the latest news

รถจักรยานยนต์

“ปตท.” โหมโรง“โมโตจีพี” ชี้เงินสะพัดหลายพันล้าน

“ปตท.” ยักษ์ใหญ่พลังงานไทย ประกาศชัดเจน “โมโตจีพี” ครั้งแรกจะจารึก “ประเทศไทย” ลงในประวัติศาสตร์มอเตอร์สปอร์ตโลก มั่นใจสร้างรายได้หมุนเวียนในประเทศหลายพันล้าน ชี้ความนิยมของแฟนชาวไทยไม่แพ้ชาติใด เชื่อจะออกมาแสดงพลังให้ทั่วโลกเห็นศักยภาพที่ยิ่งใหญ่ในการเป็นเจ้าภาพ “พีทีที ไทยแลนด์ กรังด์ปรีซ์2018” บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือ PTTORผู้สนับสนุนหลักอย่างเป็นทางการของการแข่งขันจักรยานยนต์ทางเรียบชิงแชมป์โลก โมโตจีพี ครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของประเทศไทย ซึ่งจะมีขึ้นระหว่างวันที่ 5-7 ตุลาคมนี้ ที่สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนลเซอร์กิต จ.บุรีรัมย์ ภายใต้ชื่อรายการ “พีทีที ไทยแลนด์ กรังด์ปรีซ์2018” ล่าสุดบรรยากาศของความนิยมในกีฬามอเตอร์สปอร์ตของแฟนชาวไทยนั้นตื่นตัวขึ้นอย่างมาก โดยเฉพาะการต้อนรับศึก โมโตจีพี ครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของไทยนั้นได้รับการตอบรับที่ยอดเยี่ยม ขณะที่บัตรเข้าชมการแข่งขัน “พีทีที ไทยแลนด์​ กรังด์ปรีซ์” ทั้งแกรนด์สแตนด์ รวมถึงโซนเชียร์นักบิดอย่าง วาเลนติโน รอสซี่ และ มาร์ค มาร์เกซ สองดาวดังของโมโตจีพีก็หมดลงอย่างรวดเร็ว ปัจจุบันเหลือเพียงบัตรไซด์แสตนด์ ราคา 2,000 บาท อีกเพียงไม่ถึงพันใบและบัตรวีไอพี ราคา 20,000 บาท ไม่ถึงสิบใบ นายบุรณินรัตนสมบัติ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ธุรกิจหล่อลื่น บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน)  เปิดเผยว่า “นี่คือโอกาสครั้งสำคัญที่คนไทยจะทำให้ประเทศของเราได้สร้างชื่อเสียงในระดับโลก โดยโมโตจีพี ครั้งนี้ จะจารึกประเทศไทยเข้าไปอยู่ในประวัติศาสตร์ของมอเตอร์สปอร์ตโลก ว่าคนไทยมีศักยภาพในการจัดการแข่งขันกีฬาระดับโลก สามารถรองรับแฟนกีฬาและนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกได้อย่างดี และแน่นอนคือเป็นโอกาสที่ดีในการประชาสัมพันธ์ประเทศไทยทั้งในแง่การท่องเที่ยว และเศรษฐกิจของชาติไปในตัว” “ในช่วงดังกล่าวผมเชื่อว่าจะมีเม็ดเงินหมุนเวียนในไทยหลายพันล้านบาท และแน่นอนว่าจะหมุนเวียนไปถึงประชาชนทุกระดับ นี่คือสิ่งที่ ปตท. พยายามทำมาตลอดคือการสนับสนุนให้เกิดอีเวนต์ระดับโลกในเมืองไทย และกระจายรายได้ไปสู่ทุกภาคส่วน” นายบุรณิน เผย ขณะเดียวกัน นายบุรณิน ยังกล่าวถึงการแข่งขัน โมโตจีพี รายการ พีทีที ไทยแลนด์ กรังด์ปรีซ์ ว่า...
งานแสดงรถยนต์เทสต์ไดรฟ์

ขับ เบนซ์ C 250 Coupé AMG Dynamic ไปร่วมงาน “Mercedes-Benz StarFest 2018”

