป็นรถยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า” ข้างต้นคำกล่าวของ Lutz Meschkeรองประธานและสมาชิกคณะกรรมการบริหาร ผู้รับผิดชอบกำกับดูแลส่วนงานการเงินและเทคโนโลยีสารสนเทศของปอร์เช่งบประมาณดังกล่าวจะครอบคลุมถึงการลงทุนในภาคปฏิบัติอีกด้วยอาทิ การพัฒนาหน่วยงานและปรับปรุงกรรมวิธีการผลิต นอกจากนี้ยังรวมถึงการฝึกอบรมเจ้าหน้าที่ อย่างไรก็ตาม เป้าหมายในแง่ของผลกำไรขั้นต้นซึ่งจะต้องทำให้ได้อย่างน้อย 15 เปอร์เซ็นต์นั้นยังคงไม่มีการเปลี่ยนแปลงแต่อย่างใด"นอกเหนือจากกระบวนการผลิตที่ได้รับการเพิ่มประสิทธิภาพ ในส่วนของรายรับจากผลิตภัณฑ์และบริการด้านดิจิทัลควรจะมีมูลค่าเพิ่มขึ้น สืบเนื่องจากความสำเร็จของธุรกิจหลักของเรา"Meschke กล่าวเสริม อีกหนึ่งตัวอย่างที่แสดงถึงศักยภาพระดับสูงของกระบวนการผลิตรถยนต์และการประยุกต์ใช้ทรัพยากรในสายการผลิตปอร์เช่ไทคานน์ใหม่นั่นคือสิ่งที่เรียกว่า“factory within a factory” ในโรงงานหลักที่Zuffenhausenปอร์เช่เริ่มส่งสัญญาณที่บ่งบอกถึงการยกระดับตนเองออกจากขั้นตอนการผลิตรูปแบบเดิมAlbrecht Reimoldสมาชิกคณะกรรมการบริหารผู้ดูแลรับผิดชอบสายการผลิตและโลจิสติกส์อธิบายว่า “ด้วยการนำกระบวนการผลิตแบบยืดหยุ่นมาปรับใช้งาน ปอร์เช่จะกลายเป็นบริษัทผู้ผลิตรถยนต์รายแรกที่ใช้ระบบการขนส่งของสายงานแบบ driverless transport systems อย่างต่อเนื่องในสายพานการผลิต” สิ่งนี้จะช่วยให้เกิดการผสมผสานข้อได้เปรียบนานับประการระหว่างวิธีการผลิตแบบดั้งเดิมอันรวดเร็วและวิธีการผลิตแบบยืดหยุ่นที่เต็มไปด้วยความอเนกประสงค์ยิ่งไปกว่านั้นวิธีการดังกล่าวยังช่วยเพิ่มจำนวนรอบในการปฏิบัติงานให้สูงขึ้น โดยที่ใช้พื้นที่ในการผลิตเท่าเดิมด้วยแนวคิดที่ยึดตามหลัก“smart, green, lean”ปอร์เช่ยังสามารถควบคุมการใช้ทรัพยากรสำหรับการผลิตได้อย่างดีเยี่ยมอีกด้วยกระบวนการผลิตปอร์เช่ ไทคานน์ นั้นไม่ก่อให้เกิดมลพิษจากสารประกอบคาร์บอนสายการผลิตแห่งนี้ตั้งเป้าหมายเพื่อการเป็นโรงงานที่ปราศจากผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมโดยสมบูรณ์ในอนาคต ความสัมพันธ์อย่างใกล้ชิดขององค์ความรู้ที่มีการเคลื่อนไหวและถ่ายทอดระหว่างสายงานมอเตอร์สปอร์ตและสายการผลิตรถยนต์ปกตินั้นจำเป็นต้องได้รับการเผยแพร่ในวงกว้างยิ่งขึ้น ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดคือ รถแข่งปอร์เช่919 ไฮบริด (Porsche 919 Hybrid)ผู้พิชิตชัยชนะจากการแข่งขัน Le Mans มาแล้วหลายครั้ง ทั้งนี้นวัตกรรมเทคโนโลยีระบบขับเคลื่อนด้วยแรงดันไฟฟ้า 800โวลต์ที่ได้รับการติดตั้งใน