ช่วงครึ่งปีหลัง บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย)จำกัด สร้างสีสันการตลาดด้วยการจัดงานแสดงรถยนต์“Mercedes-Benz StarFest 2018” แบบคาราวานทั่วประเทศไทยขนทัพยนตรกรรมรุ่นใหม่ล่าสุดอย่างMercedes-Benz S-Class Coupé พร้อมด้วยรถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์อื่นๆ อีกกว่า7รุ่น ครบครันในทุกเซ็กเมนต์ ทั้งCompact Car, Contemporary Luxury, Dream Car, SUVและ Mercedes-AMG พร้อมเชิญ สื่อมวลชนร่วมทดสอบสมรรถนะรถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์ จำนวน 6รุ่นได้แก่C 250 Coupé AMG Dynamic, CLA 250 AMG Dynamic, GLC 250d 4MATIC OFF-ROAD, GLC 250 4MATIC Coupé AMG Plus, E 200 Coupé AMG Dynamic และ S 350 d AMG Dynamic นายฟรังค์ ชไตน์อัคเคอร์ รองประธานบริหารฝ่ายขายและการตลาด บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า“ในครึ่งปีหลังของปี 2018  เมอร์เซเดส-เบนซ์ยังคงยึดมั่นในแนวคิดที่จะนำเสนอ“สิ่งที่ดีที่สุด”ให้กับลูกค้าทั้งในวันนี้และวันข้างหน้า เพื่อตอกย้ำความเป็นผู้นำอันดับหนึ่งของแบรนด์รถยนต์หรูในประเทศไทยโดยสำหรับกิจกรรม “Mercedes-Benz StarFest” ถือเป็นอีกหนึ่งงานแสดงรถยนต์ประจำปีของเมอร์เซเดส-เบนซ์ที่ลูกค้าให้ความสนใจเป็นอย่างดี ซึ่งจากฐานลูกค้าของเมอร์เซเดส-เบนซ์ที่เพิ่มมากขึ้นในทุกปี ทำให้เมื่อปีที่ผ่านมา เราได้ริเริ่มจัดกิจกรรมสตาร์เฟสในรูปแบบของคาราวานขึ้นเป็นครั้งแรก เพื่อให้ผู้ที่ชื่นชอบรถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์ทั่วประเทศไทยได้สัมผัสยนตรกรรมอันล้ำสมัยของเรากันอย่างใกล้ชิด ซึ่งกิจกรรมนี้ถือว่าได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี” “เพื่อเป็นการสานต่อความสำเร็จที่เกิดขึ้น ในปีนี้เราจึงได้จัดงาน“Mercedes-Benz StarFest2018” ในรูปแบบคาราวานอีกครั้งพร้อมขยายพื้นที่จัดงานเพิ่มขึ้นรวมทั้งสิ้น 8แห่งทั่วประเทศโดยเริ่มตั้งแต่จุดหมายแรก ณ ลาน Central Court, Edenและ Dazzleศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ กรุงเทพมหานครเมื่อวันที่ 18-22กรกฎาคม,ศูนย์การค้า เซ็นทรัล เฟสติวัล หาดใหญ่จ.สงขลา ในวันที่...
กิจกรรม & CSR

ทีมช่างอีซูซุไทยคว้าแชมป์ I-1 Grand Prix 2018 

ทีมช่างอีซูซุไทยสุดเจ๋ง คว้าแชมป์ในการแข่งขันทักษะบริการด้านเทคนิคของอีซูซุ ระดับนานาชาติ สำหรับกลุ่มรถปิกอัพ ประจำปี 2018 (Isuzu World Technical Competition I-1 Grand-Prix 2018, LCV division)  ซึ่งปีนี้จัดการแข่งขันขึ้นในประเทศไทยและมีทีมตัวแทนจากผู้จำหน่ายอีซูซุ  24 ประเทศทั่วโลกเข้าร่วมการแข่งขัน เพื่อเป้าหมายในการยกระดับทักษะการบริการหลังการขายของกลุ่มอีซูซุทั่วโลก   เพื่อเสริมสร้างความมั่นใจและความพอใจสูงสุดของผู้ใช้รถอีซูซุ ณ อิมแพ็คอารีน่า เมืองทองธานี  โดยมี นายมาซาโนริ คาตายามา กรรมการผู้จัดการ บริษัท อีซูซุ  มอเตอร์  ประเทศญี่ปุ่น บินจากกรุงโตเกียวเพื่อมาเป็นประธานในการแข่งขัน  พร้อมด้วยผู้บริหารระดับสูงของกลุ่มอีซูซุทั่วโลก การแข่งขันทักษะบริการด้านเทคนิคของอีซูซุ ระดับนานาชาติ หรือ I-1 Grand Prix   เป็นการแข่งขันทดสอบความรู้ด้านทฤษฎีเทคนิคช่างยนต์   และการสอบภาคปฏิบัติเกี่ยวกับกระบวนการคิดและตัดสินใจในการแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ภายในระยะเวลาจำกัด เสมือนสถานการณ์จริงในการทำงาน  โดย 1 ทีมประกอบด้วยสมาชิก 3 คน ได้แก่ ช่างเทคนิค 2 คน และโค้ช 1 คน    ซึ่งปีนี้มีทีมตัวแทนจาก  อีซูซุทั่วโลกเข้าร่วมแข่งขันรวม 24 ทีม  ได้แก่ กลุ่มเอ : ออสเตรเลีย เบลเยียม  กัมพูชา  จีน  ปารากวัย  กาตาร์  เอลซัลวาดอร์  ลาว  อียิปต์  อินเดีย  อินโดนีเซีย และมาเลเซีย กลุ่มบี : มอลตา ซาอุดิอาระเบีย  ปานามา  นิวซีแลนด์  ฟิลิปปินส์  รัสเซีย  สิงคโปร์  แอฟริกาใต้  ศรีลังกา  ไทย  อังกฤษ และเวียดนาม ผลการแข่งขัน...
รถยนต์ในประเทศ

ส.ค.ยอดขายรถเพิ่มขึ้นกว่า 27 %

เดือนส.ค. ผลิตรถยนต์ 181,237 คัน เพิ่มขึ้น 2.15 % ขายในประเทศ 86,780 คัน เพิ่มขึ้น 27.7 %ส่งออก 102,513 คัน ลดลง 0.38 % นายสุรพงษ์  ไพสิฐพัฒนพงษ์  รองประธานและโฆษกกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า จำนวนการผลิต ยอดขายภายในประเทศ และการส่งออกรถยนต์และรถจักรยานยนต์ของประเทศ ในเดือนสิงหาคม 2561 ดังต่อไปนี้   จำนวนรถยนต์ทั้งหมดที่ผลิตได้ในเดือนสิงหาคม 2561 มีทั้งสิ้น 181,237 คัน เพิ่มขึ้น 2.15 %จากการผลิตรถยนต์นั่งและรถกระบะเพื่อจำหน่ายในประเทศเพิ่มขึ้น   ขณะที่ในเดือนมกราคม - สิงหาคม 2561 ผลิตได้ มีจำนวนทั้งสิ้น 1,420,925 คัน เพิ่มขึ้น 10.37 % ส่วนการส่งออกรถยนต์สำเร็จรูป เดือนสิงหาคม 2561 ส่งออกได้ 102,513 คัน ลดลง 0.38 % เนื่องจากการส่งออกรถยนต์นั่งและรถ PPV ที่ลดลง โดยลดลงเกือบทุกตลาด ยกเว้นตลาดเอเชีย ตลาดแอฟริกา และตลาดยุโรป  มูลค่าการส่งออก 55,727.22 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2.8%  มูลค่าเพิ่มขึ้นเนื่องจากส่งออกรถกระบะเพิ่มขึ้น 7.02 % เครื่องยนต์ มีมูลค่าการส่งออก 3,158.98 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5.97%  ชิ้นส่วนรถยนต์อื่นๆ มีมูลค่าการส่งออก 19,675.17 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 21.77 % อะไหล่รถยนต์ มีมูลค่าการส่งออก 2,037.16 ล้านบาท...
รถเพื่อการพาณิชย์

มิตซูบิชิฉลอง 40 ปีรถกระบะเตรียมเปิดตัวรถรุ่นใหม่

ในปี พ.ศ. 2521เป็นยุคแห่งการเปลี่ยนแปลง อุตสาหกรรมวีดีโอเกมได้ถือกำเนิดขึ้น เครือข่ายโทรศัพท์มือถือกำลังถูกพัฒนาขึ้นในประเทศญี่ปุ่น และซุปเปอร์แมนเริ่มเป็นที่โด่งดังในโลกภาพยนตร์ ในช่วงเวลาเดียวกันนี้รถกระบะมิตซูบิชิขนาดหนึ่งตันได้ถูกเผยโฉมขึ้นเป็นครั้งแรก และในอีกสี่ทศวรรษต่อมารถรุ่นดังกล่าวได้กลายเป็นยานพาหนะสำหรับผู้คนทั่วโลกมากกว่า 4.7 ล้านคน รถกระบะมิตซูบิชิโดดเด่นด้วยความสามารถในการขับเคลื่อนบนทุกสภาพถนนและภูมิประเทศ ด้วยการพัฒนาและออกแบบเพื่อมุ่งตอบสนองทุกความปรารถนาของลูกค้าผู้ชื่นชอบรถกระบะทั้งในด้านความแข็งแกร่งทนทาน และการบรรทุกสัมภาระรวมถึงความอเนกประสงค์และความสะดวกสบายในการโดยสารที่ไม่ต่างไปจากรถยนต์นั่งแบบซีดาน รถกระบะมิตซูบิชิรุ่นแรกเผยโฉมในนาม ฟอร์เต้(FORTE)หรือแอล200 (L200) ในบางประเทศที่ยังถูกใช้งานจนถึงปัจจุบัน โดยรถกระบะมิตซูบิชิ ฟอร์เต้ได้รับการพัฒนาให้แข็งแกร่งทนทานต่องานบรรทุกทั้งผู้โดยสารและสัมภาระ รถกระบะมิตซูบิชิ ฟอร์เต้ขนาดหนึ่งตันขับขี่ง่ายสมรรถนะแกร่งทนทานกับการใช้งานบรรทุกสัมภาระ จึงได้รับความนิยมไปทั่วโลกในเวลาไม่นาน ทั้งในประเทศที่มีสภาพภูมิอากาศแบบหนาวจัดและแบบทะเลทรายที่ร้อนระอุ กระนั้น มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ยังคงมุ่งมั่นพัฒนารถกระบะให้แก่ลูกค้า เพื่อให้สามารถฝ่าฟันทุกอุปสรรคและไปได้ไกลกว่าเดิม ด้วยการคิดค้นระบบขับเคลื่อนสี่ล้อระดับตำนานมาใช้ในรถกระบะมิตซูบิชิ ฟอร์เต้รุ่นปี พ.ศ. 2523ซึ่งต่อมาได้กลายต้นแบบของยนตรกรรมขับเคลื่อนสี่ล้อยุคใหม่ของ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ได้แก่ มิตซูบิชิ ปาเจโร หรือ มอนเทโร และ มิตซูบิชิ เดลิกา ในเวลาต่อมา รถกระบะมิตซูบิชิถูกส่งไปจำหน่ายในอีกหลายประเทศภายใต้ชื่อไทรทันซึ่งประสบความสำเร็จและได้กลายเป็นหนึ่งในแรงขับเคลื่อนธุรกิจที่สำคัญของ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส อีกด้วย ทั้งนี้แพลตฟอร์มของ มิตซูบิชิ ไทรทันเจอเนอเรชั่นแรก และเจนเนอเรชั่นที่สอง ได้รับการพัฒนาขึ้นที่ศูนย์การผลิตยานยนต์ของมิตซูบิชิ มอเตอร์สที่เขตโอเอะ เมืองนาโกย่าและต่อมา มิตซูบิชิ ไทรทัน เจอเนอเรชั่นที่สามในปี พ.ศ. 2538ซึ่งถูกผลิตขึ้นและส่งออกไปยังตลาดทั่วโลกจากศูนย์การผลิตยานยนต์ มิตซูบิชิ มอเตอร์สแหลมฉบัง ประเทศไทยและปัจจุบันยังเป็นศูนย์การผลิตยานยนต์ที่ใหญ่ที่สุดของ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ด้วยจำนวนการผลิตประมาณ 400,000 คัน ยนตรกรรมกระบะรุ่นใหม่แห่งอนาคตพร้อมแล้วสำหรับการเผยโฉมเร็วๆนี้...
นวัตกรรม