ไทคานน์(Taycan)คือสิ่งที่ส่งต่อมาจากรถแข่งพลังแรงคันดังกล่าวระบบขับเคลื่อนสุดล้ำที่เป็นหัวใจหลักของปอร์เช่ 919(Porsche 919) มีส่วนสำคัญอย่างยิ่งในการกำหนดบรรทัดฐานให้กับแหล่งกำเนิดพลังงานไฟฟ้าในรถยนต์: ไม่ว่าจะเป็นชุดแบตเตอรี่ การจัดวางอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์รวมไปถึงปริมาณความจุและกระบวนการชาร์จพลังงานทั้งหมดข้างต้นล้วนแล้วแต่ผ่านการค้นคว้า วิจัย พัฒนาอย่างพิถีพิถันเพื่อให้เหมาะสมกับศักยภาพระดับสูงของระบบ 800 โวลต์ปอร์เช่ผลักดันทุกความเป็นไปได้โดยมีจุดมุ่งหมายในการก้าวข้ามขีดจำกัดเดิมในด้านเทคนิคให้หมดสิ้นไปโดยแบตเตอรี่แบบ liquid-cooled lithium-ionเป็นอีกหนึ่งนวัตกรรมที่ถือกำเนิดขึ้นเพื่อให้สามารถสนองตอบต่อเงื่อนไขของการประลองความเร็วบนสนามแข่งขันอันสุดแสนทรหดปอร์เช่มุ่งมั่นพัฒนาเทคโนโลยีมากมายมาเป็นระยะเวลายาวนานจนกระทั่งประสบความสำเร็จด้วยการสร้างอุปกรณ์กัก เก็บพลังงานไฟฟ้าที่มีความจุมหาศาลอย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน คือเครื่องยืนยันถึงประสิทธิภาพชั้นเลิศในการชาร์จพลังงานย้อนกลับมายังแบตเตอรี่lithium-ion ด้วยระยะเวลาเพียง 4 นาทีสามารถชาร์จพลังงานเพียงพอสำหรับการเดินทางไกลถึง 100 กิโลเมตร  กระบวนการ Quick charging มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อระบบชาร์จพลังงานสำหรับยานพาหนะที่ขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้านั่นคือเหตุผลที่โครงการปอร์เช่ E-Performance ตัดสินใจลงมือพัฒนาในหลากหลายจุดครอบคลุมทั้งระบบสาธารณูปโภคที่สามารถตอบโจทย์และแก้ไขปัญหาการใช้งานทั้งภายในที่พักอาศัยและระหว่างการเดินทางด้วยปริมาณความจุพลังงานไฟฟ้าสูงสุดกว่า 22กิโลวัตต์ระบบ Porsche Mobile...
รถยนต์ในประเทศรถเพื่อการพาณิชย์

อีซูซุ ไฮ-แลนเดอร์  “สเทลธ์”เสริมชุดแต่งดุดันรอบคัน

อีซูซุเปิดตัวยนตรกรรมปิกอัพพันธุ์ดุ ลุยตลาดไตรมาสสุดท้าย นำทัพโดย ใหม่! อีซูซุ       ดีแมคซ์ ไฮ-แลนเดอร์ รุ่นพิเศษ! สเทลธ์ (STEALTH)  ทะยานเหนือชั้น ดุดันทุกองศา มาพร้อมชุดแต่งรอบคัน STEALTH BLACK PACKAGE เข้มเต็มพิกัดทั้งภายนอกและภายใน  ควบคู่กับการปรับโฉมรุ่นไฮ-แลนเดอร์ 1.9 และ 3.0 ดีดีไอ สู่ความเป็นสปอร์ตล้ำสมัย มีระดับยิ่งขึ้น  ตามติดด้วยการเผยโฉมลุคใหม่ของสปอร์ตออฟโรด ดีสุดสุด  ใหม่! อีซูซุดีแมคซ์ วี-ครอส MAX 4x4 ที่ทรงพลังยิ่งขึ้น เพิ่มฟังก์ชั่นล้ำสมัย สมบูรณ์แบบในทุกมิติ  ทุกรุ่นพร้อมตอบสนองไลฟ์สไตล์และเสริมส่งภาพลักษณ์ของผู้ใช้รถให้โดดเด่นอย่างมีเอกลักษณ์ กลุ่มตรีเพชร  โดย นายโทชิอากิ มาเอคาวะ  กรรมการผู้จัดการ บริษัท ตรีเพชรอีซูซุเซลส์ จำกัด เผยว่า  เพื่อตอบรับเทรนด์ความชื่นชอบของผู้ใช้รถปิกอัพรุ่นใหม่ที่ต้องการ “ความแตกต่าง”      ไม่เหมือนใครและตอบสนองไลฟ์สไตล์ของคนเมือง ครั้งนี้อีซูซุจึงได้เลือกรถปิกอัพรุ่นไฮ-แลนเดอร์      รถปิกอัพขับเคลื่อน 2 ล้อยกสูง ซึ่งอีซูซุเป็นผู้บุกเบิกตลาด จนเป็นโมเดลที่ได้รับความนิยมอย่างสูงในตลาดรถปิกอัพ รวมทั้งในกลุ่มลูกค้าอีซูซุเอง จึงทำให้เราได้นำมาจัดทำรุ่นพิเศษ โดยให้ชื่อว่า “สเทลธ์” (STEALTH) ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจจากเครื่องบินรบ STEALTH ที่มีภาพลักษณ์แสดงถึงความแข็งแกร่ง ดุดัน เรามั่นใจอย่างยิ่งว่าจะโดนใจลูกค้ากลุ่มเป้าหมายอย่างแน่นอน ด้วยความเท่ ล้ำสมัยเหนือระดับ ดุดันในทุกองศาจากชุดแต่ง STEALTH BLACK PACKAGE ดีไซน์พิเศษ พร้อมความโดดเด่นด้านสมรรถนะ และความปลอดภัยตามแบบฉบับอีซูซุ จัดทำพิเศษเฉพาะรุ่นเครื่องยนต์อีซูซุ        1.9 ดีดีไอ บลูเพาเวอร์เท่านั้น พร้อมจะเผยโฉมที่โชว์รูมอีซูซุทั่วประเทศ ตั้งแต่วันที่ 29 ตุลาคม 2561 เป็นต้นไป ได้แก่ ใหม่! อีซูซุดีแมคซ์ ไฮ-แลนเดอร์ 4 ประตู รุ่นพิเศษ! สเทลธ์...
นวัตกรรมรถใหม่ต่างประเทศ

Volvo 360c ยานยนต์ไร้คนขับ ปลอดภัยไร้อุบัติเหตุ

วอลโว่ ริเริ่มแนวคิดการพัฒนารถยนต์ขับเคลื่อนอัตโนมัติรุ่น 360c ใหม่ล่าสุด มุ่งหน้าสู่ความท้าทายใหม่ในการนำเสนอเทคโนโลยีการขับเคลื่อนอัตโนมัติ พร้อมเรียกร้องให้ทั่วโลกสร้างมาตรฐานสากลรูปแบบใหม่เพื่อการสื่อสารของรถยนต์ระบบอัตโนมัติกับผู้ใช้รถใช้ถนนได้อย่างปลอดภัย การขับเคลื่อนอัตโนมัติและความปลอดภัยมีความสัมพันธ์กันอย่างมาก และเทคโนโลยีมีศักยภาพในการยกระดับสวัสดิภาพบนท้องถนนได้อย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งเห็นได้จากการที่วอลโว่ได้คิดค้นเข็มขัดนิรภัยแบบสามจุดมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1959 อย่างไรก็ดี เทคโนโลยีระบบอัตโนมัติไม่สามารถนำมาใช้ได้ในชั่วข้ามคืน หากต้องดำเนินการอย่างค่อยเป็นค่อยไป ดังนั้น รถยนต์ระบบอัตโนมัติเต็มรูปแบบจะถูกนำมาใช้ในสภาพการขับขี่บนท้องถนนแบบผสมผสานซึ่งรถยนต์ไร้คนขับจะได้ใช้ถนนร่วมกับผู้ใช้รถใช้ถนนคนอื่น ๆ สภาพการจราจรบนท้องถนนนั้นระบบอัตโนมัติไม่สามารถตรวจจับผู้อื่นและไม่สามารถล่วงรู้ถึงเจตนาของผู้ขับรถยนต์คันอื่นได้ ซึ่งนี่ถือเป็นองค์ประกอบหลักของการเกิดปฏิสัมพันธ์ของผู้ใช้ท้องถนนในทุกวันนี้ ทีมวิศวกรด้านความปลอดภัยของวอลโว่จึงตัดสินใจมุ่งหน้าสู่ความท้าทายนี้ เพื่อค้นหาการสร้างวิธีการที่ปลอดภัยในการสื่อสารระหว่างรถยนต์ระบบอัตโนมัติกับผู้ใช้รถใช้ถนนคนอื่นๆ ซึ่งเรื่องนี้ถือเป็นส่วนสำคัญในการพัฒนารถยนต์รุ่น 360c รุ่นใหม่ของวอลโว่ นอกจากนี้ วอลโว่ยังให้ความสำคัญกับการสร้างมาตรฐานสากล เพื่อให้ผู้ใช้รถใช้ถนนไม่ต้องกังวลถึงรูปแบบหรือแบรนด์ผู้ผลิตรถยนต์ระบบอัตโนมัติที่มีลักษณะการใช้งานที่แตกต่างกัน รถยนต์รุ่น 360c แก้ไขปัญหาในเรื่องนี้ด้วยการนำเสนอระบบที่จับทั้งสัญญาณเสียง สี ภาพ การเคลื่อนไหวภายนอกตัวรถ รวมถึงการผสมผสานเครื่องมือเหล่านี้เข้าด้วยกัน เพื่อใช้ในการสื่อสารเจตนาของผู้ขับไปยังผู้ใช้รถใช้ถนนคนอื่น ๆ ซึ่งจะช่วยสร้างความชัดเจนได้ตลอดเวลาว่ารถยนต์คันนี้จะทำสิ่งใดเป็นไปตามลำดับ สิ่งสำคัญเหนืออื่นใด แม้การออกแบบเทคโยโลยีการสื่อสารที่ปลอดภัยของ 360c จะให้ความสำคัญกับการสื่อสารเจตนาของผู้ขับไปยังผู้ใช้รถใช้ถนนคนอื่น ๆ แล้วก็ตาม แต่ 360c จะไม่มีการบังคับทิศทางหรือให้คำชี้นำใด ๆ กับผู้ใช้รถใช้ถนนคนอื่น ๆ “เราเชื่อมั่นอย่างยิ่งว่า รูปแบบการสื่อสารนี้ควรกำหนดเป็นมาตรฐานสากล เพื่อให้ผู้ใช้รถใช้ถนนทุกคนสามารถสื่อสารกับรถยนต์ระบบอัตโนมัติได้อย่างง่ายดาย โดยไม่ต้องกังวลว่าเป็นรถยนต์ที่พัฒนาโดยผู้ผลิตรายใด” มาลิน เอคโฮล์ม รองประธานศูนย์ความปลอดภัยวอลโว่ กล่าว “เป็นเรื่องสำคัญที่เราจะต้องไม่ชี้นำผู้ใช้รถใช้ถนนคนอื่น ๆ ให้ปฏิบัติสิ่งใดเป็นขั้นตอนตามลำดับ เพื่อหลีกเลี่ยงความสับสนที่อาจจะเกิดขึ้นได้ งานวิจัยของเราแสดงให้เห็นว่านี่คือวิธีการที่ปลอดภัยที่สุดของรถยนต์ระบบอัตโนมัติเต็มรูปแบบ ในการสื่อสารกับผู้ใช้รถใช้ถนนทั่วไป” รถยนต์รุ่น 360c แสดงให้เห็นถึงวิสัยทัศน์ของวอลโว่ในเรื่องของการเดินทางในอนาคต ที่ควบคุมด้วยระบบอัตโนมัติ พลังงานไฟฟ้า การเชื่อมต่อ และความปลอดภัย ซึ่งจะทำให้แบรนด์วอลโว่รุกสู่ตลาดที่มีศักยภาพแห่งใหม่ รถยนต์รุ่นนี้ยังมอบความเป็นเลิศในการใช้งานยานยนต์อัตโนมัติแห่งอนาคตทั้ง 4 รูปแบบ ได้แก่การมีสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมกับการนอนหลับ สำนักงานเคลื่อนที่ ห้องพักผ่อน และศูนย์รวมความบันเทิง ซึ่งจะเปลี่ยนแนวคิดในการเดินทางของผู้คนไปตลอดกาล สำหรับสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมกับการนอนหลับ ทีมวิศวกรรด้านความปลอดภัยของวอลโว่ได้คำนึงถึงอนาคตของเทคโนโลยีด้านความปลอดภัยและท่วงท่าของผู้โดยสารที่จะส่งผลถึงความปลอดภัย โดยได้มีการติดตั้งผ้าห่มนิรภัยรุ่นพิเศษในการสร้างสรรค์สภาพแวดล้อมที่เหมาะสมกับการนอนหลับเพื่อแสดงถึงระบบการควบคุมแห่งอนาคตที่ทำงานเหมือนกับระบบเข็มขัดนิรภัยแบบสามจุด แต่สามารถปรับตำแหน่งให้เหมาะสมกับการเอนตัวนอนของมนุษย์ในขณะเดินทางได้อย่างเหมาะสม รถยนต์วอลโว่รุ่น 360c มุ่งเป้าหมายไปที่กลุ่มลูกค้ารุ่นใหม่ที่มีศักยภาพต่อการเติบโตของบริษัท และถือเป็นการสื่อนัยต่อความจำเป็นในการวางผังเมือง การสร้างสาธารณูปโภคพื้นฐาน และการวางแนวทางการสร้างสรรค์สภาพแวดล้อมของเมืองสมัยใหม่ที่อาจเกิดขึ้นได้จริงในอนาคตอันใกล้นี้  ...