มิชลิน ไพรมาซี่ 3 แซดพี รุกตลาดยางรันแฟลต

  ยางมิชลินส่ง ‘มิชลิน ไพรมาซี่ 3 แซดพี’ (MICHELIN Primacy 3 ZP) ลงรุกตลาด “ยางรันแฟลต” (Run-Flat Tyre) …ยางที่วิ่งต่อได้แม้ไม่มีลมยางในกรณีที่ยางรั่วซึมหรือถูกตำทะลุขณะใช้งาน (ระยะทางไม่เกิน 80 กิโลเมตร ที่ความเร็วไม่เกิน 80 กิโลเมตรต่อชั่วโมง) ทำให้สามารถควบคุมรถและขับต่อไปยังสถานที่ปลอดภัยได้โดยไม่ต้องกังวลหรือเสี่ยงอันตรายจากการจอดเปลี่ยนยางอะไหล่ข้างทาง พร้อมปรับลดราคาให้ผู้ขับขี่สามารถสัมผัสอีกระดับของความปลอดภัยจากยางรันแฟลตได้ในราคาคุ้มค่ายิ่งขึ้น ทั้งนี้ ผลิตภัณฑ์ยางในตระกูล ZP (Zero Pressure) ใช้ได้กับรถยนต์ที่ออกแบบมาเพื่อรองรับยางรันแฟลตเท่านั้น เช่น BMW หรือ Mercedes-BENZ เกือบทุกรุ่น จุดเด่นพิเศษของยาง ‘มิชลิน ไพรมาซี่ 3 แซดพี’ คือ ปลอดภัยเป็นเยี่ยมบนทุกสภาพถนนด้วยเนื้อยางสูตรใหม่ที่ช่วยให้มีระยะเบรกสั้นลงกว่ายางตระกูล ZP รุ่นก่อนหน้าทั้งบนถนนเปียกและแห้ง อีกทั้งลวดลายดอกยางแบบใหม่และแถบเนื้อยางเสริมระหว่างบล็อกดอกยางและดอกยางแบบตัดมุมยังช่วยเพิ่มพื้นที่หน้าสัมผัสและสมรรถนะการยึดเกาะ จึงเบรกและเข้าโค้งได้อย่างมั่นใจ, นุ่มสบายในยามขับขี่มากกว่ายางรันแฟลตทั่วไปด้วยเนื้อยางสูตรใหม่บริเวณแก้มยางและท้องยางให้ความยืดหยุ่นช่วยดูดซับแรงกระแทกและเพิ่มประสิทธิภาพในการประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิง ทั้งยังใช้ลวดเสริมขอบยางขนาดเล็กลงแต่แข็งแรงเท่าเดิมช่วยให้ยางมีน้ำหนักและความกระด้างลดลง  นอกจากนี้ยังให้ความเงียบขณะขับขี่ไม่ต่างจากยางปกติรุ่นเดียวกันของมิชลินอีกด้วย ผู้สนใจสามารถเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ยาง ‘มิชลิน ไพรมาซี่ 3 แซดพี’ ซึ่งมีวางจำหน่ายรวมทั้งสิ้น 16 ขนาด (ขอบ 16-19 นิ้ว) ได้ที่เครือข่ายศูนย์บริการรถยนต์ครบวงจร ‘ไทร์พลัส’ และร้านตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการของมิชลินทั่วประเทศ ราคาจำหน่ายเริ่มต้นที่ 5,990 บาทต่อเส้น © Photo François Berrué tel : 0609245160  ...
1 402 403 404 405 406 424
Page 404 of 424