เทสต์ไดรฟ์

เบนซ์ เปิดตัว 3 รถแรง พร้อมกิจกรรม  Mercedes-AMG Driving Experience  2018

บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด ตอกย้ำภาพการเป็นผู้ผลิตรถสปอร์ตสายพันธุ์แรงระดับแถวหน้าของโลก เปิดตัวรถยนต์ 3 รุ่น อย่าง Mercedes-AMG C 43 4MATIC Coupé               รุ่นประกอบในประเทศโฉมใหม่ Mercedes-AMG E 63 S 4MATIC+ และ Mercedes-Benz                C 200 Coupé AMG Dynamic รุ่นประกอบในประเทศโฉมใหม่มาให้ชมกันอย่างใกล้ชิด พร้อมจัดกิจกรรม Mercedes-AMG Driving Experience 2018 เป็นครั้งแรกในประเทศไทย กับการขนทัพรถยนต์สปอร์ตสมรรถนะสูงภายใต้แบรนด์เมอร์เซเดส-เอเอ็มจีครบทั้งตระกูลกว่า 9 รุ่น        ในทุกเซ็กเมนต์ พาสื่อมวลชน และลูกค้าก้าวข้ามขีดความสามารถของตนเองขึ้นไปอีกขั้น ด้วยการเรียนรู้เทคนิคการขับขี่แบบเต็มสมรรถนะ กับทีมผู้ฝึกสอนมืออาชีพ ดีกรีแชมป์การแข่งขัน มอเตอร์สปอร์ตระดับโลก ณ สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จังหวัดบุรีรัมย์ นายโรลันด์ โฟลเกอร์ ประธานบริหาร บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า        นับตั้งแต่ที่เมอร์เซเดส-เบนซ์ ได้เปิดตัวแบรนด์เมอร์เซเดส-เอเอ็มจีในประเทศไทยอย่าง           เป็นทางการ เราได้นำเสนอรถยนต์รุ่นใหม่ พร้อมทำการตลาดที่หลากหลายเพื่อตอกย้ำภาพ          การเป็นผู้ผลิตรถสปอร์ตระดับแถวหน้าของโลกให้แก่ลูกค้าในประเทศไทยมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจาก               ความมุ่งมั่นดังกล่าว ส่งผลให้เราได้รับความไว้วางใจจากลูกค้าที่สนใจรถยนต์สปอร์ต         สมรรถนะสูง ด้วยยอดขายรถยนต์เมอร์เซเดส-เอเอ็มจีทั่วโลกสูงถึงกว่า 130,000 คันเมื่อปี         พ.ศ. 2560 ที่ผ่านมา “การส่งมอบผลิตภัณฑ์ที่ ‘ขับเคลื่อนทุกสมรรถนะ – Driving Performance’ ถือเป็นหัวใจหลักของแบรนด์ โดยผลิตภัณฑ์ของเมอร์เซเดส-เอเอ็มจี ต้องมีทั้งเทคโนโลยีที่ล้ำสมัย เต็มเปี่ยมด้วยนวัตกรรมเพื่อมอบความโฉบเฉี่ยว และเร้าอารมณ์ให้แก่ผู้ขับขี่ ซึ่งนอกจากผลิตภัณฑ์ที่ดีแล้ว               การขับขี่อย่างปลอดภัย และเต็มสมรรถนะของรถยนต์ถือเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่ทางบริษัทฯ                 ให้ความสำคัญ  ด้วยเหตุนี้ เราจึงได้จัดกิจกรรม Mercedes-AMG...
รถยนต์ในประเทศ

โตโยต้า แนะนำ “Yaris G+” และ “ATIV S+” ความคุ้มค่าที่ลงตัวอย่างไร้ที่ติ

นายวุฒิกร สุริยะฉันทนานนท์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด แนะนำรถยนต์นั่งขนาดเล็กยอดนิยมของคนไทย โตโยต้า ยาริส จีพลัส (Yaris G+) และโตโยต้ายาริส เอทีฟ เอสพลัส (Yaris ATIV S+) ที่มาพร้อมกับรูปลักษณ์ภายนอกสไตล์สปอร์ตโฉบเฉี่ยว ภายในตกแต่งให้ดูพรีเมียม สวยสะดุดตา ครบครันด้วยอุปกรณ์อำนวยความสะดวก ให้ความคุ้มค่าที่สมบูรณ์แบบตอบรับกับไลฟ์สไตล์อันหลากหลายของคนรุ่นใหม่ได้อย่างลงตัว บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด ได้แนะนำรถอีโคคาร์แฮทช์แบ็ค โตโยต้ายาริส เครื่องยนต์ขนาด 1.2 ลิตร ในเดือนตุลาคมปี 2556 เพื่อตอบสนองความนิยมรถเครื่องยนต์ขนาดเล็กในประเทศไทย และในเดือน สิงหาคมปี 2560 ได้เปิดตัวรถอีโคคาร์รุ่นใหม่ล่าสุด ครั้งแรกของโลกกับโตโยต้ายาริส เอทีฟ ที่มีคุณลักษณะโดดเด่น กว้างขวางสะดวกสบาย สมรรถนะการขับขี่คล่องตัว ให้ความรู้สึกสนุกในทุกการขับขี่ และยังคงไว้ซึ่งเครื่องยนต์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ส่งผลให้ประหยัดน้ำมันสูงสุด ที่สำคัญเพิ่มความมั่นใจในการขับขี่ด้วยระบบความปลอดภัยมาตรฐานเหนือรถระดับเดียวกัน การันตีด้วยการรับรองมาตรฐานความปลอดภัยระดับ 5 ดาว จากอาเซียน เอ็นแคป (ASEAN NCAP)* ทำให้ครองใจลูกค้าชาวไทยด้วยดีตลอดมา โดยรถอีโคคาร์ทั้ง 2 รุ่นนี้ สร้างยอดขายสะสมรวมมากกว่า 50,000 คัน ตั้งแต่เดือนมกราคมปี 2561 เป็นต้นมา ถือเป็นยอดขายอันดับ 1 ของรถอีโคคาร์ในตลาดเมืองไทย และเพื่อเป็นอีกหนึ่งทางเลือกสุดพิเศษสำหรับลูกค้ารุ่นใหม่ ที่มีสไตล์เป็นของตัวเอง โดดเด่น ไม่เหมือนใคร โตโยต้าได้แนะนำ 2 รุ่นใหม่ คือ โตโยต้า ยาริส จีพลัส (Yaris G+) ที่ครบครันด้วยอุปกรณ์อำนวยความสะดวก ล้ำสมัย ตอบโจทย์ทุกการใช้งาน และโตโยต้ายาริส เอทีฟ เอสพลัส...
1 270 271 272 273 274 288
Page 272 of 288